รีวิวซีรีส์ First Love 初恋 | รักแรก สีฟ้า อูทาดะ ฮิคารุ ซีรีส์ญี่ปุ่นที่เขียนจากเพลงของอูทาดะ ฮิคารุ เล่าเรื่องได้โดนใจจนอดเสียน้ำตาไม่ได้จริงๆ เชื่อว่ามนุษย์เกิดมาทุกคน ต้องเคยผ่านการมีความรักครั้งแรกด้วยกันมาทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นแค่การแอบรัก รักข้างเดียว หรือรักใจตรงกัน แต่ว่านะ หลายๆ คนก็น่าจะพบเจอเรื่องราวคล้ายๆ กัน ตรงที่ความรักครั้งแรกมักไม่สมหวัง คนสองคนที่เคยมีใจตรงกัน แต่วันเวลา (ไม่อยากจะโทษแกเลยนะ) ก็มักจะพรากพวกเขาให้ต้องจากกันไปเสมอ สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลือเอาไว้ ไม่ว่าจะอย่างไร ความทรงจำของรักครั้งนั้นจะยังคงค้างอยู่ในใจเสมอมา แล้วใครล่ะ จะไม่อินกับ ‘First Love’ (ซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีชื่อไทยตรงตัวเลย ‘รักแรก’) ล่ะเนอะ! เอาเข้าจริง ก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองค่อนข้างจะดูซีรีส์ญี่ปุ่นน้อยไปนิดนึง แต่เหมือนว่าจะไม่อาจต้านทานกระแสความชื่นชมที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้ได้ เมื่อเปิดดูเครดิตก็พบว่าเป็นผลงานของผู้กำกับหญิง Yuri Kanchiku ที่เธอทั้งเขียนบทและกำกับเลย เธอเคยกำกับหนังสารคดีของกลุ่มไอดอลสาว AKB48 มาสองเรื่อง แต่เรื่องนี้คือผลงานแรกที่นายแพทได้ดู แล้วก็พบว่ามันโดนใจอย่างมาก โดนตรงไหนอย่างไร จะขอเล่าให้อ่านกันไปตั้งแต่ตรงนี้เลยนะครับ เรื่องย่อซีรีส์ ‘First Love’ รีวิวซีรีส์ ‘First Love’ 2.1 เรื่องรักของสองคน ที่เกิดขึ้นในสองเวลา 2.2 รักแรกที่คงอยู่ในใจมานานเหลือเกิน 2.3 สิ่งที่ชื่นชอบในซีรีส์ ‘รักแรก’ รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์ รักแรก 4.1 8.8 ชีวิตก็เหมือนจิ๊กซอว์ ในวันเก่าวัยเรียน ยาเอะ โนกุจิ (Rikako Yagi) ได้เจอกับ ฮารุมิจิ นามิกิ (Taisei Kido) เพียงแรกพบสบตาทั้งสองหัวใจก็สปาร์กกันเข้าอย่างจัง รักแรกพบเกิดขึ้นในทันใด แต่เพราะเหตุอะไรสักอย่างสองคนไม่ได้ไปต่อตัวอย่างอย่างเป็นทางการของ ‘First Love’ [ซับไทย] ปัจจุบัน โชคชะตาพาให้พวกเขาได้กลับมาพบกันใหม่ ยาเอะ โนกุจิ (Hikari Mitsushima จากหนังเรื่อง ‘Death Note’, ‘Mary and the Witch’s Flower’ และ ‘Pride’) ในวันนี้เธอเป็นคนขับรถแท็กซี่ของบริษัทเคย์เซย์ เธอหย่ากับสามีแล้วออกมาอยู่คนเดียว มีลูกชายวัยรุ่นอยู่หนึ่งคน ซุซูรุ (Towa Araki) ผู้รักในเสียงเพลง ส่วนอีกคน ฮารุมิจิ นามิกิ (Takeru Satoh จากหนังเรื่อง ‘Rurouni Kenshin’ และ ‘Bakuman’) ผู้ที่ตอนนี้กลายเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย คบหาอยู่กับซึเนมิ (Kaho จากหนังเรื่อง ‘Our Little Sister’) แล้วจู่ๆ ทั้งสองคนก็ได้กลับมาพบเจอกัน และอดีตที่เคยพัดผ่านไปนาน ก็หวนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ความรักครั้งแรกมักถูกสมองจดจำไว้ในส่วนที่ไม่ลึกนัก พร้อมที่จะถูกสะกิดให้นึกถึงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ แม้เวลาจะผ่านไปนาน จนวันที่ได้เจอคนใหม่ คบกัน หรืออาจถึงขั้นแต่งงานมีลูกด้วยกันไปแล้วก็ตาม แม้คนผู้นั้นจะคิดว่าเขาลืมเลือนมันไปแล้ว แต่เมื่อเขาเปิดดูซีรีส์เรื่องนี้ รับรองได้ว่า ภาพความทรงจำเก่าๆ ของอีกคนจะปรากฏขึ้นทับซ้อนกับภาพบนจออย่างแน่นอน ซีรีส์เรื่องนี้ หยิบเอาเพลงดัง 2 เพลงของ Utada Hikaru/อูทาดะ ฮิคารุ อย่าง ‘First Love’ และ ‘Hatsukoi’ มาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องราว เล่าบรรยายถึงความรักของคนสองคนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งพวกเขายังเป็นวัยรุ่นของ ฮารุมิจิ นามิกิ และ ยาเอะ โนกุจิ ผู้กำกับเริ่มเล่าในแบบสองช่วงเวลาที่สลับกันไป หนึ่งคือการพบเจอกันในวัยเรียนวัยมัธยม อีกหนึ่งคือการได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้งในวันที่ต่างก็ผ่านเรื่องราวกันมามากมาย สร้างความสงสัยในใจผู้ชมว่า ระหว่างการพบกันทั้งสองครั้งของสองคนนี้ มันเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ รักของพวกเขาจึงไม่สมหวัง มีอันต้องแยกจาก ก่อนที่ต่างคนต่างมีใคร ก่อนที่จะได้กลับมาเจอกัน แถมชีวิตแต่ละคนในวันนี้ เดินทางมาไกล แตกต่างไปมาก ยาเอะ ในวันนี้ เธอแต่งงานกับหมอคนหนึ่งก่อนจะหย่าร้างกัน มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ด้านอาชีพ ก็แตกต่างจากที่ฝันว่าจะได้เป็นแอร์โฮสเตส แต่วันนี้ เธอเป็นคนขับแท็กซี่ ฝ่ายฮารุมิจิ เขากำลังคบหาอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง และประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง รักแรกที่คงอยู่ในใจมานานเหลือเกิน หนุ่มสาวสองคนบนเกาะฮอกไกโด ที่มีความทรงจำกับเพลงของศิลปินดังในช่วงนั้นอย่าง Utada Hikaru ทำให้เพลงของเธออบอวลอยู่ในซีรีส์ตลอดเรื่องราว ราวกับมันเป็นเพลงรักประกอบชีวิตของพวกเขา มันเล่าเรื่องของสองคนที่กลับมาเจอกันอีกครั้งในเมืองซัปโปโร ในวันที่ชายหนุ่มผู้คบหากับหญิงอีกคนแต่ใจเขาไม่เคยลืมหญิงสาวผู้เป็นรักแรกของเขา แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรก็ตาม ขณะที่ฝ่ายหญิงตอนนี้ ร้างราจากการมีคนรักมานาน หลังผ่านการแต่งแล้วหย่ามาหนึ่งหน แต่เธอก็ยังไม่ได้เริ่มกับหนุ่มคนไหน เหมือนว่าเธอเองก็รอคอยใครคนนั้นอยู่ อันที่จริง ก็ปวดใจเล็กๆ แหละ ที่โลกจะใจร้ายกับหญิงคนนั้น ให้ต้องพรากเขาเพื่อกลับมาคบกับรักแรกอีกครั้ง แม้ใครจะมองว่า เขาจะเป็นชายที่ไม่ดี แต่ในจักรวาลแห่งความรัก หัวใจมันเป็นใหญ่เสมอ ใหญ่กว่าเหตุผลใดจะมารับรอง อีกสิ่งที่พบว่าหนังหรือซีรีส์จากญี่ปุ่นมักหยิบมาบอกเล่า นั่นคือ เรื่องราวของความทรงจำ พวกเขามักจะส่งให้ตัวละครสักตัวในเรื่อง พบเจอกับการสูญเสียความทรงจำ และเช่นกันในเรื่องนี้ คนหนึ่งจำอีกคนไม่ได้ในวันที่พวกเขาเจอกัน เรียกน้ำตาให้อีกฝ่ายร่วงริน ไม่ต่างกับคนที่นั่งดูอยู่หน้าจอ หลังจากนี้ ทุกคนคงต่างเฝ้ารอดูว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาไม่ได้คบกันต่อ ทำให้หนึ่งในนั้นต้องสูญเสียความจำ แล้วอีกตัวละครจะทำอย่างไร? ตอนท้ายมันจะจบอย่างแฮปปี้มั้ย? ระหว่างรับชม ในใจรู้สึกมีหลายอย่างมากมายที่อยากหยิบมาพูดถึง จะแยกเขียนไปทีละเรื่องก็เกรงจะเยิ่นเย้อมากความ จะทำให้บทรีวิวนี้ยาวเกินจำเป็น จึงขอหยิบมาเขียนเป็นข้อๆ ไว้ที่นี่ก็แล้วกัน เป็นปกติธรรมดาของซีรีส์และหนังจากญี่ปุ่น ที่มักดำเนินเรื่องไปแบบเรียบนิ่งไม่หวือหวา แต่ก็มีอะไรให้อึ้งได้เรื่อยๆ อีกทั้ง ความเรียบนิ่งที่แหละที่ชักชวนให้เศร้าซึมและเรียกน้ำตาให้ออกมาทำได้ชะงัด นอกเหนือจากเพลงของฮิกกี้ที่แทรกซึมอยู่ในหลายช่วงเวลา ซีรีส์ก็พาเที่ยวญี่ปุ่นในเมืองที่ไม่ใหญ่และตึกรามไม่ระฟ้า แถมหลายทีก็พาออกไปนอกเมืองอีกต่างหาก สวยงามดีไม่หยอก เล่นกับสีฟ้าเยอะมาก แทบจะทุกอย่างในเฟรมที่เป็นสีฟ้า ทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงท็อฟฟี่ มีทั้งสีฟ้าโทนสดใส ไปจนถึงฟ้าเทาส่งออกความหม่นหมอง ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกใจคนชอบสีฟ้าอย่างข้าพเจ้ามากมายนัก มีแค่บางครั้งเท่านั้นแหละ ที่จะเห็นตัวละครใส่สีแดงกันมาทั้งเซ็ต ซึ่งเอาเข้าจริง สีฟ้าก็ชักพาให้รู้สึกหม่นเศร้าได้อย่างไม่รู้ตัวเหมือนกันนะ เรื่องราวในนั้น เขาพยายามผูกเข้ากับเรื่องจริงในช่วงเวลานั้น อย่างเช่น การส่งยานไปดาวอังคาร แผ่นดินไหวและสึนามิ แม้กระทั่งโควิดก็ยังมี ที่ทำให้มันกลายเป็นจดหมายเหตุไปได้อีกเรื่องหนึ่ง มองเห็นความเว้าแหว่งของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น นางเอกที่เติบโตมากับแม่ขณะที่โหยหาพ่อ แม่ของเธอก็แสนใจดี ยอมให้เธอคบกับรักแรก เช่นเดียวกับ เธอเองที่ตามใจลูกชายให้ทำตามที่ใจฝันซึ่งต่างอย่างสิ้นเชิงกับพ่อของเขา ส่วนพระเอกก็เคยเป็นเด็กที่งี่เง่าจนทำให้ชีวิตของนางเอกต้องพลิกผัน ทั้งเรื่องบอกเล่าเรื่องราวที่คล้ายจะรวมเป็นของกลุ่มเดียวกันได้ อย่าง ท้องฟ้า ดวงดาว และความหลงใหลในอาชีพที่เกี่ยวกับการบิน พยายามจะแทรกใส่ไดอะล็อกดีๆ ไว้ให้ตัวละคร แล้วก็ยังพยายามใส่กิมมิกลงไป อย่างเช่น ความหมายของชื่อ ซึเนมิ ที่แปลว่า ดาวฤกษ์ อะไรแบบนี้เป็นต้น คงไม่เกินไปนักที่จะบอกว่า Hikari Mitsushima และ Takeru Satoh ต่างทำหน้าที่ได้อย่างดีในซีรีส์เรื่องนี้ เช่นเดียวกับตัวละครอีกหลายๆ ตัว เพราะความที่มันเขียนบทและกำกับโดยคนคนเดียวกันด้วยมั้ง มันจึงกลมกล่อมเข้ากันได้อย่างกลมกลืน การต่อซีนที่สลับสองช่วงเวลามันดีมาก การเล่าเรื่องสลับสองช่วงเวลาแบบนี้มันชวนทำให้นึกถึงอดีตของตัวเอง แถมเพลงและดนตรีประกอบนับสิบๆ เพลง แต่ก็เพราะมากอยู่หลายเพลง เป็นซีรีส์ที่หม่นเศร้าแต่ก็ให้กำลังใจอยู่ในที แต่ละตอน อาจมีบ้างที่แวะไปเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระนาง มันก็ไม่ได้ทำให้น่าเบื่อนะ หากกลับช่วยเพิ่มเติมความเข้าใจที่มีต่อพวกเขาให้มากขึ้น จะมีช่วงที่เรียกน้ำตา แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก แต่มวลของมันทำให้น้ำตามันคลอหน่วยอยู่อย่างนั้น บางทีก็แค่ร่วงลงมา 2-3 หยด ไม่ได้ฟูมฟายอะไร ตอนสุดท้าย เหมือนมันจะขมวดไปเล่าจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง แล้วพาไปสู่บทลงเอย ที่เขาอยากให้เราเปิดดูเครดิตกันยาวๆ เพราะมันมีฉากตอนท้ายสุดให้เราได้ชม ชื่อซีรีส์ First Love / รักแรก / 初恋 ผู้กำกับ Yuri Kanchiku ผู้เขียนบท Yuri Kanchiku นักแสดง Hikari Mitsushima, Rikako Yagi, Takeru Satoh, Aoi Yamada, Taisei Kido, Towa Araki, Kaho, Minami แนว/ประเภท ดราม่า, โรแมนติก จำนวนตอน ซีซัน 1: 9 ตอน ช่องทางรับชม Netflix เริ่มออกอากาศ 24 พฤศจิกายน 2022 ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ C&I Entertainment, Netflix Studios พล็อตและบท - 8.8 การแสดง - 8.9 การดำเนินเรื่อง - 8.4 เพลงและดนตรีประกอบ - 9 งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8.8 ซีรีส์ญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจอย่างเพลงของ อูทาอะ ฮิคารุ เล่าเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวที่รักกันในวัยมัธยมก่อนทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปนาน แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็ได้มาพบกันอีกครั้งในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป อบอวลไปด้วยความหม่นเศร้าแต่ก็แฝงด้วยการให้กำลังใจ น้ำตาอาจคลอไปอย่างไม่รู้ตัว ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยสีฟ้า พาเราเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะบนเกาะฮอกไกโด เป็นอีกซีรีส์ที่คุณต้องประทับใจกับงานภาพ เพลง และเรื่องราวอย่างแน่นอน 8.8 First LovePatSonic บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกันขอบคณภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix, เฟซบุ๊ก Netflix Japan
แสดงความคิดเห็น