ปลูก "มะระขี้นก" ดกรากดิน กินได้ตลอดทั้งปี ปลอดสารพิษ "มะระขี้นก" เป็นพืชปีเดียว ปลูกได้ง่าย ปลูกได้ตลอดปี แต่จะได้ผลดีสุดในช่วงฤดูหนาว วันนี้โบว์จะมาบอกวิธีการเลือกเมล็ดพันธ์ุ วิธีปลูกและการทำค้าง แบบง่ายๆกันค่ะ การเลือกเมล็ดพันธ์ุ :: เลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี แข็งแรง ไม่เป็นโรคง่าย มีอัตราการงอกที่สูง และเลือกพันธุ์ที่เป็นที่นิยมของตลาด (โบว์เลือกเจียไต๋ ซื้อมาในแอพลาซาด้า ซองละ 7 บาท) วิธีแรก :: ใช้วิธีการขลิบหัวปลายเมล็ดก่อน แล้วแช่ในน้ำทิ้งไว้ เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดี (6 มกราคม 2566) แล้ววางลงดินในถาดเพาะที่เราเตรียมไว้ จากนั้นทำการกลบ และรดน้ำทุกวันเช้า-เย็น วิธีที่ 2 :: ทำการหยอดเมล็ดพันธุ์ หลุมละ 1 เมล็ด จากนั้น รดน้ำให้ชุ่ม (6 มกราคม 2566) หลังจากลงปลูกประมาณ 20 วัน หรือต้นกล้ามีใบจริง 4-5 ใบ (17 มกราคม 2566) ย้ายลงแปลงปลูก โดยขุดหลุมให้ลึก 1 หน้าจอบ ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30-50 เซนติเมตร จากนั้นปกคลุมด้วยหญ้าหรือฟาง หากมีวัชพืชรบกวน ให้รีบถอนทิ้ง ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนกับระบบราก ของโบว์ปลูกใกล้กับต้นตะไคร้ น้องเลยเกาะง่าย เลื้อยไว (18 มีนาคม 2566) การทำค้าง :: เริ่มทำค้างได้ หลังจากปลูกลงดินได้ 25 วัน ปักไม้ค้างผูกเป็นร้าน สูงประมาณ 1.5-2 เมตร จากนั้นขึงด้วยตาข่ายพลาสติก (น้องเลื้อยไวมาก) การให้น้ำ :: ให้น้ำสม่ำเสมอ ทั้งเช้าและเย็น ให้ดินมีความชุ่มชื้นเพียงพอ แต่จะไม่ถึงกับแฉะจนเกินไป และไม่ควรให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล จนถึงช่วงก่อนระยะการเก็บเกี่ยวครั้งสุดท้าย (17 เมษายน 2566) น้องออกดอกแล้ว ดอกสวยขนาดนี้ น้ำซาวข้าวเป็นเหตุ น้องมาแล้ว เริ่มเก็บเกี่ยวได้ เมื่อมะระขี้นกอายุได้ประมาณ 45 วัน (นี่ล่ะที่เค้าเรียกว่า ดกรากดิน) จริงมั๊ยน้อ ส่วนลูกนี้ เว้นระยะห่างมากเกินไป จึงทำให้สุกเหลือง มะระขี้นก ปลูกง่าย ขึ้นดี ได้กินลูกไว แถมได้กินตลอดทั้งปีหลังจากที่ออกดอก ปลูกง่ายขึ้นดีแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งผักสวนครัวเลยนะคะที่ควรมีปลูกไว้ทานในบ้าน เมนูต่อไปของโบว์ คงหนีไม่พ้นมะระขี้นกแล้วล่ะค่ะเพื่อนๆ
แสดงความคิดเห็น