ปักหมุด 21 สถานที่เช็คอินในออสโล "ออสโล" อาจไม่ใช่เมืองหลวงที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ใช้ดึงดูด นทท อย่างโรม เบอร์ลิน ปารีส เพราะจุดขายของนอร์เวย์คือ "ธรรมชาติ เดินป่า และแสงเหนือ" แต่อย่างไรแล้ว..จากไทยเราก็ต้องบินลงออสโลก่อนอยู่ดี ดังนั้น content นี้จึงอยากเขียนให้เป็นแนวทางในการเติมเต็มทริปท่องเที่ยวนอร์เวย์ โดยอาจใช้เป็นจุดพักก่อนเดินทางไปเมืองอื่นต่อ หรือก่อนบินกลับไทย แวะชอปปิ้ง เก็บตก หรือพักชิลๆ ก็ได้.. สถานที่ และกิจกรรมทั้งหมด สามารถเก็บครบภายใน 2-3 วัน ตามผมมาเลยครับ โอเปร่าเฮ้าส์ (Operahuset) เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นทรงเรขาคณิต สร้างจากกระจกและหินอ่อนสีขาว ออกแบบให้ดูเหมือนภูเขาน้ำแข็งยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ โดยมีทางเดินที่ทำเป็นสะพานลาดเอียงสีขาวรอบอาคาร หากมีเวลาอยากให้ค่อยเดินขึ้นชมให้ทั่ว บรรยากาศดีมาก ประติมากรรม She Lies (ออกแบบโดย Monica Bonvicini) ลอยกลางทะเล ทำจากแผ่นแก้วหลายชิ้นผสมกับเหล็กสแตนเลส ซึ่งจะหมุนไปมาตามกระแสลมและคลื่นรอบข้าง ทำให้แสงที่ตกกระทบตัวผลงานจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดูไปแล้วเหมือนก้อนภูเขาหิมะที่กำลังละลายลอยมาขึ้นฝั่งที่ออสโล พิพิธภัณฑ์ MUNCH เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งสร้างในปี 2008 เก็บภาพ The Scream ที่โด่งดังทั่วโลก ซึ่งผลงานของ Edvard Munch ผู้หลงใหลการวาดภาพแนวแสดงออกถึงอารมณ์ (Expressionism) โดยผลงานของ Munch ส่วนใหญ่ก็จะสะท้อนถึงชีวิตที่พบเจอแต่ความเลวร้าย หวาดกลัว และความวิตกกังวล The Scream ถูกวาดด้วยสีสันที่ร้อนแรง ฉูดฉาด แต่มีรูปแบบการวาดอย่างเรียบง่าย เป็นภาพคนกำลังยืนอยู่บนสะพาน กรีดร้องใช้มือทั้งสองข้างปิดหู หน้าตาบิดเบี้ยวท่ามกลางบรรยากาศฟ้าสีแดงเพลิง ที่มาของภาพคือ วันหนึ่งขณะที่เขาเดินเล่นอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนตอนพระอาทิตย์ตก จู่ๆท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแดง เขารู้สึกช็อคมาก จึงหยุดเดิน ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ราวกับได้ยินเสียงกรีดร้องของธรรมชาติจนเกินจะทนไหว จึงใช้มือทั้งสองปิดหูไว้ โดยที่เพื่อนทั้ง 2 เหมือนไม่รับรู้อะไร ป้อมปราการ Akershus (เข้าฟรี) ป้อมปราการอาเกิชฮืส ถูกสร้างขึ้นในยุคกลางตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันการโจมตี และ รุกรานของข้าศึก ภายในมีพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ ซึ่งมีค่าเข้าชม และเป็นต้นแบบของปราสาทของเอลซ่า และแอนนา ในการ์ตูนเรื่อง Frozen อาคารรัฐสภา (Stortinget) ตั้งอยู่ริมถนนชอปปิ้ง Johans Gate ด้านหน้ามีรูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ 2 ตัวและสวนขนาดใหญ่ แม้จะเข้าชมไม่ได้ แต่ก็สามารถถ่ายรูปด้านหน้าได้ Nobel Peace Center สถานที่มอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของโลก ซึ่งปกติรางวัลโนเบลสาขาอื่นๆ จะมอบกันที่กรุงสตอคโฮม-สวีเดน มีเพียงสาขาสันติภาพเท่านั้นที่มอบกันที่นี่..!! นอกจากนี้ ภายในยังมีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับโนเบลด้วย รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นรางวัลโนเบล 1 ใน 5 สาขา (ฟิสิกส์ เคมี แพทย์ วรรณกรรม และสันติภาพ) ที่ริเริ่มโดยอัลเฟรด โนเบล ตั้งแต่ปี 1895 โดยคณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ เป็นผู้คัดเลือกผู้รับรางวัล ทั้งหมดเพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศนอร์เวย์ที่แยกตัวออกมาจากสวีเดนในอดีต Aker Brygge ทางเดินชิลริมท่าเรือ รวมทั้งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวไฮโซออสโล มีบ้านเรือนหรู และร้านค้าทันสมัยมากมาย เป็นแหล่งรวมความบันเทิงยามราตรี มีผับ บาร์ ร้านอาหารเก๋ๆ คาเฟ่ชิลๆ คึกคักเช้าจรดเย็น ด้วยบรรยากาศที่ดีมาก สวน Tjuvholmen sculpture park สวนชิลๆริมทะเล อยู่ถัดจาก Aker Brygge บรรยากาศดี มีทางเดินอย่างดีริมทะเล มองเห็นทั้งเรือยอร์ชที่เรียงราย รวมถึงป้อมปราการ Akershus ได้ด้วย University of Oslo, Faculty of Law มหาวิทยาลัยออสโล (วิทยาเขตเก่า) เปิดสอนเฉพาะด้านกฎหมายในออสโล ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2354 ส่วนสาขาวิชาอื่นๆ ย้ายไปวิทยาเขตใหม่หมดแล้ว โรงละคร Nationalteater ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยออสโล อยู่ภายในสวน Studenterlunden Park เป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิค สร้างขึ้นในปี 1899 Royal Palace (พระราชวังหลวง) และการชมการผลัดเปลี่ยนเวรยามของทหารองครักษ์ เวลา 13.30 ทุกวัน เป็นพระราชวังที่รายล้อมไปด้วยสวนที่มีสระน้ำรูปปั้นและสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ด้านหน้าของพระราชวังมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของกษัตริย์คาร์ลโจฮาน พิพิธภัณฑ์ The Viking Planet ในรูปของภาพยนตร์ 4D มีแว่นตา VR ให้เล่น ทำให้เหมือนได้มีเวลาย้อนกลับไปในยุคไวกิ้ง ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แหวกแนวเหมาะกับการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ ห้องซาวน่ากลางแจ้ง (Oslo Badstuforening, Sukkerbiten) การลงเล่นน้ำหน้าอ่าวที่เย็นจัด สลับกับการขึ้นมาอบซาวน่า ผิงไฟอุ่นๆ จัดเป็นกิจกรรมปกติทั่วไปของชาวออสโลในวันหยุดพักผ่อน ถนนชอปปิ้ง Karl Johans gate มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายเสื้อผ้ากระเป๋าแบรนด์เนม ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น The Tiger รูปปั้นเสือหน้าสถานีรถไฟกลาง สัญลักษณ์ของเมืองออสโล ซึ่งมาจากชื่อเล่นของเมืองสมัยก่อนที่มีชื่อว่า Tigerstaden ซึ่งเอามาจากบทประพันธ์ของกวีชาวนอร์วีเจียนชื่อ Bjørnstjerne Bjørnson ผู้เล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างม้า และเสือ เชื่อว่าเป็นตัวแทนความน่าตื่นเต้น และความมีชีวิตชีวาของเมือง Oslo Fjord Cruise (The Fjords - Cruise Oslofjorden) เพื่อชมความสวยงามของฟยอร์ดตามธรรมชาติ บ้านไม้หลากสีสัน ภูเขาสูง หากมาในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมสวยงามไปอีกแบบ สวน The Vigeland Park (ฟรี) สวนประติมากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน Frogner มีประติมากรรมแกะสลักจากหินแกรนิตกว่า 200 ชิ้น เป็นผลงานของศิลปินชื่อดัง ‘Gustav Vigeland’ โดยรูปปั้นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ รูปปั้น Angry Boy, รูปปั้น Man under attack from genii spirits และเสากลางอุทยาน Monolitten แกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นรูปคนมากมายปีนป่ายกันอยู่ Viking Ship Museum บอกเล่าประวัติความเป็นมาของไวกิ้ง ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวสแกนดิเนเวีย จัดแสดงเรือเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 The Norwegian Museum of Cultural History เป็น Open air museum จำลองบ้านเรือน และวิถีชีวิตของชาวนอร์วีเจียนโบราณในแบบกลางแจ้ง เราสามารถวางแผนกรุ๊ปปิ้งจุดเที่ยวที่ใกล้กัน โดยแอดกรุ๊ปให้เป็น 4 กลุ่มเพื่อให้สะดวกในการเดินทาง ดังนี้ Group1 : The Tiger, โอเปร่าเฮ้าส์, She Lies, Munch Museum, Oslo Fjord Cruise, ห้องซาวน่าริมอ่าว, ป้อมปราการ Akershus Group2 : The Tiger, ถนนชอปปิ้ง Karl Johans gate, Oslo Cathedral, Stortinget, Nationalteater, มหาวิทยาลัยออสโล, Royal Palace Group3 : City Hall, The Viking Planet, Nobel Peace Center, Aker Brygge, Tjuvholmen sculpture park, ป้อมปราการ Akershus Group4 : (โซนนอกเมือง) The Vigeland Park, Viking Ship Museum, The Norwegian Museum of Cultural History การเดินทางสามารถเดินถึงกันหมด ยกเว้นจุดที่ 19, 20, 21 (3 จุดนี้อยู่นอกเมืองให้ใช้ Oslo Pass เพียงวันเดียว แล้วอีกวันก็เดินเที่ยวเอา ออสโล cashless 100% ดังนั้นใช้ travel card หรือ credit card แตะโลด (แอดใช้ SCB Planet แตะหมด ไม่ต้องแลกสกุลเงินใดๆ แค่ใส่เงินบาทไว้ ระบบจะแปลงจากเงิน THB เป็น NOK อัตโนมัติ คิดเรท VISA ปกติ ไม่เสียค่าธรรมเนียม 2.5%) ทุกจุด ค้นหาเส้นทางด้วย google map ได้หมด ไม่หลงแน่นอน
แสดงความคิดเห็น