9 ปีให้หลังนับจากรุ่งเช้าในเวียนนา เจสซี่และเซลีนได้กลับมาพบกันที่ปารีส… ครบรอบ 20 ปี Before Sunset “ตะวันไม่สิ้นแสง แรงรักไม่จาง”Before Sunset - Original Theatrical Trailer ขณะที่หนังภาคแรกอย่าง Before Sunrise (1995) บอกเล่าความรักของหนุ่มสาวที่ฉาบด้วยภาพชวนฝัน ภาคถัดมาอย่าง Before Sunset (2004) ก็คือการผลัดใบสู่มุมมองความสัมพันธ์ที่โตขึ้นแบบผู้ใหญ่ ช่วงชีวิตซึ่งผ่านการลิ้มรสอะไรๆ มากขึ้น ทั้งยังมีภาระหน้าที่เป็นปัจจัยทวีความยุ่งยากซับซ้อน เมื่อภาพฝันสวยสดนั้นจางลง ถูกเบียดแทรกด้วยอาการผิดหวัง เหนื่อยล้า ว้าเหว่ ความเป็นจริงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เคยเข้าใจเหมือนสมัยยังหนุ่มสาว แม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ หนนี้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเจสซี่และเซลีน ไม่ว่าเชิงกายภาพ รอยเหี่ยวย่น สภาพสึกหรอ หรือการแสดงออกว่ามุมมองสดใสไร้เดียงสาแบบภาค Sunrise นั้นอันตรธานไป เมื่อเป็นวัยนี้ คนเราไม่ได้พูดถึงความฝันสักเท่าไหร่ หัวข้อมักไม่ใช่การมองไปข้างหน้า หากแต่ย้อนคร่ำครวญถึงวันคืนเก่าๆ เรื่องที่เสียดาย เรื่องที่ผิดพลาด เรื่องที่คาใจ วัยหนุ่มสาวที่จบสิ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดแห่งโลกความเป็นจริง กล่าวได้ว่าบรรยากาศของ Before Sunset อบอวลด้วยความโหยหาระคนความเปลี่ยวเหงา เมื่อคู่ชายหญิงแยกย้ายกันออกไปเผชิญโลกกว้าง พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา มีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ทว่ากลับมาด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวสิ้นหวังกว่าเก่า ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่า Before Sunset หลุดจากอารมณ์หนังรักชวนฝันพลางขยับเข้าสู่แง่มุมความเป็นจริงมากขึ้น หนังก็พร่ำบอกด้วยว่าชีวิตที่พบเจออะไรต่อมิอะไรนั้นล้วนเป็นประสบการณ์ อันความผิดหวัง สมหวัง สุข ทุกข์ นั่นคือสิ่งที่ได้เรียนรู้ จนเมื่อลิ้มรสจนพอ เราก็อาจตระหนักถึงสิ่งที่ต้องการชัดขึ้น พร้อมจะก้าวเดินไปอย่างมั่นใจอีกครั้ง เฉกเช่นบทสรุปอันผ่อนคลายที่ประดับด้วยเสียงเพลง รอยยิ้ม ความรู้สึกรื่นรมย์ในภวังค์ ได้เห็นจุดหมายปลายทางก่อนตะวันจะลาลับขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Before Sunset, เว็บไซต์ทางการ Before Sunset
แสดงความคิดเห็น