การตะโกนที่ไร้เสียงของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ลองตั้งใจฟัง เราก็อาจช่วยชีวิตเขาได้

           #### การตะโกนที่ไร้เสียงของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า #### (repost) 

          Cheslie Kryst เป็นนางงามชาวอเมริกัน เป็น Miss USA เป็นผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย Miss Universe 2019 เรียนจบปริญญาทางด้านกฎหมาย มีอาชีพหน้าที่การงานและชีวิตที่ใครๆมองว่าสวยหรู มีความสุขสบาย ในเช้าวันหนึ่งเธอตัดสินใจกระโดดตึกลงมาจากชั้น 29 กลางมหานครนิวยอร์ค จบชีวิตตัวเองในวัยเพียง 30 ปี พร้อมข้อความสุดท้ายใน Instagram ว่า

          “ขอให้วันนี้นำพาเธอให้ได้พักผ่อนและสงบสุขเสียที”

          ท่ามกลางความเสียใจ เศร้าโศกของแฟนๆนางงามที่รู้จักเธอ เกิดความสงสัยว่า คนที่เพียบพร้อมขนาดนี้ มีชีวิตที่ใครๆมองว่าสมบูรณ์ ทำไมจึงตัดสินใจเช่นนี้ 

          แน่นอนว่าเมื่อมีใครสักคนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลงในช่วงวัยที่อายุน้อย สิ่งที่ผู้คนมักเพ่งเล็งไป คือปัญหาโรคซึมเศร้า ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่สามารถมีข้อสรุปตรงนี้ได้ เพราะยังไม่พบข้อมูลเชื่อมโยงว่าเธอมีอาการซึมเศร้ามาก่อนหรือไม่อย่างไร 

          ในหลายๆครั้งผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่ากำลังมีอาการของโรคอยู่ อาจแค่รู้สึกเบื่อ หมดกำลังหมดพลังใจในการทำงานใช้ชีวิต เมื่อรู้ตัวอีกที ตัวโรคก็อาจดำเนินไปไกลจนถึงจุดสุดท้ายแล้ว คือ ความคิดและการลงมือฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญในการที่เราทุกคนจะสำรวจสุขภาพจิตของตัวเองว่าเข้าข่ายอาการของโรคซึมเศร้าหรือไม่ เพราะไม่ว่าใครจะมีชีวิตที่ดูพร้อมสมบูรณ์มีความสุขแค่ไหน

          หรือลำบากยากแค้นขนาดไหน โรคซึมเศร้าสามารถแทรกซึมเข้าไปหาทุกคนได้เหมือนๆกัน รู้เร็วย่อมดีกว่ารู้ช้าแน่ๆครับ 

          ทำแบบทดสอบภาวะซึมเศร้าเบื้องต้นได้ตามลิงค์นะครับ https://www.rama.mahidol.ac.th/th/depression_risk

          ก่อนหน้านี้มีกรณีของนักแสดงคุณไมเคิล พูพาร์ท ที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงเช่นกัน และทิ้งท้ายข้อความสุดท้ายเอาไว้ว่า

          “อยากจะบอกเป็นประโยคสุดท้ายว่า ลาก่อนนะครับที่รัก รักคุณจนสุดหัวใจ ขาดคุณไม่ได้ในชีวิต และอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีคุณในชีวิต คิดแต่สิ่งดีๆ ให้ผม ให้ผมหลุดพ้นจากความทุกข์ ขอบคุณครับ ผมลาแต่เพียงเท่านี้แหละ”

          หรือไม่กี่ปีก่อนมีข่าวคุณเหม ดารานักแสดงท่านหนึ่ง กระทำอัตวินิบาตกรรม ถึงแก่ชีวิต ข่าวออกมา มีการพูดถึงโรคซึมเศร้าที่เจ้าตัวเป็นอยู่

          เมื่อย้อนดูข้อความใน social พบว่า มีข้อความ ที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าทางจิตใจ อยู่หลายข้อความ เมื่อย้อนดูหลายๆเคส ข้อความเหล่านี้ เป็นเหมือนข้อความเตือน เป็นข้อความที่ส่งเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือ ที่ไม่แน่ใจว่ามีใครได้ยินมันบ้าง 

          กรณีของ โจ้ วงพอส ที่แต่งเพลง “รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” ให้น้องชายที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ ในท่อนสุดท้าย ที่มีประโยคว่า “และซักวันจะไปหา” แล้วในที่สุดโจ้ ก็ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง 

          กรณี ของ Chester Bennington นักร้องนักแต่งเพลงวง Linkin park ที่แต่งเพลงอย่าง Heavy บรรยายความหนักหน่วงของชีวิต ที่ต้องเจอกับโรคซึมเศร้า จนสุดท้ายตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงไปอีกคน 

          Heavy (Linkin Park) 

          I don't like my mind right now ผมไม่ชอบสภาพจิตใจตัวเองเลยตอนนี้ 
          Stacking up problems that are so unnecessary เหมือนมันมีปัญหาก่อตัวมากมายในใจ ทั้งๆที่เป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไรเลย 
          Wish that I could slow things down ผมอยากจะหยุดเรื่องราวต่างๆให้มันช้าลง
          I wanna let go but there's comfort in the panic อยากจะปล่อยวาง แต่ก็นะมันมีความสบายใจบางอย่างอยู่ในความตระหนกและหวาดกลัวนี่ 

          And I drive myself crazy และผมกำลังทำให้ตัวเองบ้า 
          Thinking everything's about me คิดว่าเรื่องทุกอย่างมันเกี่ยวกับตัวเอง
          Yeah, I drive myself crazy ใช่แล้ว ผมกำลังจะทำให้ตัวเองคลั่ง 
          'Cause I can't escape the gravity เพราะผมหนีออกจากหลุมที่มันดูดผมไว้ไม่ได้เลย 

          I'm holding on ผมยึดมันไว้ถือมันไว้
          Why is everything so heavy? แต่ทำไมทุกอย่างมันหนักเหลือเกิน 
          Holding on ยังคงถือมันเอาไว้ 
          So much more than I can carry แต่มันมากมายเกินกว่าผมจะแบกรับไหวแล้ว 
          I keep dragging around what's bringing me down ผมยึดเกาะและลากเจ้าสิ่งที่มันฉุดให้ผมตกต่ำลงเรื่อยๆ 
          If I just let go, I'd be set free แค่ถ้าปล่อยมันไปซะ ผมจะเป็นอิสระ 
          Holding on Why is everything so heavy? ทำไมทุกอย่างมันหนักอึ้งขนาดนี้ 

          เมื่อเรามามองย้อนหลัง ข้อความเหล่านี้ ชัดเจนนะครับว่ามั้ย ว่าสภาพจิตใจของคนคนนั้น ในเวลานั้น เป็นยังไง ไม่ปกติขนาดไหน เหมือนเค้าส่งข้อความขอความช่วยเหลือออกมา แต่เราหรือใคร รับรู้และได้ยินหรือเปล่า?

          โรคซึมเศร้า ไม่ใช่ความเศร้า ไม่ใช่แค่ซึม เป็นโรค ที่มีเกณฑ์ในการวินิจฉัยชัดเจน ควรปรึกษาจิตแพทย์ถ้าไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายหรือไม่ เกณฑ์เช่น หมดอาลัยตายอยาก สิ้นไร้พลังที่จะทำอะไร จมอยู่กับความเศร้า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ รู้สึกผิดโทษตัวเองตลอดเวลา มีความคิด/พยายามฆ่าตัวตาย อาการต่างๆส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นมาระยะเวลาพอสมควร ตามเกณฑ์วินิจฉัยของ DSM-5 คือ 2 สัปดาห์ 

          โรคซึมเศร้า เกิดเมื่อสารสื่อประสาท/สารเคมีในสมองไม่สมดุลทำงานผิดปกติทำให้เกิดภาวะเศร้าลึกที่อยู่เหนือตรรกะใดๆ ทำให้การตัดสินใจแก้ปัญหาไม่เหมือนที่คนทั่วไปคิด

          โรคซึมเศร้า ไม่ใช่ผลพวงของความอ่อนแอ และไม่ใช่ทางเลือกของคนไข้ว่าวันนี้ชั้นเศร้าดีกว่า!!!! พรุ่งนี้ร่าเริงก็ได้ เพราะไม่ใช่ความอ่อนแอของจิตใจแต่เป็นสมองที่ทำงานผิดปกติ

          ****ดังนั้นการบอกว่า สู้ๆนะ เข้มแข็งสิ คนอื่นเจอหนักกว่าเราตั้งเยอะ จึง... อาจไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แถมจะทำให้คนที่หมกมุ่นกับข้อด้อยของตัวเองรู้สึกว่าเป็นภาระ เป็นคนอ่อนแอ ทำให้อาการหนักขึ้นไปอีก

          โรคซึมเศร้า จะกลืนกินตัวตนและชีวิตของคนไข้ ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้รักษาทางยา และจิตบำบัด

          *****การรักษาต้องพบจิตแพทย์ต่อเนื่องระยะหนึ่ง กินยาตามสั่งสม่ำเสมอ การเข้าวัดเข้าวา หรือเข้าโบสถ์มัสยิด ช่วยได้ในระดับหนึ่งหลังจากคนไข้รักษาแผนปัจจุบันแล้ว ศาสนาไม่ใช่ยาหลักของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า  

          การฆ่าตัวตายไม่ใช่เรื่องดี การเห็นคุณค่าของชีวิตเป็นสิ่งดี แต่ไม่ควรมีใครมาตัดสินผิดถูกของการกระทำ เพราะมีคนมากมายที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า สารเคมีในสมองที่ไม่ปกติ ทำให้การตัดสินใจแก้ปัญหาไม่ปกติ และคนส่วนมากแม้กระทั่งคนใกล้ชิดอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าป่วย 

          ลองพยายามตั้งใจฟัง เวลามีใครส่งข้อความส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ อย่าให้มันกลายเป็นเสียงตะโกนที่เงียบงัน แล้วเราไม่อาจได้ช่วยอะไรเลย 

          สายด่วนสุขภาพจิต 1323

          ถ้าคุณหรือคนรอบตัว มีความรู้สึกว่าตัวเอง เข้าได้กับอาการของโรคซึมเศร้า หรือมีความผิดปกติด้านอารมณ์และจิตใจ ลองโทรไปให้ผู้เชี่ยวชาญได้ช่วยเหลือ รับฟังนะครับ 

          Admin Dr. Jame