รีวิวไหว้พระ ขอพร 3 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดังใจกลางกรุงเทพฯ ที่โดดเด่นเรื่องเสริมดวงให้ชีวิตรุ่งเรือง และมีสถาปัตยกรรมอันสวยงามโดดเด่น
สำหรับใครที่อยู่กรุงเทพฯ มีช่วงเวลาวันหยุดแค่ 1 วัน แต่อยากไปไหว้พระ ทำบุญ ขอพรเสริมดวงชะตา วันนี้เรามี 3 สถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมายาวนานมาแนะนำ โดยตั้งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก สามารถที่จะเดินลัดเลาะตามถนน ชมเมืองเก่ากลางกรุงเทพฯ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งระหว่างทางเดินมีร้านอาหารอร่อย ร้านกาแฟ รวมถึงคาเฟ่เก๋ ๆ สวย ๆ อยู่รายล้อม งานนี้คงต้องบอกว่านอกจากจะอิ่มบุญ อิ่มใจ อาจจะทำให้อิ่มท้องด้วย
ก่อนออกเดินทาง แนะนำให้แต่งกายให้เรียบร้อยหรือสุภาพนะคะ และอย่าลืม พกร่ม หมวก เผื่อกันแดด กันฝน สำหรับการเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ เราขับรถยนต์ส่วนตัวไปวนหาที่จอด แต่เต็ม สุดท้ายจึงนำรถไปจอดที่
Sri Krungthep Hotel ราคาค่าจอดอยู่ที่ 40 บาท/ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่ดูแล และขอเก็บชั่วโมงแรกก่อน คือ 40 บาท หลังจากนั้นค่อยมาคิดชั่วโมงที่เหลือ
ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ ถอนคำสาบาน องค์หลวงพ่อกลักฝิ่น
วัดสุทัศนเทพวราราม
บริเวณภายในวัดสุทัศน์
เริ่มต้นทริปด้วยการไหว้ ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศนเทพวราราม หรือ วัดสุทัศน์ พระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามเสาชิงช้า ประวัติก่อนหน้านี้ทราบมาว่า ราว พ.ศ. 2493 ทางวัดมีการสร้าง ท้าวเวสสุวรรณ เป็นวัตถุมงคลองค์เล็ก นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อป้องกันภูตผี จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา กระทั่งต่อมา พ.ศ. 2562 ทางวัดจึงมีการสร้างรูปบูชาท้าวเวสสุวรรณ เพื่อให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้บูชา
ภายในวัดสุทัศน์
ท้าวเวสสุวรรณ อยู่ตรงไหนในวัดสุทัศน์
ประตูข้างเข้าพระอุโบสถหน้าวัดสุทัศน์ มุมนี้ถ่ายจากด้านนอก
เมื่อเดินทางมาถึงวัดสุทัศน์ บางคนอาจจะมองหา ท้าวเวสสุวรรณ ไม่เจอ และสงสัยว่าอยู่ตรงไหน สำหรับ ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ หล่อด้วยสำริดเคลือบสีเขียว มีขนาดองค์ไม่ใหญ่เท่าวัดอื่น ๆ ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระอุโบสถ
ด้านข้างพระอุโบสถ วัดสุทัศน์
ทั้งนี้ ผู้ที่มาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ สามารถเดินลัดเลาะด้านข้างพระอุโบสถ มาด้านหลังของวัด เพื่อสักการะขอพรได้เลย หรือเดินตรงเข้ามาภายในพระอุโบสถเพื่อไหว้ พระศรีศากยมุนี หรือ หลวงพ่อโต พระประธานในพระวิหารหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริดสมัยสุโขทัยที่มีอายุมากกว่า 600 ปี เพื่อเสริมมงคลให้กับชีวิตก่อน จากนั้นก็เดินออกทางประตูหลัง เพื่อสักการะท้าวเวสสุวรรณก็ได้เช่นเดียวกัน
เดินมาด้านข้างจะมาเจอป้ายท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
บูชาท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ ขอพรเรื่องอะไรดี
ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสตร์พยากรณ์เทวะมันตราที่ประชาชนนิยมมาไหว้ สักการบูชากันอย่างมาก บางคนเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งอสูรยักษ์ และภูตผีปีศาจ ด้วยลักษณะมีรูปร่างคล้ายยักษ์ยืนถือกระบองยาว จึงบูชาเป็นเครื่องรางของขลัง เพื่อให้มาช่วยขจัดภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลให้ออกไปจากชีวิต ประกอบกับลักษณะท้าวเวสสุวรรณ ที่คล้ายชายพุงพลุ้ย จึงทำให้บางคนเชื่อว่า เป็นเทพแห่งความร่ำรวย จึงมาไหว้บูชา ขอโชคลาภ ค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทอง เสริมดวงให้ชีวิตมีอำนาจวาสนาและบารมี
ไหว้และอธิษฐานขอพร ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรามาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ เพราะเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเคารพ จึงได้ขอพรให้กับตัวเองมีโชคลาภเรื่องการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย และขอให้กับคนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
ของไหว้บูชาท้าวเวสสุวรรณ มีอะไรบ้าง
ของไหว้ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
สำหรับของที่ต้องเตรียมมาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ คือ ธูป 9 ดอกและถวายดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก หรือ พวงมาลัยดอกกุหลาบสีแดง ทั้งนี้ หากใครที่ไม่ได้เตรียมมา สามารถมาซื้อดอกไม้ที่บริเวณข้างท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งมีจำหน่ายให้บูชาได้เช่นเดียวกัน
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ ถูกตั้งไว้ด้านหน้า
บทสวด หรือ คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์ ให้ตั้ง นะโม 3 จบ ดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสสะ (3 จบ)
จากนั้นก็ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา และท่องคาถาท้าวเวสสุวรรณ
“เวสวะวัณโณ มะเหสักโข ยักขะราชา มะหิธิโก
ตังปูชะนาวะเสเนวะ โส มัง รักขะตุ สัพพะทา
อันตะราโย จะ นัสสันตุ ปาปัคคะโห จุปัททะโว
วัฑฒะตัง โข มะมัง ลาโภ สะทา โสตถี ภะวันตุเม ฯ
ท้าวเวสสุวรรณ ผู้ทรงมีศักดิ์ใหญ่ ผู้ทรงเป็นพระราชาของยักษ์ ผู้ทรงมีฤทธิ์มาก ด้วยอานิสงส์แห่งการบูชาท้าวเวสสุวรรณพระองค์นั้นนั่นแล ขอท้าวเวสสุวรรณพระองค์นั้นจงรักษาข้าพเจ้าในกาลทั้งปวง ขออันตราย บาปเคราะห์ และเสนียดจัญไร จงพินาศไป ขอลาภจงเจริญแก่ข้าพเจ้าแล ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้าในทุกเมื่อเทอญ ฯ”
มุมด้านหลังท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศน์
ถอนคำสาบาน - คำมั่นสัญญาองค์หลวงพ่อกลักฝิ่น วัดสุทัศน์
ประชาชนถอนคำสาบานองค์หลวงพ่อกลักฝิ่น วัดสุทัศน์
วันที่เราเดินทางมาวัดสุทัศน์ สังเกตว่า นอกจากประชาชนมาไหว้ท้าวเวสสุวรรณแล้ว ยังมีบางส่วนถือธูป 5 ดอก เทียนขาว 5 เล่ม ดอกไม้ 5 ดอก เงิน 5 บาท นั่งตั้งจิตอธิษฐาน ไหว้องค์หลวงพ่อกลักฝิ่น เพื่อถอนคำสาบานหรือคำสัญญาที่เคยอธิษฐานไว้ในอดีต แต่ไม่ได้ทำตาม ทำให้ชาตินี้หรือปัจจุบันชีวิตติดขัด ไม่มีดวงเรื่องความรัก ทำมาค้าขายไม่รุ่งเรือง ไม่ราบรื่น ก็เลยมาทำพิธีเพื่อขอขมากรรม
ส่วนใครที่คิดว่า ชีวิตตัวเองเคยให้คำสัญญาหรือติดค้างใคร สามารถมาไหว้ องค์หลวงพ่อกลักฝิ่น เพื่อขอขมาและอโหสิกรรมด้วยก็ได้ ในส่วนเครื่องไหว้เห็นว่าทางเจ้าหน้าที่วัดสุทัศน์มีจัดเตรียมไว้เพื่อให้ทำบุญบูชา พร้อมแนะนำขั้นตอนการไหว้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลาการเปรียญวัดมีการปิดปรับปรุงชั่วคราว ทางวัดสุทัศน์จึงนำหลวงพ่อกลักฝิ่นองค์จำลอง มาตั้งข้างหน้าพระอุโบสถ เพื่อให้ประชาชนได้มาทำพิธีบูชาถอนคำสาบาน ซึ่งหากใครต้องการมาทำพิธีดังกล่าว ก็เดินมาด้านหน้าพระอุโบสถ หรือสอบถามทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
วัดสุทัศน์ เปิด-ปิดกี่โมง
ประตูทางด้านข้างวัดสุทัศน์
วัดสุทัศน์ เปิดให้ประชาชนเข้ามาไหว้ สักการบูชาท้าวเวสสุวรรณ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.
วัดสุทัศน์ ตั้งอยู่ตรงไหน
วัดสุทัศน์ ตั้งอยู่เลขที่ 146 ริมถนนตีทอง 1 ถนนบำรุงเมือง หน้าวัดออกทางถนนอุณากรรณ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
แนะนำการเดินทางมาวัดสุทัศน์
สำหรับรถเมล์ที่ผ่าน ถ้ามาจากสายใต้ใหม่ให้ขึ้นที่เขียนว่าไปพระประแดง ได้แก่ สาย 12, 42, 35 หรือถ้ามาจากท่าราชวรดิษฐ์ก็จะเป็นสายที่ไปทางปากน้ำ คือ สาย 508
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางมาวัดสุทัศน์ด้วย รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT โดยลงที่สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 ถนนอุณากรรณ เดินมาทางสวนรมณีนาถ วัดเทพมณเฑียร เทวาลัยพระวิษณุ เสาชิงช้า และเดินตรงมาถึงเป้าหมายคือ วัดสุทัศน์
ส่วนผู้ที่สะดวกเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็มาได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องนั่งรถเมล์อีกต่อ โดยสถานีที่ใกล้วัดสุทัศน์สุด คือ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ให้ใช้ทางออกห้าง MBK เดินมารอต่อรถตรงป้ายรถเมล์ ให้นั่งสาย 15, 47 ลงตรงศึกษาภัณฑ์ จากนั้นให้เดินลัดเลาะมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตามถนนดินสอ ผ่านศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และข้ามถนนมายังวัดสุทัศน์ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ให้สอบถามเจ้าหน้าที่เก็บเงินอีกครั้งก็ดีค่ะ ว่าป้ายไหนใกล้วัดสุทัศน์มากที่สุด หรือสอบถามเส้นทางการเดินรถ ได้ที่ Call Center 1348
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดสุทัศน์
ไหว้พระ ชมสถาปัตกรรมอันสวยงาม
วัดราชบพิธ
ประตูด้านหน้า วัดราชบพิธ
เดินลัดเลาะตามถนนมาต่อที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร หรือ วัดราชบพิธ วัดอารามหลวงชั้นเอก สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นพระอารามหลวงประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เคยเป็นที่ประทับสมเด็จพระสังฆราช 3 พระองค์ รวมถึงสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันด้วย
บริเวณภายในวัดราชบพิธ
วัดราชบพิธ ถือเป็นวัดสวยที่สุดแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง มีมหาเจดีย์ ตั้งเด่นตระหง่านเป็นประธานอยู่กลางวัด ด้านนอกโดดเด่นด้วยระเบียงแก้วโค้งล้อมพระอุโบสถ มีมหาสีมาขนาดใหญ่ เป็นเสาศิลาจำหลักรูปสีมาธรรมจักรอยู่บนเสา ตั้งที่กำแพงวัดทั้ง 8 ทิศ ซึ่งสถานที่สำคัญทั้งภายในและบริเวณวัด ทั้ง พระวิหาร พระอุโบสถ พระมหาเจดีย์ พระระเบียง วิหารมุข ศาลาราย หอระฆัง เกยและพลับพลาเปลื้องเครื่อง รวมถึงสุสานหลวง มีเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่นำเอาศิลปะแบบไทย ผสมผสานกับศิลปะตะวันตกแบบลงตัว จึงทำให้ประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศ นิยมมาไหว้พระ สักการบูชา ทำบุญ ถ่ายรูปที่ระลึก และชมความวิจิตรสวยงามของวัด
หนึ่งประตูทางเข้ามหาเจดีย์ วัดราชบพิธ
มหาเจดีย์ วัดราชบพิธ
สถานที่สำคัญภายในวัดราชบพิธ ตกแต่งศิลปะแบบไทย
สถานที่สำคัญภายในวัดราชบพิธ ตกแต่งศิลปะแบบไทย
อีกหนึ่งมุมฮิตที่คนนิยมถ่ายรูป วัดราชบพิธ
ประตูทางออกมาสุสานหลวง วัดราชบพิธ
สุสานหลวง วัดราชบพิธ
จัดพิธีแต่งงานที่วัดราชบพิธ ต้องทำอย่างไร
ด้วยเอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมอันสวยงาม จึงทำให้ผู้รีวิวอดสงสัยไม่ได้ว่า ที่วัดราชบพิธ เคยจัดพิธีแต่งงานให้คู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งภายในวัดราชบพิธหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ทาง วัดราชบพิธ ไม่มีการอนุญาตให้จัดงานแต่ง สวมแหวน หรือแลกสินสอดภายในวัด แต่ถ้าบ่าวสาวจะมาถ่ายภาพ ทำบุญที่วัดราชบพิธสามารถทำได้ โดยถ้าเข้าโบสถ์ทำบุญ ถวายสังฆทานต้องจองคิว ซึ่งสามารถโทรศัพท์สอบถามกับเจ้าหน้าที่วัดได้เลย ส่วนใครที่ต้องการขอเข้าเฝ้า เพื่อกราบขอประทานพร รับน้ำพระพุทธมนต์ จาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ต้องไปทำหนังสือที่วัดเท่านั้น
วัดราชบพิธ เปิด-ปิดกี่โมง
อีกหนึ่งประตูทางเข้าที่ไปดูมหาเจดีย์ วัดราชบพิธ
วัดราชบพิธ เปิดให้ประชาชนเข้ามาไหว้พระ ชมความงามวัดทุกวัน 09.00-18.00 น. ในส่วนของพระอุโบสถจะมีการเปิด-ปิดเป็นเวลา โดยในวันธรรมดาจะเปิดช่วงพระทำวัตรเช้า-เย็น คือ 09.00-10.00 น. และ 17.00-18.00 น. แต่ถ้าเป็นวันพระ หรือเทศกาลปีใหม่ พระอุโบสถเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-13.30 น. ขณะที่พระวิหาร จะมีการเปิดเฉพาะเวลามีพิธีสำคัญ
การเดินทางมาวัดราชบพิธ
มุมภาพถ่ายจากริมคลองที่จะเดินไปยังสุสานหลวง
จอดรถบริเวณริมถนนได้
จอดรถบริเวณริมถนน เดินเข้าทางประตูทางด้านสุสานหลวงได้เลย
สามารถเดินทางมาที่วัดราชบพิธ โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีสนามไชย ทางออก 2 และ 3 และเดินลัดเลาะตามถนนมาเรื่อย ๆ หรือ หากนำรถยนต์ส่วนตัวมาก็สามารถมาจอดริมถนนทางสุสานหลวง ซึ่งอยู่ด้านหลังวัดราชบพิธ แต่ส่วนใหญ่ที่จอดจะเต็ม ไม่ค่อยว่าง ถ้าไม่มีที่จอดให้ลองขับวนมาถนนที่ข้ามคลองฝั่งสุสานหลวงน่าจะพอมีที่จอดรถ เนื่องจากวันที่เดินลัดเลาะมาริมคลอง มีที่ว่างจอดรถจำนวนมาก
นอกจากนี้ หากใครที่ต้องการเดินทางด้วยรถเมล์ ก็มาได้เช่นกัน ซึ่งรถเมลที่วิ่งผ่านวัด หรือเดินไม่ไกลมาก เช่น รถเมล์ สาย 2, 12, 25, 33, 47, 48 และ 508 ทั้งนี้ สามารถสอบถามพนักงานเก็บค่าโดยสารอีกครั้ง ว่าถ้ามาวัดราชบพิธ สามารถลงที่ป้ายไหนได้บ้าง
วัดราชบพิธ ตั้งอยู่ตรงไหน
วัดราชบพิธ ถ่ายจากประตูด้านข้าง
วัดราชบพิธ ตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนเฟื่องนคร แขวงราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดราชบพิธ
สักการะศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
ป้ายศาลหลักเมือง ตั้งเด่นเป็นสง่า
ออกจากวัดราชบพิธเดินข้ามคลองมาเรื่อย ๆ จนถึงกระทรวงกลาโหม ก่อนเลี้ยวขวาก็ถึงที่หมาย ปิดท้ายกันที่ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่สร้างมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี หรือเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ซึ่งประชาชนนิยมมาไหว้ สักการบูชา เพื่อขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง การงานรุ่งโรจน์ กิจการมั่นคง สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยใด ๆ และขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
ประตูทางเข้าศาลหลักเมือง
เครื่องสักการะศาลหลักเมือง
เมื่อเดินเข้ามาภายในศาลหลักเมือง มีเจ้าหน้าที่จำหน่ายชุดสักการะในอาคารด้านข้าง โดยสามารถบูชาถาดละ 60 บาท ประกอบด้วย ดอกบัว จำนวน 1 ดอก ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม พวงมาลัย 1 พวง ทองคำเปลว ผ้าแพร 3 สี และน้ำมันตะเกียง 1 ขวด ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจะนำมาบูรณะและซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ภายในศาลหลักเมือง
วิธีไหว้ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
ป้ายขั้นตอนการไหว้ศาลหลักเมือง
ในส่วนขั้นตอนการไหว้ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร จะมีป้ายบอกแต่ละจุด 5 จุดไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป
ทำบุญใส่บาตรวันเกิด จุดที่ 1 ได้เลยค่ะ
จุดแรกถอดรองเท้า แล้วเดินเข้าไปในอาคารกราบสักการะพระพุทธรูป ถวายดอกบัว 1 ดอก รวมถึงสามารถทำบุญใส่บาตรพระประจำวันเกิด เพื่อสะเดาะเคราะห์ และเสริมดวงได้เลย
- จุดที่ 2 : องค์พระหลักเมืองจำลอง
ถ่ายจากมุมด้านนอกจุดที่ 2 องค์พระหลักเมืองจำลอง
เดินมาจุดที่ 2 เพื่อกราบสักการะองค์พระหลักเมืองจำลอง ถวายธูปและเทียน ซึ่งปัจจุบันงดจุดธูปและเทียน เมื่อไหว้เสร็จให้นำธูปและเทียนวางบริเวณที่เตรียมไว้ได้เลย จากนั้นมานั่งถวายคำบูชา และกล่าวคำอธิษฐาน
สำหรับคำกล่าวบูชาสักการะองค์พระหลักเมืองจำลอง ดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)
จากนั้นก็กล่าวคำบูชา ดังนี้
คำกล่าวบูชาองค์พระหลักเมือง
“ศรีโรเม เทพเทวานัง พระหลักเมืองเทวานัง พระภูมิเทวานัง ทีปธูปจะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปพยัญชนะ สัมปันนัง สารีนัง อุททะกัง วะรัง เตปิตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขเยนะ สุเขนะจะ ฯ
ข้าพเจ้าขอถวายเครื่องสังเวย และสิ่งของต่าง ๆ แด่องค์พระหลักเมือง ขอองค์พระหลักเมือง จงรับเครื่องสังเวย และสิ่งของต่าง ๆ ของข้าพเจ้า ขอบารมีองค์พระหลักเมือง และเทพเทพารักษ์ ที่สถิตอยู่ ณ ที่นี้ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าทำการสิ่งใด ได้สำเร็จสมปรารถนาทุกประการ ขอให้ข้าพเจ้า และครอบครัวพร้อมทั้งบริวาร ตลอดจน ญาติสนิท มิตรสหาย จงแคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวง ปราศจากโรคาพยาธิ และจงมีแต่ความสุขความเจริญ ตลอดกาลนานเทอญ”
ที่ถวายพวงมาลัย ศาลหลักเมือง
ที่ถวายดอกบัว องค์พระหลักเมืองจำลอง
ผูกผ้าแพรสี ที่องค์พระหลักเมืองจำลอง
ปิดทองพระสยามเทวาธิราช
ปิดทองพระพุทธโสธร
ขั้นตอนต่อไป คือ นำพวงมาลัยมาถวายองค์พระหลักเมืองจำลอง โดยวางไว้ที่จุดแขวนพวงมาลัยข้างหลังที่วางธูปและเทียน จากนั้นก็นำผ้าแพรสีทั้ง 3 ผืน ผูกที่องค์หลักเมืองจำลองหลักใดหลักหนึ่ง เสร็จแล้วจึงนำทองคำเปลวไปปิดทองหลังพระพุทธโสธร และพระสยามเทวาธิราช
- จุดที่ 3 : องค์พระหลักเมือง
ประตูทางเข้าจุดที่ 3
จุดที่ 3 องค์พระหลักเมือง
องค์พระหลักเมือง รัชกาลที่ 1 ยอดเสาคล้ายรูปบัวตูม [ซ้าย]
องค์พระหลักเมือง รัชกาลที่ 4 ยอดเสาเป็นยอดเม็ดทรงมัณฑ์ [ขวา]
มาถึงจุดที่ 3 กราบสักการะ ขอพรองค์พระหลักเมืองจริง ภายในอาคารจะมีเสาหลักเมือง รัชกาลที่ 1 ตั้งตรงกลาง ลักษณะยอดเสาคล้ายรูปบัวตูม และเสาหลักเมือง รัชกาลที่ 4 ยอดเสาเป็นยอดเม็ดทรงมัณฑ์
คำกล่าวบูชาองค์พระหลักเมือง
สำหรับการไหว้และคำบูชาองค์พระหลักเมืองจริง จะเป็นคำบูชาเช่นเดียวกับองค์หลักเมืองจำลอง เมื่อกล่าวคำบูชาเสร็จ ให้ตั้งจิต อธิษฐานขอพรได้เลย
ทางเข้าศาลเทพารักษ์
ออกมาจากองค์พระหลักเมืองจริง จะมาขอพรต่อที่หอเทพารักษ์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ได้แก่
- พระเสื้อเมือง เทพารักษ์ผู้ปกป้องคุ้มครอง รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข
- พระทรงเมือง เทพารักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน
- เจ้าเจตคุปต์ เทพารักษ์ที่ทำหน้าที่จดบันทึกความชั่วร้ายของมนุษย์ที่ตายไป และนำเสนอต่อพระยม
- พระกาฬไชยศรี เทพารักษ์ที่มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ใครทำความชั่ว สอดส่องดูแลบุคคลอันธพาลในยามค่ำคืน รวมถึงหากพบบุคคลใดถึงฆาตก็นำตัวไปให้พระยม
- เจ้าหอกลอง เทพารักษ์ที่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ หากพบเหตุร้ายจะรายงานพระเสื้อเมืองรับทราบ
- จุดที่ 5 : เติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิดและสะเดาะเคราะห์
จุดเติมน้ำมันพระประจำวันเกิด
อ่างสะเดาะเคราะห์
จุดสุดท้ายในการไหว้ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร คือ มาจุดเติมน้ำมันตะเกียงที่พระประจำวันเกิดของตัวเอง ซึ่งวิธีการคือให้เติมน้ำมันลงไปครึ่งขวดที่พระประจำวันเกิด อีกครึ่งขวดให้นำไปเติมที่อ่างสะเดาะเคราะห์
ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร เปิด-ปิดกี่โมง
มุมด้านหน้าอาคารองค์พระหลักเมืองจริง
ประชาชนสามารถเดินทางเข้ามาสักการะศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ได้ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น. ทุกวัน ส่วนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทางมาศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
เดินข้ามคลองจากวัดราชบพิธเพื่อไปศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
เดินมาเจอตึกสีส้ม ๆ อยู่ตรงข้ามกระทรวงกลาโหม
ริมกำแพงอาคารที่ทำการกระทรวงกลาโหมมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ
ตรงข้ามกระทรวงกลาโหมจะเป็นวัดพระแก้ว
เสียดายวันนี้เรามีเวลาจำกัดไม่ได้เข้าไปไหว้
ภาพวัดพระแก้ว ถ่ายจากด้านหน้ากระทรวงกลาโหม
ผ่านกระทรวงกลาโหม เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงศาลหลักเมือง
ด้านหน้าอาคารกระทรวงกลาโหม
การเดินทางมาที่ศาลหลักเมือง สามารถมาได้หลายวิธี ทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถแท็กซี่ รวมถึงรถส่วนตัว แต่วิธีที่ง่าย สะดวกและประหยัดมากที่สุด แนะนำให้เดินทางมาด้วย MRT หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยจุดหมาย คือให้ลงที่สถานีสนามไชย ทางออกที่ 1 มิวเซียมสยาม เดินมายังพระบรมมหาราชวัง ซึ่งระยะทางน่าจะประมาณ 900 เมตร มีจุดสังเกตคือ ติดกับกระทรวงกลาโหม หรือสามารถใช้ทางออกที่ 2 ทางโรงเรียนวัดราชบพิธ เส้นทางนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่จะไปไหว้วัดพระแก้วก่อน เพราะอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็ค่อยเดินต่อมาที่ศาลหลักเมืองก็ได้เช่นกัน
ในส่วนของการเดินทางมาศาลหลักเมือง ด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถนำรถมาจอดข้างศาลหลักเมืองได้เลย แต่ก็มาลุ้นอีกว่าที่จอดจะว่างหรือไม่
สำหรับการเดินทางมาศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ด้วยรถเมล์ ให้นั่งสาย 80, 91 หรือ 189 ลงที่ป้ายสนามหลวงฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา จากนั้นก็เดินข้ามถนนเดินมาที่ศาลหลักเมือง แต่ทั้งนี้แนะนำให้เช็กเส้นทางอีกครั้ง เนื่องจากบางทีจะมีการปิดถนน โดยสามารถสอบถามเส้นทางการเดินรถ ได้ที่ Call Center 1348
สถานที่ตั้งศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนหลักเมือง แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
และทั้งหมดนี้คือ 3 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ ที่เราแนะนำให้มาไหว้และสักการะขอพรเสริมดวงชะตาให้ชีวิตโชคดี ๆ ปัง ๆ รวย ๆ สุขภาพแข็งแรง และอยู่เย็นเป็นสุข ขอบอกเลยว่าทริปนี้ถือเป็นการพักผ่อน ท่องเที่ยว ที่ทำให้เราสุขกายใจแบบง่าย ๆ ในวันหยุดแบบสั้น ๆ ได้ดีทีเดียว
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่
