รวมหนังเอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว มหาวิบัติเอเลี่ยนถล่มโลก

          รวม 10 หนังเอเลี่ยน ที่เล่าเรื่องยูเอฟโอ-มนุษย์ต่างดาวเยือนโลก

          ที่ผ่านมา เราได้ยินได้ฟังแต่คำบอกเล่า นักวิทยาศาสตร์ก็เหมือนจะบอกว่า ท่ามกลางดวงดาวนับแสนล้านในจักรวาล เป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาอื่นนอกจากมนุษย์อยู่ และแม้เราจะไม่เคยมีโอกาสพบเจอด้วยตาตนเอง แต่เราก็เชื่อไปแล้วว่า เอเลี่ยนนั้นมีจริง คงมีคนทำหนังหลายคนที่เชื่ออย่างนั้น พวกเขาเลยสร้าง หนังที่เล่าเรื่องยูเอฟโอ-มนุษย์ต่างดาวเยือนโลก ขึ้นมา ซึ่งเราจะรวบรวมสัก 10 เรื่องมาฝากกัน

          ตั้งแต่เราเกิดมา ก็ได้ยินเรื่องมนุษย์ต่างดาว เรื่องยูเอฟโอ จากหนังสือรวมเรื่องแปลก ที่บอกว่า พบเห็นยานประหลาดที่นั่นที่นี่ เคยมีผู้ที่ถูกเอเลี่ยนจับตัวไป ทุกอย่าง ต่างๆ นานา ที่เราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ การได้ดูหนังเหล่านี้ ก็เหมือนมีคนทำให้จินตนาการของเรามันถูกมองเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งยังกลายเป็นภาพจำในใจผู้คนไปด้วยว่า เอเลี่ยนน่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่จุดประสงค์ของการมาเยือนโลกมนุษย์นั้นก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจินตนาการของผู้เขียนบทและผู้กำกับแหละนะ

          ย้ำว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังเหล่านั้น อาจจะมีหนังแนวนี้อีกมากมาย แค่ไม่ได้ถูกเราหยิบยกมาเขียนถึง

1. Independence Day | ไอดี 4 สงครามวันดับโลก (1996)
2. Annihilation | แดนทำลายล้าง (2018)
3. Arrival | ผู้มาเยือน (2016)
4. E.T. the Extra-Terrestrial | อี.ที. เพื่อนรัก (1982)
5. Close Encounters of the Third Kind | มนุษย์ต่างโลก (1977)
6. Battle: Los Angeles | วันยึดโลก (2011)
7. District 9 | ยึดแผ่นดิน เปลี่ยนพันธุ์มนุษย์ (2009)
8. Alien | เอเลี่ยน (1979)
9. Paul | มะนาวต่างดุ๊ด มนุษย์ต่างมึน (2011)
10. Cloverfield | วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก (2008)

          ดูท่าจะเป็นหนังมนุษย์ต่างดาวที่ผู้คนจดจำและนึกถึงเป็นเรื่องแรกๆ เลยก็ว่าได้ เหตุที่เกิดในวันที่ 2 กรกฎาคม ปรากฏยานแม่ของเอเลี่ยนขนาดมหึมาเหนือท้องฟ้าสหรัฐฯ ก่อนที่จะปลดยานลูกนับสิบลำกระจายออกไปยังเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก พวกมันเตรียมจะโจมตีโลกพร้อมๆ กัน แม้การตอบโต้ในวันต่อมาจะล้มเหลว แต่ในวันที่ 4 กรกฎาคม กองกำลังทหารของหลายชาติก็รวมพลังกัน ดำเนินการทำลายล้างยานแม่ยานลูกให้สิ้นซาก ID4 เลยไม่ใช่แค่วันชาติสหรัฐฯ แต่กลายเป็นวันประกาศอิสรภาพของโลก

          เล่ากันไปจนหมดเปลือกก็ไม่ถือว่าสปอยล์ เพราะเป็นหนังที่คนทั้งโลกได้ดูกันหมดแล้ว เป็นหนังที่ทำให้คนจดจำว่า วิล สมิธ ในบท ผู้กอง สตีเว่น ฮิลเลอร์ สร้างวีรกรรมไว้กับโลกนี้ยังไง

          นอกจากจะเป็นหนังที่มีคนมากมายจดจำ มันยังเป็นหนังภาคต่ออีกด้วย

• ‘Independent Day ไอดี 4 สงครามวันดับโลก’ (1996)
• ‘Independence Day: Resurgence สงครามใหม่วันบดโลก’ (2016)

          หนังเอเลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเข้าโรงเท่านั้น หลายเรื่องก็ไม่เคยเข้าโรงในไทย อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Annihilation แดนทำลายล้าง’ จากผู้กำกับเจ้าของผลงาน ‘Ex Machina’ เขามักจะทำหนังไซไฟแนวสอดแทรกอะไรให้ขบคิดด้วยเสมอๆ หนังเรื่องนี้ การมาของสิ่งมีชีวิตต่างดาวในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หญิงสาวนักชีววิทยาคนหนึ่งที่สามีหายไปหนึ่งปีเต็ม วันหนึ่งเธอก็มีเหตุให้ต้องเข้าไปอยู่ในอาคารแห่งหนึ่ง ได้พบกับคนแปลกหน้าหลายๆ คน ที่ที่ทำให้เธอได้รู้จักกับดินแดนทำลายล้างที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับสามีของเธออย่างไม่คาดคิด จนวันหนึ่งเธอเดินเข้าป่าที่อยู่ในอาณาเขตของม่านรุ้งที่แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาสาเหตุและรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในขอบเขตแห่งนั้น ด้วยความสงสัยใคร่รู้ของมวลมนุษย์ที่ว่า เหตุใดคนที่เข้าไปข้างในจึงไม่มีใครได้กลับออกมา

          เป็นหนังที่เล่าเรื่องของมนุษย์ต่างดาวได้แหวกแนวไปอีกทาง พวกเขาไม่สื่อสาร ไม่มีเจตนาอะไรที่ชัดแจ้ง ไม่ได้มาเป็นตัวเป็นตน สิ่งที่พวกเขาทำคือสร้างอาณาเขตของตัวเองอย่างช้าๆ Natalie Portman คือคนเดียวที่โดดเด่น แบกรับทั้งเรื่องไว้โดยมีคนอื่นมาช่วยแบ่งเบาไว้คนละเล็กคนละน้อย หนังมีความนิ่ง ทว่าสร้างความอยากรู้ และพาไปในทางที่คาดไม่ถึงได้ดี แม้ตอนจบจะพอเดาได้อยู่บ้างก็ตาม

          หนังเอเลี่ยน แต่ละเรื่อง จะมีมุมมองในการเล่าของตัวเอง อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Arrival ผู้มาเยือน’ มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกเพียงเพื่อจะมาปฏิสันถารกับสิ่งมีชีวิตผู้ทรงภูมิปัญญาของโลก ในวันหนึ่ง โลกมีผู้มาเยือนเป็นยานรูปทรงประหลาด หลุยส์ แบงค์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา และ เอียน ดอลเนลี่ นักฟิสิกส์ถูกดึงตัวไปทำภารกิจที่เป็นความลับ หนังเล่าอีกเรื่องหนึ่งสลับกันไปด้วย เรื่องราวพาร์ทดราม่าชีวิตส่วนตัวของหลุยส์กับลูกน้อยของเธอ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันจะไปเกี่ยวกับเนื้อหาในพาร์ทไซไฟเผชิญหน้าเอเลี่ยนพวกนั้นยังไง หนังเดินมาสู่บทเฉลยที่เล่นเอาอึ้งและเหวอไปตามๆ กัน ถือเป็นไอเดียในการถ่ายทอดที่สดใหม่ไม่เหมือนใคร แถมยังไม่จำเป็นต้องมีฉากแอ็คชั่นใดๆ ก็ทำให้หนังชวนติดตามได้ตลอดรอดฝั่ง

          ครั้งนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับ Denis Villeneuve ที่เคยสร้างงานอย่าง ‘Prisoners’, ‘Dune’ และ ‘Sicario’ อาจไม่เคยมีใครสนใจจะเล่าเรื่องในช่วงเวลาของการสื่อสารและทำความเข้าใจกันและกันระหว่างมนุษย์และเอเลี่ยนมาก่อน นี่คงเป็นเรื่องแรกที่หยิบช่วงเวลาเหล่านั้นมาเล่าอย่างเป็นจริงเป็นจัง และอาศัยการเดินเรื่องแบบลึกลับชวนสงสัยพาให้เราอยู่กับหนังไปจนถึงบทลงเอย

          ถ้าจะให้บอกว่า เอเลี่ยนตัวใดน่ารัก อยากมีไว้เป็นสมาชิกในบ้านก็คงจะเป็นตัวนี้แหละ จากจินตนาการอันบรรเจิดของ สตีเฟน สปิลเบิร์ก ผู้กำกับ และ เมลิสสา แมธิสัน ผู้เขียนบท สู่ภาพยนตร์บนจอใหญ่ที่กลายเป็นตำนาน ‘อี. ที. เพื่อนรัก’ เล่าเรื่องของเด็กชายเอลเลียต ผู้ที่ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กหัวโต เขาถูกทิ้งให้เหลือตัวคนเดียวหลังยานอวกาศบินออกไปจากโลกอย่างกะทันหัน เขาตั้งชื่อมันว่า อี.ที. และซ่อนไว้ในบ้านไม่ให้แม่รู้ พยายามหาทางให้เพื่อนรักได้กลับบ้าน ด้วยการสร้างเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเพื่อแจ้งยานแม่ให้มารับ พร้อมๆ กับต้องหลบหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่รัฐ

          ความน่ารัก ชาญฉลาดและมีน้ำใจของอี.ที. อาจทำให้ลืมความน่ากลัวของเอเลี่ยนจากหนังอื่นๆ ไปได้ชั่วขณะ เป็นหนังที่ครองใจเด็กมาได้อย่างยาวนาน แม้จริงๆ ก็ครองใจผู้ใหญ่เช่นกัน

          ไหนๆ ก็พูดถึงงานของพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดอย่างสปิลเบิร์กแล้ว ก็ขอหยิบยกหนังอีกเรื่องหนึ่งด้วยเลยแล้วกัน เรื่องนี้สร้างก่อนหนัง ‘อี.ที. เพื่อนรัก’ อีก เป็นผลงานที่ตามมาหลังจากสร้างหนังฉลามอย่าง ‘Jaws’ จนลือลั่น สปิลเบิร์กก็ก้าวหน้าไปอีกหลายก้าวอย่างทะเยอทะยาน เติมเต็มจินตนาการวัยเด็กอย่างเหตุเอเลี่ยนมาเยือนโลกมนุษย์ เลยสรรค์สร้างมันให้เกิดขึ้นจริงในโลกเซลลูลอยด์

          หนังไซไฟเรื่อง ‘มนุษย์ต่างโลก’ เลยเป็นหนังลำดับที่สามของพ่อมด เล่าถึงช่วงเวลาที่โลกมนุษย์ได้ต้อนรับการมาเยือนของเหล่ามนุษย์ต่างดาว ซึ่งดูไปแล้วพวกเขาก็มาดีนะ ไม่ได้มาร้ายๆ อย่างกับหนังแบบ ‘ID4’ หนังมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า องก์แรก พระเอกขับรถไปจะทำงาน แต่ดันเจอมนุษย์ต่างดาวเอาไฟส่องเสียก่อน ไปเจอกับสาวเจ้าผู้ออกมาตามลูกน้อยจอมซนที่เดินทะเล่อทะล่าออกไปตามหามะนาวต่างดุ๊ดจนเกือบโดนรถชน แล้วหนังก็พาเราไปพบกับการพบปะระหว่างสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจากคนละต่างดาว ส่วนองก์สุดท้ายนี่ยาวนานมากๆ เพราะมันเป็นช่วงของการติดต่อและทำความรู้จักกันของมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว เรื่องมันเดินกันออกจะเนิบนาบ ดูกันได้เพลินๆ

          ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นที่ถูกหยิบยกมาเขียนถึงในหน้านี้ หนังอย่าง ‘วันยึดโลก’ คงเป็นหนังที่ได้รับคะแนนน้อยกว่าเรื่องอื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องหยิบมาสักเรื่องเพื่อเป็นตัวแทนของหนังเหล่านั้น โลกนี้มีมากมายที่บอกเล่าถึงเอเลี่ยนพันธุ์ร้ายๆ ที่หมายทำลายมนุษยชาติและยึดครองโลกเป็นของตนเอง ‘วันยึดโลก’ เล่าเรื่องของมนุษย์ที่ต้องทั้งดิ้นรน เอาชีวิตให้รอด พร้อมกอบกู้อิสรภาพ ที่กำลังสูญสิ้นจากการรุกรานยึดพื้นที่ของเหล่ามนุษย์ต่างดาว

          เมื่อจ่าแก่ๆ คนนึงที่ใจอยากจะออกจากชีวิตนาวิกโยธินเต็มแก่ แต่บังเอิญโลกเกิดเป็นที่สนใจใคร่อยากบุกยึดของมะนาวต่างดุ๊ดขึ้นมา เลยยังไปไหนไม่ได้ จ่าแก่ๆ คนที่เคยถูกตราหน้าว่า “ลูกน้องตาย นายเลยสบาย” คนนี้เลยต้องปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้าย เรื่องราวเน้นไปที่ชีวิตและการต่อสู้กับเหล่ามนุษย์ต่างดาวของเหล่าทหาร Marine กับคู่ต่อสู้ที่มีจำนวนและยุทโธปกรณ์เหนือกว่ามาก เป็นหนังมนุษย์ต่างดาวที่มีความเป็นหนังทหารอยู่ในตัว

          ผลงานที่สร้างชื่อให้กับ นีลล์ บลอมแคมป์ อย่างมากในช่วงนั้น หนังที่เล่าเรื่องราวของโลกมนุษย์ในวันที่มีเอเลี่ยนเดินทางมาเยือน แต่พวกเขามาในฐานะผู้อพยพลี้ภัยที่เหลือรอดจากดาวบ้านเกิด การมาอยู่ที่นี่ก็เลยดูลำบากอยู่หน่อยไม่ต่างกับค่ายผู้ลี้ภัยที่เป็นมนุษย์เลย โดยพวกเขาอาศัยอยู่บนโลกมากว่า 20 ปีในเขต District 9 ในเมืองสุดมั่งคั่งอย่างโจฮันเนสเบิร์กราวกับค่ายกักกัน แถมยังถูกขูดรีดและถูกเหยียดโดยมนุษย์โลก ส่วนตัวละครที่เป็นมนุษย์อย่าง วิคัส หัวหน้าภารกิจผู้ที่เข้าไปเจรจากับเหล่ามนุษย์ต่างดาว ก็ประสบอุบัติเหตุบางอย่างจนแขนข้างหนึ่งมีสภาพเหมือนเอเลี่ยน หนังเล่าเรื่องชวนสะเทือนใจน้ำตาไหลสงสารเหล่าเอเลี่ยนที่ถูกกระทำอย่างป่าเถื่อนจากมนุษย์ กลายเป็นหนังเอเลี่ยนที่สุดประทับใจเรื่องหนึ่งไปเลยทีเดียว

          หนังถ่ายทำบางส่วนในลักษณะเป็นหนังสารคดี ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง ซึ่งส่งผลให้พวกเขารู้สึกกับหนังมากเป็นพิเศษ หนังประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในด้านรายได้ กวาดไปทั่วโลกกว่า 200 ล้านเหรียญ และในด้านรางวัล เพราะคว้ารางวัลจาก BAFTA ไปได้มากถึง 7 สาขา

          เมื่อจะเขียนถึงหนังเอเลี่ยนที่เล่าเรื่องสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว จะทำเป็นไม่สนใจเขียนถึงหนังที่ใช้คำว่า ‘เอเลี่ยน’ ไปเป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเองคงไม่ได้ มันเป็นหนังหลายภาคที่ถูกสร้างกันออกมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นแฟรนไชส์ ดังบ้างแป้กบ้าง กลับมาใหม่บ้าง พักหยุดคิดก่อนบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นหนังไซไฟอวกาศที่บวกเอาความเป็นหนังแอ็คชั่นและสยองขวัญพ่วงเข้าไปด้วย กลายเป็นหนังที่คนทั่วโลกรู้จักและติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้

          เรื่องราวของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่มีทั้งความดุร้ายและพละกำลังอันมหาศาล ทั้งมีการแพร่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีอันน่าสยอง มีเพียงมนุษย์โลกบางกลุ่มเท่านั้นที่มีปัญญาพอจะกำจัดมันได้ แต่มันก็ไม่เคยหยุดการมายังโลก แม้แต่การต้องมาทำสงครามต่อสู้กับเหล่าพรีเดเตอร์เพื่อขยายเรื่องราวก็มีมาแล้ว

          ถือเป็นแฟรนไชส์ที่ยังคงขายได้อยู่เรื่อยๆ คงเป็นเพราะผู้คนจดจำคำคำนี้ไปพร้อมกับคาแรกเตอร์ของสัตว์ร้ายต่างดาวสีดำมะเมื่อมที่มีเลือดเป็นกรดไปแล้วก็เป็นได้

• ‘Alien เอเลี่ยน’ (1979)
• ‘Aliens เอเลี่ยน 2 ฝูงมฤตยูนอกโลก’ (1986)
• ‘Alien³ เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล’ (1992)
• ‘Alien: Resurrection เอเลี่ยน 4 ฝูงมฤตยูเกิดใหม่’ (1997)
• ‘Prometheus โพรมีธีอุส’ (2012)
• ‘Alien: Covenant เอเลี่ยน: โคเวแนนท์’ (2017)

          จริงจังกันมาหลายเรื่องแล้ว ขอเปลี่ยนแนวมาดูหนังมนุษย์ต่างดาวที่พาฮาและอารมณ์ดีกันบ้าง เรื่องมันมีอยู่ว่า มีสองหนุ่ม geek ชาวอังกฤษผู้บ้ามนุษย์ต่างดาวที่ไปเที่ยวอเมริกา แต่บังเอิญเจออุบัติเหตุระหว่างทาง ก่อนจะพบว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวตนหนึ่งที่ขับรถคันนั้น หลังจากพวกเขารับขึ้นรถมา ก็ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวเบื้องหลังเบื้องลับของการหลบหนีของมนุษย์ต่างดาวที่ชื่อว่า พอล

          ความสัมพันธ์ที่ดำเนินมาระหว่างทาง ทำให้ภารกิจการพามนุษย์ต่างดาวหลบหนีกลายเป็นจุดเชื่อมโยงให้เราได้รู้จักหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความฮาแบบประหลาดๆ เนิร์ดๆ ของผู้ชายสองคนนั่น คนหนึ่งเป็นนักเขียน อีกคนก็เป็นนักวาดประกอบ แต่บ้าในสิ่งเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนคนอื่นมองว่าเป็นคู่เกย์ ความใฝ่ฝันอย่างเดียวกันคือขอให้ในชีวิตนี้ ได้เจอกับมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆ เรื่องราวของหนัง ‘มะนาวต่างดุ๊ด มนุษย์ต่างมึน’ เดินไปในลักษณะ Road Movie เมื่อตัวละครหลักใช้รถ RV และเป็นหนังล้อเลียนหนังมนุษย์ต่างดาว

          หลายคนคงยังจำได้ กับประสบการณ์การดูหนังที่ต้องระวังอาเจียนเป็นที่สุด เพราะมันเป็นหนังเอเลี่ยนถล่มโลกที่ใช้การเล่าเรื่องด้วยภาพแนว found footage ให้ตัวละครวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีกล้องวิดีโออยู่กับตัว และกำลังปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน แต่กลับต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น เพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุสัตว์ประหลาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้นจู่โจมใจกลางเมือง

          จินตนาการใน หนังเอเลี่ยน เรื่องนี้ คือการบอกว่าเอเลี่ยนเป็นตัวร้ายที่ต้องการทำลายล้างมนุษยชาติ ด้วยการโปรโมตแนวไวรัลและความฉีกแนว หนังประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 172 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 25 ล้านเหรียญเท่านั้นเอง

          นอกจากภาคแรกแล้ว ก็ยังมีการสร้างภาคอื่นๆ ตามมา เป็นการเล่าถึงสถานการณ์ที่ชาวโลกต้องเผชิญหน้ากับเอเลี่ยนพันธุ์หัวรุนแรงคนละพื้นที่ ต่างสถานการณ์ ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาคต่อ แต่ถือว่าต่างเป็นภาคแยกของกันและกัน

• ‘Cloverfield วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก’ (2008) – มีให้ชมทาง Netflix, HBO Go
• ’10 Cloverfield Lane 10 โคลเวอร์ฟิลด์ เลน’ (2016) – มีให้ชมทาง Netflix, HBO Go
• ‘The Cloverfield Paradox’ (2018) – มีให้ชมทาง Netflix

          และก็แน่นอนว่า ยังมีหนังอีกมากมายบนโลกนี้ ที่เล่าถึงเอเลี่ยน สิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ที่มาเยือนโลกในรูปแบบและเหตุผลที่แตกต่าง เช่นเดียวกับแนวทางที่อาจเป็นหนังฟีลกู้ด, ดราม่า หรืออาจจะเป็นแอ็คชั่นไซไฟ ที่ผสมความระทึกขวัญ/สยองขวัญเข้าไป ซึ่งคงจะเก็บมาใส่ในบทความเดียวไม่ได้ ขออภัยที่หนังเอเลี่ยนที่อยู่ในใจคุณอาจไม่ได้อยู่ในบทความนี้นะครับ

          PatSonic
          บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Independence Day, เฟซบุ๊ก Annihilation, เฟซบุ๊ก Arrival, เฟซบุ๊ก E.T. The Extra-Terrestrial, เฟซบุ๊ก Close Encounters of the Third Kind, เฟซบุ๊ก Battle: Los Angeles, เฟซบุ๊ก District 9, เฟซบุ๊ก Alien, เว็บไซต์ Prime, เฟซบุ๊ก Cloverfield