เอาจิง...ความ "โรแมนติก" มันขึ้นกับคนที่เราไปด้วย (ไม่ใช่สถานที่) แต่ผมคือคนโฉดที่ลุยเดี่ยวแทบจะทุกทริป ดังนั้น เราจะมาหวังความโรแมนติกจากคนรู้ใจไม่ได้ เพราะไม่มี 5555 "โรแมนติก" สำหรับผมจึงเป็น "สถานที่ที่ฟิลกู๊ด" แค่เมืองที่บรรยากาศดีๆ แสงสวยๆ ฟุ้งๆ ได้ฟิลชวนฝัน มันก็โรแมนติกละ
และนี่คือ 23 เมืองโรแมนติกที่คัดมาแล้วจากหลายร้อยเมืองทั่วโลกที่ผมเดินทางมา มีเมืองไหนบ้าง ปักหมุดลากเพื่อน ลากแฟน ลากตัวเองลุยเดี่ยวกันได้ มาชมกันเล้ยยย..
1. Bellagio & Varenna, Lake Como
2 เมืองโคตรสวย และโรแมนติกแห่งทะเลสาบโคโม่ที่ต้องลองมานอนค้างสักคืน แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลสาบ พร้อมดินเนอร์ดีๆ ธรรมชาติที่สวยงามจะทำให้คุณล่องลอยจนไม่อยากกลับสู่โลกความจริงกันเลยทีเดียว

2. Hallstatt, Austria
หมู่บ้านเล็กๆ ที่หลายคนมักมาเที่ยวแบบมาเช้าเย็นกลับ แต่หากใครมีเวลา อยากให้ลองค้างที่นี่สักคืน บรรยากาศชวนฝัน ความโรแมนติกจะนับจากนักท่องเที่ยวกลับหมด ทั้งหมู่บ้าน ทะเลสาบ ขุนเขา และความสงบคือ ความโรแมนติกที่ใครมานอนค้างก็ต้องตกหลุมรัก

3. Charles bridge, Prague
สะพานชาร์ลแห่งกรุงปราก ไม่ได้มีดีแค่เมืองโบราณที่ทรงคุณค่า แต่ชาร์ลในช่วงเย็นย่ำ กลับสวยหนักขึ้นมาก มากชนิดที่แม้ผู้คนจะหนาแน่นเพียงใด ก็ไม่ได้ทำให้แสงทไวไลท์ที่ชโลมเมืองเก่าแห่งนี้มีความโรแมนติกน้อยลงเลย

4. Oia Village, Santorini Island
ดินแดนที่ได้รับการโหวตจาก นทท. ทั่วโลกมานักต่อนักว่า มันคือที่สุดแห่งความโรแมนติก โดยเฉพาะช่วงพลบค่ำ แสงแดดสีส้ม ท้องฟ้าสีชมพู สาดมายังบ้านเรือนสีขาวตามไหล่เขา สะท้อนผืนน้ำแห่งทะเลอีเจี้ยน สวยหยาดเยิ้มจนใครๆต่างยอมรับในความโรแมนติก และอยากมาสัมผัสด้วยตาสักครั้งในชีวิต

5. Cappadocia, Turkey
บอลลูนนับพัน กับ landscape ที่เต็มไปด้วยหินรูปทรงประหลาด กระทบแสงแรกของวัน ผสานรวมกันอย่างลงตัว คือโมเม้นที่น่าจดจำ มันคือความโรแมนติกที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก

6. Venice, Italy
เวนิส เป็นสถานที่ใฝ่ฝันของใครหลายคนที่อยากมาสักครั้ง ความสวย และความโรแมนติกดังไปทั่วโลกแบบไม่มีข้อกังขา และจะโรแมนติกมากขึ้น หากได้ล่องเรือกอนโดล่า พร้อมมีนายท้ายร้องเพลงขับกล่อมขณะพายไปตามคูคลอง มันจะเป็นอีกประสบการณ์ที่จะจดจำไปอีกนานแสนนาน

7. Eiffel Tower, Paris
ปารีส คือยุโรปที่ให้ทั้งความหรูหรากูตูร์ และดีกรีความโรแมนติกจะมากขึ้น ถ้าได้ล่องเรือในแม่น้ำแซน ในช่วงค่ำที่มีแสงระยิบระยับจากหอไอเฟลส่องประกายเพิ่มดีกรีความโรแมนติกกันเข้าไปอีก

8. East River, Manhattan
นิวยอร์ค ไม่ใช่เพียงแต่จะเป็นเมืองแห่งแสงสี และแฟชั่น แต่หากคุณได้ลองตีตั๋วล่องแม่น้ำอีสต์จากฝั่งบรุคคลินมายังเกาะแมนฮัตตัน กะเวลาให้ดี ตรงช่วงเย็นย่ำที่ท้องฟ้าเริ่มมืด และตึกต่างๆ เริ่มเปิดไฟ มันโคตรสวย โคตรโรแมนติกอย่างน่าเหลือเชื่อ

9. Opera House, Sydney
เอาจิง โอเปร่าเฮ้าส์มันไม่ควรจะโรแมนติก เพราะมันคือโรงละครรูปทรงทันสมัย แต่เพราะทัศนียภาพริมอ่าว นกนางนวลที่บินกลับรัง บวกร้านอาหารน่านั่ง กับสะพานฮาร์เบอร์ที่ห่างออกไป ทำให้บรรยากาศตรงโอเปร่าเฮ้าส์ช่วงพลบค่ำ ติดโพล 1 ในสถานที่โรแมนติกของผมไปแบบไม่ต้องสงสัย

10. Rovinj, Croatia
Hidden gem อ่ะบอกเลย โรวินจ์คือเมืองโคตรสวย สวยโคตรริมทะเลอเดรียติก ในวันฟ้าใส แดดเริ่มอ่อนแรง คือโมเม้นที่โรแมนติกที่สุด แค่ยืนโง่ๆ มองดูบ้านเรือนริมทะเลยามพลบค่ำ ไปพร้อมๆกับแสงทไวไลท์ที่ค่อยเปลี่ยนสีไปตามเวลาก็พาใจลอยถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมรักเมืองนี้

11. Dubrovnik, Croatia
Game of Throne กำแพงและป้อมปราการที่ล้อมรอบเมือง คือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ แล้วเพิ่มความโรแมนติกด้วยหาร้านอาหารดีๆ ดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศในยุคกลาง แล้วเดินย่อยตามตรอกซอกซอยที่มีร้านรวงน่ารักๆ ช่างเป็นค่ำคืนที่แสนจะโรแมนติกที่เรียบง่าย แต่น่าจดจำ

12. Budapest, Hungary
ด้วยสิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารรัฐสภาที่สวยมากเว่อร์ สะพานโซ่ Chain Bridge ข้ามแม่น้ำดานูบ และไฟประดับในยามค่ำคืน คือภาพฉายที่โคตรจะโรแมนติก และทำให้เราตกหลุมรักบูดาเปสได้หมดใจไม่ยาก

13. Manarola, Italy
หมู่บ้านชาวประมงทั้ง 5 ของ Cinque Terre คือสวยหมด แต่หากจะเลือกสักแห่งที่ปักหลักชมพระอาทิตย์ตกทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ควรจะเป็นที่นี่ Manarola กับบ้านเรือนที่ไต่ระดับตามไหล่เขา ช่วงเวลาปกติว่าสวยตาแตกแล้ว พอช่วง sunset ยิ่งตาแตกหนักไปอีก

14. Maldives
เกาะฮันนีมูนอ่ะนะ ความโรแมนติกคงไม่ต้องสาธยายเยอะ หลับตานึกภาพการได้เดินเท้าเปลือยชิลๆ ริมหาด หรือดินเนอร์หรูใต้แสงเทียน ไม่นับห้องพักกลางน้ำ ที่มีระเบียงยื่นออกไปรับแสงจันทร์ที่ส่องสะท้อนท้องทะเล ในยามค่ำคืน มัลดีฟมีให้หมด ขอแค่มีเงิน จะเอาโรแมนติกแบบไหน มัลดีฟก็เนรมิตให้ได้

15. Tao Island, Thailand
เกาะเต่าบ้านเรา ให้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของท้องทะเล ผับบาร์ปาร์ตี้ แม้กระทั่งความโรแมนติกริมชายหาดยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่แสงสีส้มชมพูสาดไปทั่ว บรรยากาศแบบนี้ ควรหาโอกาสมาสักครั้งจะไม่ผิดหวังเลย

16. Lake Bled, Slovenia
ด้วย Landscape ที่ปังปุ ทะเลสาบ ภูเขา ปราสาท เกาะกลางทะเลสาบ ทุกอย่างคือองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบในการที่จะเรียกว่าที่นี่เป็นสถานที่สุดโรแมนติกอีกแห่งของโลก

17. Christmas Market
ผมกล้าพูดเลยว่า นี่คือตลาดที่โรแมนติกที่สุดบนโลกกลมๆใบนี้ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นที่โปรยปรายไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนในช่วงปลายปี แต่กลับอบอุ่นไปด้วยผู้คน ทั้งหนุ่มสาว ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เครื่องดื่มอุ่นๆ ร้านค้าโฮมเมดสีสันสดใส และเสียงเพลงในช่วงคริสต์มาส ทุกอย่างลงตัว อิ่มเอม และชวนฝัน

18. San Marino
เมืองเล็กๆ ที่มีปราสาทสวยบนยอดเขา และหอคอยสูงที่มองเห็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ด้านล่าง ในยามเย็นของวันที่มีไอหมอกปกคลุมจางๆ คือบรรยากาศที่โคตรโรแมนติก ทำให้เราตกหลุมรักเมืองนี้ได้อย่างง่ายดาย

19. Floating resort in Cheow Lan Dam
มาที่นี่นึกว่าเป็นฟยอร์ดที่นอร์เวย์ ผมพูดจริง ต่างแค่ที่นี่โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูน การได้นอนแพเขื่อนเชี่ยวหลานสักคืน แล้วออกเรือไปชมหินรูปทรงสวยๆ ที่มีท้องฟ้า และน้ำใสๆ ส่องประกายสะท้อนกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพลบค่ำ หรือเช้าตรู่ มันคือบรรยากาศที่สุดของความโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติที่แท้

20. Ubud, Bali
คันนา และความฮินดู ผสมผสานให้อูบุดโรแมนติกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ต้องบอกว่า Eat Pray Love ภาพยนตร์ดังของจูเลีย โรเบิร์ต ดึงเสน่ห์ของอูบุดให้ชาวโลกให้รับรู้ได้ดีมาก ขนาดผมมาแบบไม่คาดหวัง และไม่ใช่แฟนคลับของหนังเรื่องนี้ ผมยังสัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์ของที่นี่ โรแมนติกเหมือนโดนมนต์สะกดเอาอ่ะเอาจิง

21. Iceland cottage
ลองจินตนาการ Landscape ของไอซ์แลนด์ที่เต็มไปด้วยหิมะที่ขาวโพลน ทะเลสาบที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง โดยมีเราอยู่ในกระท่อมไม้น่ารักๆ กำลังจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ เปิดเพลงคลาสสิคคลอเบาๆ แล้วมองลอดหน้าต่าง ปล่อยใจสบายๆ ตกค่ำมีแสงเหนือเต้นระบำอยู่บนท้องฟ้า ผสานดาวระยิบระยับ โอ้ยย...ที่พูดมา ไม่ได้เกินจริง ไม่เรียกว่าโรแมนติกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

22. Mykonos Island, Greece
อีก 1 เกาะที่ไม่ไกลมากกับซานโตรินี่ ความโรแมนติกคือการได้นั่งดินเนอร์ในร้านอาหารริมทะเลจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า คือห้วงเวลาที่น่าจดจำ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่นี่คืออีก 1 สถานที่โรแมนติกอีกแห่งของโลก

23. Santa Claus village
สถานที่โรแมนติกแห่งนี้ ต้องเดินทางหลายต่อ และไกลหน่อย เพราะตั้งอยู่ตรงเส้นอาร์กติกของประเทศฟินแลนด์ บ้านซานต้าจะสานฝันในวัยเด็ก บ้านไม้แบบฟินแลนด์ ไฟประดับ และกิจกรรมที่เหมาะกับทั้งเด็กเล็ก ครอบครัว ฝูงเพื่อน และคู่รักให้ตักตวงความโรแมนติกในบรรยากาศหนาวๆ แต่ชวนฝัน

Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่