28 เกาะสวยเที่ยวเองได้ วันนี้...ผมจะพาทุกคนไปสำรวจเกาะสวยน่าเที่ยว (เกือบจะ) รอบโลกกันครับ ซึ่งผมพยายามเก็บมาให้หลากหลายที่สุด แต่ละที่การเข้าถึงยากง่ายต่างกัน แถมกิจกรรม และความสวยก็ต่างกัน
แต่...28 เกาะสวยเหล่านี้ไปได้เองคับ ผมไปมาแล้ว ทุกคนสามารถเก็บไว้เป็น wishlist ได้เลยหากสักวันได้ไปในประเทศนั้นๆ ปักหมุด แล้ววางแพลน ไปให้เห็นกับตาได้สบายๆ
ผมเขียน "ทริคแนะนำ" ตบท้ายให้ด้วย เผื่อใครสนใจตามรอย...มาคับ..!! มาติดเกาะกัน...
1. Santorini - Greece
ชาวชอบเที่ยว คงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะซานโตรินี่ของกรีซ กับบ้านเรือนสีขาวสะอาดตาบนไหล่เขา มีหมู่บ้านเอีย และฟิร่าที่นั่งบัสถึงกันได้ มีมุมมหาชนเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่ว่ากันว่าโรแมนติกที่สุดในโลกก็อยู่ที่นี่..!! บินมาลงเอเธนส์ แล้วต่อเครื่องไปลงซานโตรินี่ได้เลย สะดวกมาก
- แนะนำ : หากใครต้องการมาชมพระอาทิตย์ตก ให้รีบบึ่งมาหมู่บ้านเอีย แล้วจับจองที่นั่งแต่เนิ่นๆ เพราะคนแน่นมากกกก มากจนหาที่ยืนยังยาก
2. Mykonos - Greece
ไปซานโตรินี่แล้วต้องไปมิโคนอส อีกเกาะสวรรค์ของสายปาร์ตี้ และชาว LGBTQ+ กลางวันก็เดินเล่นเดินชิลชอปปิ้งตามร้านค้าสีสันสะอาดตา ยามเย็นก็ไปเดินเตร่ยังมุมมหาชนที่ตั้งอยู่ริมทะล มีกังหันลมโบราณ และอาคารสีขาวริมน้ำ สะท้อนแสงอาทิตย์ สถานที่สุดโรแมนติก ที่ควรมาสัมผัสสักครั้ง
- แนะนำ : มามิโคนอส แล้วควรค้างอย่างน้อยสัก 1-2 คืน เพื่อดื่มด่ำความสวยงาม แสงสี และทัศนียภาพของเกาะ
3. Brac Island - Croatia
เกาะ Blac มี Landmark หลักๆอยู่ 2 ที่คือบริเวณท่าเรือ Supetar ที่มีทั้งเอเจนซี่ทัวร์ ท่าเรือยอร์ช โบสถ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ส่วนอีกที่ต้องนั่งบัสไปราว 1 ชม คือ Bol และชายหาด Zlatni Rat ชายหาดแหลมยื่นคอดยาวออกไปกลางทะเล
- แนะนำ : นั่งเรือจาก Spilt ไปลงท่าเรือ Supetar ก่อน ถ้าจะไปเที่ยว Bol ค่อยซื้อตั๋วนั่งบัสไปอีกต่อหนึ่ง ทั้งหมดสามารถเดย์ทริปจาก Split ได้สบายๆ
4. Hvar Island - Croatia
อีกเกาะสวยของโครเอเชีย เดินทางง่ายจากท่าเรือเมือง Split โดยเกาะ Hvar มีท่าเรือหลัก 2 แห่งคือ Hvar และ Stari grad สอบถามคนขายให้มั่นใจว่า เรือที่จะไปลงที่ไหน แต่อย่างไรแล้ว 2 ท่าเรือเชื่อมถึงกันด้วยบัส และน่าเที่ยวทั้ง 2 จุด ที่ Hvar จุดที่พลาดไม่ได้เลยคือ การไฮกิ้งขึ้นป้อมปราการบนเขา ที่มองลงมาจะเห็นเมืองเก่า และทะเลอเดรียติก ยิ่งช่วงเย็น แสงทไวไลท์สาดสวยมาก
- แนะนำ : ควรค้าง 2 คืน ถ้าอยากอิ่มเอมกับทั้ง Hvar และ Stari grad เมืองสวยมาก นทท ไม่เยอะ ฟิน..!!
5. Ischia Island - Italy
เกาะสวยใกล้เนเปิ้ลของอิตาลี ที่นี่สามารถนั่งเรือได้จากเนเปิ้ลราว 1 ชม บนเกาะมี รร ที่พัก ให้เลือกเยอะ เกาะไม่ใหญ่มาก แต่ถ้ามีเวลาควรมานอนค้าง ชมวิวปราสาท Aragonese ยามเย็น
- แนะนำ : หากพอมีเวลา การมานอนค้างที่นี่สักคืน แล้วค่อยนั่งเรือกลับเนเปิ้ลก็แพลนได้สบายๆ
6. Maldives
อีก 1 เกาะสวรรค์ ที่คิดว่าหลายคนอยากไปเกลือกกลิ้งปิ้งตัว หรือถ่ายเซลฟี่ชิคๆ ที่มีฉากหลังเป็นห้องพักกลางน้ำ ซึ่งถือเป็น signature ของมัลดีฟส์ แต่ที่นี่ไม่เหมาะกับสายชอปปิ้ง ส่วน activity ทางน้ำมีครบ แต่แพงมาก..!!
- แนะนำ : ฟรีวีซ่า มีเงินก็บินได้เลย คชจ จะแปรผันตามระดับห้องพัก การเดินทาง (speedboat/ seaplane) และมื้ออาหาร
7. Gili Island - Indonesia
Gili Meno/ Gili Air/ Gili Trawangan 3 เกาะไม่ไกลจากบาหลี สวยสด สะอาด และเงียบสงบ ค่าครองชีพถูก ใครมาบาหลี แล้วมีเวลาพอราว 3 วัน 2 คืน สามารถนั่งเรือ fast boat จากบาหลีมาชิลที่นี่ได้ 3 เกาะมี signature ต่างกัน สายปาร์ตี้ ไปเลย Gili Trawangan / สายสงบ คู่รักฮันนีมูนไปที่ Gili Meno / ส่วนใครชอบความโลคอลของคนพื้นเมือง ทั้งอาหาร ประเพณี วัฒนธรรม จัดไปที่ Gili Air
- แนะนำ : เลือกนอนสักเกาะ แล้วใช้วิธี Island hopping ไปอีกเกาะ เก็บครบได้หมดใน 3 วัน
8. Isle of Pine - New Caledonia
เกาะเล็กๆ ที่มีต้นสนสีเขียวเข้มเติบโตตามธรรมชาติหนาแน่นริมชายฝั่ง ซึ่งเป็นภาพจุดขายของที่นี่ นางซ่อนตัวอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ของประเทศนิวคาลิโดเนีย ดินแดนในอาณานิคมอันไกลโพ้นของฝรั่งเศส และแน่นอนว่าต้องไปขอวีซ่าที่ VFS ฝรั่งเศส แต่วีซ่าที่ได้มาไม่ใช่เชงเก้นเด้อออ
- แนะนำ : วิธีการมาที่ง่ายที่สุดคือ เรือสำราญ ให้เลือกรูทที่ออกจากซิดนีย์ แล้วแวะไปตามเกาะแก่งต่างๆในแถบแปซิฟิกตอนใต้
9. Duck Island - New Caledonia
นั่งเรือเพียง 10 นาทีจาก Noumea เมืองหลวงของประเทศนิวคาลิโดเนีย ประเทศทาง South Pacific ก็จะได้สัมผัสกับเกาะเล็กๆ สีน้ำทะเลเข้มๆ ของ Duck Island
- แนะนำ : เดย์ทริปไปกลับจาก Noumea ได้เลย เกาะสวย คนน้อย มีร้านอาหาร และกิจกรรมทางน้ำครบ
10. Bled Island - Slovenia
เกาะเบรดเล็กนิดเดียว แต่สวยดั่งภาพวาดยามแสงทไวไลท์ เป็นความสวยที่สัมผัสได้จริง ด้วยการนั่งเรือจากริมทะเลสาบเบรด มีผู้ให้บริการหลายเจ้าก็เลือกตามชอบ บนเกาะมีโบสถ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ให้นั่งชิล แต่ไฮไลท์ คือบันได 100 ขั้นที่มุ่งขึ้นสู่โบสถ์ เค้าเลยว่ากันว่า หากเจ้าบ่าวสามารถอุ้มเจ้าสาวขึ้นไปถึงโบสถ์ด้านบนได้ ถือเป็นการพิสูจน์รักแท้ แอดเองก็ลากสังขารตัวเองขึ้นนะ เป็นการพิสูจน์รักแท้ (ที่มีให้กับตัวเอง)
- แนะนำ : ครึ่งวันก็เพียงพอสำหรับเกาะเบรด (รวมเวลานั่งเรือไปกลับแล้ว) แอดแนะนำว่า ใครมาทะเลสาบเบรดแล้ว ควรนั่งเรือไปเกาะเบรดด้วย สวยจริงไม่จกตา
11. Kelor Island - Indonesia
ความงามของทะเลฟลอเรส เอาดีๆไม่เป็นสองรองใครทั้งนั้น เพียงแต่มันยังไม่โด่งดังไปไกลเทียบเมดิเตอเรเนียน หรืออันดามัน แถมค่าใช้จ่ายถูก เที่ยวโดยการซื้อ Local tour 4 เกาะ 5 เกาะจากในตัวเมืองลาบวนบาโจที่มีสนามบินหลักในแถบหมู่เกาะโคโมโดได้เลย
- แนะนำ : มุมในภาพ ต้องปีนขึ้นมาในระดับสูง แดดเปรี้ยง หอบ + ดำแดดแน่นอน แต่สวยคุ้มค่ามาก
12. Samed - Thailand
เกาะสวยทางภาคตะวันออกของไทย นั่งเรือไม่นานจากระยอง ที่พักมากมาย หลากหลายระดับ ค่าครองชีพแพงมาก ถึงขั้นล้มละลาย แม้ชายหาดไม่ขนาดว้าวว แต่สวยคุ้ม กลางคืนผับบาร์เยอะ มีกิจกรรมให้ทำทั้งวันทั้งคืน
- แนะนำ : หากไม่รีบ ให้ค้างสัก 3 คืนชิลๆ แล้วเช่ามอไซค์แว้นให้ทั่วเกาะ เก็บให้ครบทุกหาด
13. Cham Island - Vietnam
เกาะเล็กๆ ที่เดย์ทริปได้จากฮอยอัน หากมาเที่ยวฮอยอัน แล้วเริ่มเบื่อบรรยากาศแบบเมืองเก่า ให้ลองซื้อ local tour ในฮอยอันไป Cham Island แบบเดย์ทริป ราคาไม่แพง มีทั้งอาหาร และสน็อคเกิลให้
- แนะนำ : อย่าคาดหวังโลกใต้น้ำของที่นี่ แต่ถ้าอยากลองเปลี่ยนสถานที่เที่ยวแนวทะเล ก็ถือว่าไม่เสียดายเวลาที่จะมาเที่ยว
14. Jeju Island - South Korea
เกาะสวยของเกาหลีใต้ มีทะเลรอบด้าน มีจุดชมวิวบนเขาที่ต้องออกแรงเดินหน่อย แต่สวยคุ้ม และเกาหลีคือเกาหลี จึงเที่ยวไม่ยาก ปลอดภัย และมีทุกอย่างที่พร้อมจะซัพพอร์ต นทท
- แนะนำ : เชจู เป็นอีก 1 tourist spot ของเกาหลีใต้ จึงเตรียมทำใจหากจะเจอมวลมหาอาจุมมะทัวร์ที่มาเที่ยวอย่างคึกคัก
15. Dongju Island - Taiwan
ทะเลเรืองแสงแบบในหนัง Life of Pi มีอยู่จริงบนเกาะที่ห่างไกล และเดินทางยากของไต้หวัน นั่นคือ Dongju เกาะที่เต็มไปด้วยค่ายทหาร และการซ้อมรบของไต้หวัน เดินทางยาก จองที่พักยาก สื่อสารยาก หาอาหารกินยังยาก ทั้งหมดต้องใช้ภาษาจีน 100% และหากต้องการมาให้เจอ Blue tears ต้องมาให้ถูกจังหวะ และดวงต้องได้
- แนะนำ : สามารถนั่งเรือทหารมาจากท่าเรือในเมืองจีหลง หรือนั่งเครื่องมาจากไทเปได้ แต่สภาพอากาศต้องลุ้นกันทุกวัน
16. Yao Yai Island - Thailand
ถือเป็นเกาะสวยอีกแห่งของพังงา ที่นั่งเรือมาจากท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มาริน่าของภูเก็ต 30 นาที ความสวยงามแบบในภาพ ต้องมาให้ถูกจังหวะน้ำลง จะเห็นสันทรายยื่นฉวัดเฉวียนกลางทะเล ถือว่าเป็น signature ของที่นี่ ก่อนมาให้เช็คระดับน้ำขึ้น-ลงให้แน่ใจ แล้วเช่ามอไซค์แว้นมาจาก รร ที่พัก ปักหมุด "แหลมหาด"
- แนะนำ : อาบกันแดดมาให้ฉ่ำๆ ก่อนจะมา เพราะแหลมหาดไร้ร่มเงา ไร้ต้นไม้ใดๆ ร้อนแผดเผาเกรียมแบบไร้ความปรานี
17. Nusa Penida - Indonesia
ใครมาบาหลี แล้วต้องมา Nusa Panida โดยเฉพาะ Kelinking Beach ห้ามพลาดบอกเลย..!! มุมมหาชนตามในภาพนี่สวยตะลึงอึ้งแดก เดินทางไม่ยากด้วย หากมีเวลาสามารถ Hiking ลงไปยังชายหาดด้านล่างได้ ทางเดินไม่ง่าย take own your risk แต่สวยคุ้ม
- แนะนำ : หากจะลงไปถึงชายหาด ควรเผื่อเวลาไว้ราว 2 ชม และควรเหมารถพร้อมคนขับพาทัวร์รอบ Nusa Penida มีสถานที่เที่ยวสวยๆเยอะมาก
18. Capri - Italy
ความสวยงามของเมดิเตอเรเนียนการันตีความงามของเกาะคาปรี แถมเดินทางง่ายจาก Sorrento จุดเที่ยวหลักมี 2 จุด คือในตัวเมือง บริเวณท่าเรือคาปรี และอนาคาปรีบนเขา ต้องนั่ง Chairlift ขึ้นไป วิวด้านบนสวยปัง เห็นปุ๊บ...!! เนี่ยะ คือเมดิเตอเรเนียนที่แท้ทรู
- แนะนำ : สามารถเดย์ทริปจาก Sorrento ได้เลย เที่ยวง่าย วิวสวย แต่ถ้าชอบความชิล ค้างสักคืนก็ดี
19. Whitsunday Island - Queensland, Australia
เรียกว่าเป็นเกาะที่สวยแปลกไม่เหมือนใคร เพราะจุดขายของ Whitsunday คือเนินทรายที่ตวัดฉวัดเฉวียนเมื่อมองจากบนฟ้า ส่วนเม็ดทรายละเอียดและแกร่งขนาดนาซ่านำไปทำกระจกของยานอวกาศ อวยกันขนาดนี้ ไปเถอะ ไปสักครั้ง สวยอัศจรรย์จริง คุ้มค่าแน่นอน..!!
- แนะนำ : ตีตั๋วขึ้นเครื่องบินเล็ก เพื่อสำรวจ Whitsunday island ในมุมสูง และควบ Great Barrier Reef โคตรมวลมหาปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราว 30 นาที แต่จะเป็น 30 นาทีที่ตรึงอยู่ในโสตประสาทตราบนานเท่านาน
20. Beachcomber - Fiji
เกาะเล็ก เดินรอบได้สบาย กิจกรรมทางน้ำก็มี จะนอนชิลบนหาดทรายก็ได้ เงียบสงบ ไม่หวือหวา ไม่หรูหราหมาเห่า เอนกาย แล้วปล่อยใจสนุกๆ ไปกับเกาะที่ถือเป็นสถานที่ห่างไกลจากโลกภายนอกที่แท้
- แนะนำ : นั่งเรือเพียง 45 นาทีจากท่าเรือในเมือง Lautoka เมืองใหญ่ทางตะวันตกของฟิจิ จึงเดย์ทริปได้สบายๆ
21. Padar Island - Indonesia
1 ในเกาะที่สวย และโด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งในทะเลฟลอเรส ใครมาแถบทะเลฟลอเรส แล้วต้องมาที่นี่ จุดชมวิวอยู่สูง ไต่เขากันสนุกในสภาพไร้ร่มเงา เกียมกลับมาดำได้เลย แต่บนจุดชมวิวคือ คุ้มค่ามาก สวยตะลึง แบบโอ้ววโหวว..อินโดเหรอเนี่ยะ!! สวยตาแตก
- แนะนำ : ครีมกันแดดโบกและอาบมาให้พร้อม ฟ้าใส แดดจัด และดำแน่นอน 55555
22. Lifou - New Caledonia
อีก 1 เกาะสวย และเงียบสงบ แทบจะร้าง นทท บนเกาะลิฟู ที่มีเพียงชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ ถือเป็นเกาะเดินทางยาก หากไม่มาด้วยเรือสำราญ ทุกอย่างบนเกาะดูธรรมชาติ สดใส ดิบแต่ปลอดภัย
- แนะนำ : ที่นี่คือสวรรค์ของคนที่ชอบความสงบ ไม่ลัคชัวรี่ ไม่เทคโนโลยี เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปราว 50 ปีก่อนโลกยังไม่มีโซเชียล
23. Kood Island - Trad, Thailand
เกาะกูดมันกู๊ดมาก ใช่ว่าทะเลฝั่งตะวันออกจะสู้อันดามันไม่ได้ไปซะหมด คำกล่าวนั้นไม่จริงเสมอไป เกาะกูดมีการบริหารจัดการดี เดินทางสะดวก ถนนในเกาะก็ดี เช่ามอไซค์ขับคือไปได้ทุกจุด ทะเลสวย น้ำใส บีชบาร์เก๋ๆ ก็มี เสียแต่ไม่มีเซเว่น และร้านอาหารเป็นของคนท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ แต่เชื่อเถอะ มัน Gooood จริงเกาะนี้
- แนะนำ : มานอนสัก 3 วัน 2 คืน แล้วจะแปลกใจว่า ทะเลฝั่งตะวันออกมันก็สวยไม่แพ้ใคร
24. Rinca Island - Indonesia
เกาะลินก้าคือ 1 ในเกาะเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางหมู่เกาะโคโมโดทั้ง 4 ที่พบมังกรโคโมโดตัวเป็นๆ ในแถบทะเลฟลอเรส ของประเทศอินโดนีเซีย แต่ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติ การเข้าชม ต้องขออนุญาต และมีเจ้าหน้าที่นำทางเพื่อชมเท่านั้น เพราะเค้าปล่อยน้อนมังกรให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ เคยมีข่าว นทท แอบเข้ามา แล้วโดนมังกรโคโมโดกัดตายมาแล้ว
- แนะนำ : กรุณาทำตามไกด์บนเกาะอย่างเคร่งครัด น้องนิ่ง แต่พร้อมจู่โจม งับคอคือตุยเท่านั้น น้ำลายน้องมีทั้งสารพิษ และเชื้อโรคเยอะมาก
25. Isle of Skye - Scotland
เกาะใหญ่ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ ที่สาย Landscape และสาย Hiking ต้องตาแตก สวยทุกที่ สวยพร่ำเพรื่อ สวยไปหมด แล้วสถานที่แต่ละแห่งก็ห่างๆกัน ในภาพคือ Quirang Moutain Range 1 ในอีกหลายๆ landscape อลังการของที่นี่ หากมีโอกาสแอดจะกลับไปอีกแน่นอน
- แนะนำ : เช่ารถขับเท่านั้น เกาะใหญ่มากแบบเที่ยว 5 วันยังไม่จบ หรืออาจซื้อ Local tour เอาก็ได้ แต่ไม่สะใจบอกเลย
26. Tasmania - Australia
เกาะรูปหัวใจ ห่างออกไปทางใต้ของออสเตรเลีย มีอุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain และตัว Devil สุดน่ารักคอยต้อนรับ ที่นี่ landscape สวย ถนนดี ธรรมชาติมีเยอะ กิจกรรมก็เยอะ ไฮกิ้ง เดินป่า พายเรือ ตกปลา ชอปปิ้งมีหมด
- แนะนำ : บินลง Hobart เมืองหลวง แล้วเช่ารถขับตระเวนรอบเกาะ ถ้าอยากให้ทั่วต้องมี 7 วันเป็นอย่างน้อย เพราะเกาะใหญ่มาก
27. Venice - Italy
เวนิส เมืองแห่งคลอง สายน้ำ และเรือกอนโดล่า มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมเทศกาลคาร์นิวอลในชุดหน้ากาก เดินทางง่ายด้วยรถไฟจากเมืองหลักของอิตาลี เช่น เวโรนา หรือแม้แต่มิลาน เวนิสจึงก็คราคร่ำไปด้วย นทท อาหารอร่อย เมืองเก่าสวย โบสถ์ก็สวย เวนิสคือเวนิส นางมีมนต์สเน่ห์ในแบบของนาง ในแบบที่ไม่มียุโรปไหนจะมาแทนได้
- แนะนำ : หลง หลง และหลงแน่นอนคับ ผังเมืองวกวน ป้ายสับสน ตรอกเยอะ ซอยแยะ แล้วยังเดินเพลิน รู้ตัวอีกทีคือ "หลงละ" 5555 ให้ทำใจไว้เลยคับ อย่าได้กังวล เพราะหลงแน่
28. Murano & Burano - Italy
มาเวนิส หากมีเวลาให้ควบ 2 เกาะนี้ในวันเดียวได้เลย มีท่าเรือเมล์ และตารางเรือไปยัง Murano และ Burano ค่อนข้างถี่ Murano คือเกาะแก้วพิสดาร เอ้ยย..เกาะที่โด่งดังเรื่องการเป่าแก้ว เครื่องแก้วที่นี่วิจิตรงดงาม และมีชื่อเสียง ส่วน Burano เกาะที่มีอาคารสีลูกกวาดสดใส
- แนะนำ : สามารถเดย์ทริปทั้ง 2 เกาะจากเวนิสได้เลย โดยเลือกไปเกาะไหนก่อนก็ได้แล้วแต่สะดวก
ใครเคยไปเกาะไหนมาแล้ว แชร์ภาพกันได้เลยนะคับ เพราะผมก็อยากเห็นในมุมที่ผมไม่เคยเห็นเหมือนกัน และใครมีเกาะไหนสวยๆ ไปแล้วประทับใจก็แชร์กันมาเพิ่มได้เลย แอดก็จะได้เก็บไว้เป็น wishlist ด้วย
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่