ชี้เป้า 32 ปราสาทน่าเที่ยวในยุโรป พร้อมคำแนะนำ

          32 ปราสาทน่าเที่ยวในยุโรป

          วันนี้ผมมาชวนทุกคนเที่ยวปราสาทในยุโรปคับ บางแห่งเป็นมิวเซียม บางแห่งเป็นแค่ซากปรักหักพัง แต่บางแห่งก็ปรับเปลี่ยนเป็น รร ให้ นทท เข้าพักได้ และทุกที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายร้อยปี บางอันก็อันซีน ไม่มีคนเลย บางอันก็ tourist spot คนยังกะหนอน

          ส่วน Landscape แต่ละแห่งก็จึ้งมาก ผมรวบรวมมาให้หลายแนว ไม่ว่าจะบนเขา ที่ราบ ใจกลางเมือง ติดแม่น้ำ ริมทะเลสาบ กลางป่า หรือโอบล้อมด้วยไร่องุ่น และทั้งหมดนี้ คือปราสาทที่ผมไปมาแล้ว เลยคิดว่าพอจะแชร์รายละเอียด การเดินทาง ความคุ้มค่า ความสวยของแต่ละแห่งไว้เผื่อใครมีแพลนจะไปแถวนั้น อาจจดไว้เป็นอีก 1 checklist ของตัวเองได้ ไม่พูดมาก มาชมกันเลยคับ..!!

          ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ต้นแบบปราสาทดิสนีย์แห่งนี้ อยู่ในเมือง Fussen ประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทฮอตสุดที่ไม่ว่าทัวร์ไหน ก็จะพาคุณมาที่นี่ จุดถ่ายภาพที่เป็นมุมมหาชนคือตรงสะพาน Mary
          แนะนำ : หากอยากได้วิวไม่เหมือนใคร ให้เดินข้ามสะพาน Mary ขึ้นไปบนเขาอีกนิด ไม่ไกล จะได้ภาพปราสาทในมุมสูง

           มา Neuschwanstein แล้วต้องมา Hohenschwangau ครับ ใกล้กันขนาดเดินกันถึง แต่คนไปออกันที่ Neuschwanstein มากกว่า แม้จะมีสีเหลืองอ๋อยโดดเด่น แต่อายุนานกว่า Neuschwanstein ซะอีก หากมาเที่ยวเอง อยากให้ลองแวะเที่ยวด้วยกันไปเลย วันเดียว 2 ปราสาท คุ้มครับ 
          แนะนำ : สามารถเดินทางมา 2 ปราสาทได้ทั้งจากเมือง Fussen หรือ Munich

          ปราสาทแห่งนี้ผมไปช่วงคริสต์มาส หิมะตกกระหน่ำวินเทอร์ฮาร์ดคอร์สุด จึงไม่สามารถเก็บภาพมาได้ เลยไปขอหยิบยืมรูปจากพี่ปอป Pakorn Kengpol อีก 1 กูรูด้านการท่องเที่ยวยุโรปมาให้ชมแทน Hohenzollern เดินทางได้ง่ายด้วยรถไฟจากสถานี Hechingen แล้วต่อบัสไปปราสาทอีกที สวยคุ้มค่าคับ 
          แนะนำ : เช็ครอบบัสดีๆ ถ้ามาช่วงหน้าหนาวมีเพียงวันละรอบเท่านั้น

          นี่คือปราสาทกลางป่าในเทพนิยายที่แท้ทรู และเหมาะสำหรับคนที่หัดเดินป่าระดับ beginner ด้วยระยะทางเพียง 5 กม จากสถานีรถไฟ Moselkern ทางเดินสบาย ไม่โหด มีป้ายสัญลักษณ์บอกทางชัดเจน ผ่านน้ำตก ลำธาร ป่าทึบ และโปร่งสลับกันไป แต่หากใครมีรถยนต์ สามารถขับมาจอดที่ลานจอดรถ แล้วเดินนิดหน่อยก็ถึงปราสาทละ
          แนะนำ : จากทางเข้าปราสาท เดินขึ้นเนินเขามาอีกราว 100 เมตร จะได้ภาพปราสาทโคตรสวยในมุมตามภาพเลยคับ

          ปราสาทเดินทางง่าย ตั้งอยู่ในเมือง Hillerod โดยเดินทางจากโคเปนฮาเก้นราว 1 ชม เท่านั้น แถมไม่ได้อยู่บนเขา ทำให้ สว เที่ยวง่าย นทท เยอะ ทัวร์จีนเพียบ 55555 ภายในก็สวยอลังการสมกับปราสาทในยุโรป แต่ส่วนตัวคิดว่า ภายนอกสวยกว่า 
          แนะนำ : เดย์ทริปจากโคเปนฮาเก้นสบายมาก แบบชิลเลย ไม่ต้องเร่งรีบใดๆ

          ใครมาเอดินเบอระต้องมาที่นี่ ปราสาทเอดินเบอระ มีดีมากกว่าความสวยงาม และอลังการภายนอก เพราะภายในมีสมบัติ มงกุฎ  คทา อลังการอื้ออึงไปหมด เป็นอีก 1 ปราสาทที่มาแล้วคุ้มค่า
          แนะนำ : ครึ่งวันสำหรับที่นี่ แล้วค่อยลงไปสำรวจเมืองเก่า เอดินเบอระไม่ควรเดย์ทริป แต่ควรมานอนค้าง เพราะมีสิ่งน่าสนใจเยอะ

          ตั้งอยู่ในเมือง Marburg ชื่อเดียวกับปราสาท หากไม่มีรถ เดินไฮกิ้งขึ้นคือเบิร์นไขมันได้เยอะทีเดียว แต่สวยคุ้ม เหนือความงามของปราสาท คือความน่ารักของเมือง Marburg ในเขตเมืองเก่าสวยไปหมด ถ่ายรูปเพลิน เดินทางสะดวกจากทุกเมืองในเยอรมนี เพราะมีสถานีรถไฟ
          แนะนำ : เมืองและปราสาทแห่งนี้ ไม่ควรเดย์ทริป แต่ควรมานอนเลยสักคืน เมืองสวยมากจริงๆ ผมการันตี

          มีลักษณะคล้ายป้อมปราการมากกว่าปราสาท ไม่ไกลจากสถานีรถไฟกลางเมืองในระยะที่เดินได้ เดินไหว สามารถเดย์ทริปจากลอนดอนได้สบายๆ หากมาตรงวันหยุด จะมีลานกิจกรรมของชาวเมือง และเด็กๆ อยู่โดยรอบ สร้างสีสันให้กับ นทท อย่างเราได้มาก
          แนะนำ : จบจากปราสาทให้ลองไปเดินเที่ยวในเขตเมืองเก่า บรรยากาศชิลๆ ผ่อนคลายมาก

          ปราสาทไฮเดลแบร์ก ตั้งตระหง่านบนยอดเขาในเมืองชื่อเดียวกัน ที่นี่จะไม่ได้อะไรเลย ถ้าไม่ซื้อตั๋วเข้าชมภายใน แถมไกลจากสถานีรถไฟ การเดินทางจากสถานีรถไฟไปปราสาทต้องใช้เวลาพอสมควรคือ จากสถานีรถไฟต้องนั่งรถราง หรือบัสไปลงเขตเมืองเก่า ก่อน แล้วเดินไปขึ้นรถรางไปบนปราสาทอีกที
          แนะนำ : จากปราสาท ให้เดินลงไปยังสะพานข้ามแม่น้ำ Neckar แล้วถ่ายย้อนมายังปราสาท จะได้มุมมหาชน และด้วยความที่วันที่ผมไปมันเย็นมาก ลงมาถึงสะพานจะถ่ายภาพปราสาทก็มืดพอดี วันนี้เลยยืมภาพจากพี่ปอปสุดหล่อคนเดิม มาแปะให้เพื่อนๆชมกันแทนคับ

          ตั้งอยู่บนเขาของ Castelnaud Village หมู่บ้านชนบท และเงียบสงบของฝรั่งเศส ทำให้ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยทั้งหมู่บ้าน และปราสาทสามารถเที่ยวครบจบได้ภายในครึ่งวัน จึงสามารถวางแพลน road trip ไปยังหมู่บ้านสวยอื่นๆอีกได้
          แนะนำ : ปราสาทอยู่สูงจากหมู่บ้านพอสมควร กำลังขาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะขึ้นไปชมความสวยงาม 

          2 ปราสาทริมแม่น้ำไรน์ ที่เข้าถึงได้แบบไม่ลำบากนัก ด้วยการนั่งรถไฟไปลงสถานี Trechtingshausen แล้วเดินต่อราว 600 เมตรก็จะถึงปราสาท Reichenstein แล้วเดินต่อไปอีกราว 1.5 กม แบบชิลๆ ก็จะถึงปราสาท Rheinstein
          แนะนำ : ทั้ง 2 ปราสาท สามารถเก็บได้ภายในครึ่งวัน แล้ววางแผนไปเที่ยวปราสาท หรือหมู่บ้านอื่นๆริมแม่น้ำไรน์ต่อได้เลย

          หากคุณเป็นคนที่ชอบปราสาทเล็กๆ ไม่ touristy ปลอดภัย และฟรีค่าเข้า ปราสาทเซเลีย ปราสาทเก่าแก่บนเขาในเมืองเซเลีย ประเทศสโลเวเนียคือคำตอบ !!! อย่าว่าแต่ตัวปราสาท แค่ชื่อเมืองยังไม่คุ้น ดังนั้น หากใครวางแผนไปเที่ยว Slovenia แล้วอยากหาเมืองเล็ก ปลอดภัย คนน้อย ลองแวะค้างที่นี่สักคืน
          แนะนำ : เซเลียไม่ใช่เมืองชนบท แต่มีความเป็นเมือง เพียงแต่นางเป็นเมืองเล็ก จึงไม่ได้เงียบขนาดร้างคน ใครชอบเที่ยวแนวเมือง แต่สงบ ปักหมุดมาเที่ยวได้เลยครับ

          ซิยงคือเมืองนอกสายตา นทท ของสวิส แต่ไม่ไกลจากมองเทรอ (45 นาทีโดยรถไฟ) มีปราสาท Valere และ Tourbillon อยู่บนยอดเขาคนละฝั่ง ดังนั้น ถ้าต้องการเข้าชมทั้ง 2 แห่ง ต้องขยันเดินขึ้นลงรวม 4 รอบ แต่เส้นทางไม่ได้ลำบาก แค่ชันแต่เดินง่าย แถมเข้าฟรีด้วย แอบกระซิบว่า ด้านบนมีจุดชมวิวเมือง Sion เบื้องล่างที่สวยมาก ไม่มีร้านค้า ร้านกาแฟ จึงควรติดน้ำดื่ม และพวกสแนคกันหิวขึ้นไปด้วย
          แนะนำ : ที่นี่สามารถเดย์ทริปไปกลับจาก Montreux หรือหัวเมืองหลักของสวิสได้เลย เพราะตัวเมืองเก่าเองก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจนัก

          ปราสาทซาร์แก้นอยู่ใจกลางเมืองซาร์แก้น ชนิดเดินถึง ไม่ไกล ไม่เหนื่อยมาก ด้านบนมีคาเฟ่ และจุดชมวิวเมืองสวยๆ แต่ไฮไลท์จริงๆคือมุมมหาชนของเมืองที่มีภูเขาหินขนาดใหญ่เป็นฉากหลัง และเป็นอีกปราสาทของสวิสที่เข้าฟรี 
          แนะนำ : ใครมาเมืองนี้ ควรเก็บคู่กับปราสาทวาดูซ ประเทศลิกเทนสไตน์ เพราะห่างด้วยบัสเพียง 30 นาที

          จากเมือง Sargans ให้นั่งบัสมาวาดูซ ลงป้าย Vaduz Post แล้วเดินขึ้นไปปราสาทอีกราว 45 นาที ปราสาทวาดูซเป็นปราสาทที่ยังมีชีวิต เพราะปราสาทแห่งนี้ ยังเป็นที่อยู่ของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน เราจึงทำได้เพียงชม และถ่ายภาพจากภายนอก แต่ก็คุ้มค่า
          แนะนำ : จบจากปราสาทก็เดินลงมายังเมืองเก่าวาดูซได้เลย เมืองเล็ก คนน้อย นทท ก็น้อย มีถนนคนเดินเส้นเดียว มีทั้งร้านค้า คาเฟ่ โบสถ์ มิวเซียมครบ

          บนเส้นทางบัสจากเมือง Sargans ไปยัง Vaduz จะผ่านปราสาท Gutenberg อีก 1 ปราสาทชายแดนสวิส-ลิกเทนสไตน์ หากมีเวลาเหลือ สามารถแวะลงป้าย Balzers, Rietstrasse เพื่อเที่ยวปราสาทกูเทนเบิร์ก แล้วค่อยจับบัสรอบถัดไปกลับ รอบบัสถี่มีทุก ชม สบายใจได้
          แนะนำ : 1 วันเที่ยว 3 ปราสาทคือ นั่งบัสจาก Sargans ไปเที่ยว Vaduz Castle ก่อน บ่ายๆ นั่งบัสกลับ แต่แวะลงเที่ยว Gutenberg Castle แล้วเย็นๆ ค่อยกลับ Sargans ไปเก็บ Sargans Castle ปิดท้าย

          Bellinzona คือเมืองใหญ่ของรัฐ Ticino ของสวิส นอกจากเหมาะจะใช้เป็นฐานในการเที่ยวสวิสฝั่งอิตาลีแล้ว ในเมือง Bellinzona เอง ยังมีปราสาทให้เที่ยว โดยปราสาท Castelgrande สามารถเดินขึ้นไปจากในตัวเมืองเก่า และหากมีเวลาเหลือ สามารถไปปราสาท Castelo di Montebello โดยนั่งบัสจากสถานีรถไฟขึ้นไปไม่เกิน 10 นาที ทั้ง 2 ปราสาทฟรีค่าเข้าทั้งคู่ นทท น้อย จะเห็นก็แต่คนสวิสเที่ยวกันเอง จึงปลอดภัย ไม่มีมิจฉาชีพ
          แนะนำ : ใช้เวลา 1 วันเต็มในการเก็บทั้ง 2 ปราสาท บวกเมืองเก่า จัตุรัสกลางเมือง โบสถ์ และคาเฟ่ชิคๆ กลิ่นอายอิตาลีถือว่าครบละคับ 

          ปราสาทเล็กมาก ในหมู่บ้านเล็กมาก ถนนทางเข้าก็เล็กมาก เข้าถึงได้ด้วยการขับรถเท่านั้น ที่นี่ Village de Belcastel เป็นหมู่บ้านในป่าที่ห่างไกลจากทุกสิ่ง มีโบสถ์เล็กๆ สะพานเก่าแก่ ลำธารเล็กๆไหลผ่าน กับร้านขายของที่ระลึกเพียงร้านเดียว น่ารักมุ้งมิ้ง เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย สงบและเป็นธรรมชาติมาก
          แนะนำ : 30 นาที - 1 ชม ก็เหลือเฟือสำหรับที่นี่ เหมาะสำหรับแวะพักรถ แวะชิล แล้ว road trip ต่อไปยังหมู่บ้านอื่นๆ 

          ปราสาทเบรดมีดีกว่าความเป็นปราสาท ลองจมตัวเองอยู่ที่นี่สัก 2 คืนเป็นอย่างต่ำ เพราะ lake Bled มีอะไรให้ทำเยอะมาก การไฮกิ้งขึ้นปราสาทเบรดเป็นเพียง 1 ในหลายกิจกรรมของที่นี่ ด้านบนปราสาทมีมุมถ่ายรูปเพียบ วิวทะเลสาบเบรดจากระเบียงปราสาทเบรดคืออีก 1 มุมมหาชนที่ นทท ชอบมาเก็บภาพ
          แนะนำ : จบจากการไฮกิ้งขึ้นปราสาท ให้ลองเดินวนรอบทะเลสาบ สวยชนิดที่ Hallstatt มีสะอึก แล้วล่องเรือไปเกาะกลางทะเลสาบ ซึ่งเป็น signature ของที่นี่ แถมยังไฮกิ้งขึ้นไปชมเกาะกลางทะเลสาบจากบนเขาได้ด้วย 

          Kassel คือ 1 ในเมืองเส้นทางแห่งเทพนิยายกริมม์ แม้ Kassel จะเป็นเมืองนอกสายตาของ นทท แต่หากคุณต้องการหลบหนีความวุ่นวายของผู้คน พร้อมๆกับเสพความเป็นเมืองเทพนิยายด้วย เมืองนี้ก็ตอบโจทย์
Lowenburg เป็นปราสาทที่ห่างจากตัวเมือง Kassel พอสมควร แต่ใครที่เป็นสายเดินอึด เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึง
          แนะนำ : มาปราสาทแล้วควรแวะสวน Bergpark Wilhelmshöhe ด้วย สวยและคุ้มค่าเวลาในการแวะเที่ยวแน่นอน 

          ปราสาทร้างริมทะเลสาบ แลดูสงบ และลึกลับ คือปราสาทที่ใครก็ตามที่มาเที่ยว Scotland ไม่ควรพลาด เพียงแต่การเดินทางมามีข้อจำกัดคือ หากไม่ขับรถมาเอง ก็ต้องซื้อ Local Tour จากเอดินเบอระ หรืออินเวอร์เนสแบบทัวร์หลายวันด้วย เพื่อเก็บสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งที่ไกลกัน
          แนะนำ : หากมากับทัวร์ เลือกได้ทั้งแบบจอดแวะถ่ายภาพด้านนอก หรือแบบเดินเข้าชมภายใน ให้อ่านรายละเอียดทัวร์นั้นๆให้ดี 

          อีก 1 ปราสาทดิสนีย์ ต้นแบบปราสาทแม่มดในสโนไวท์ก็น่าจะเรียกสาวกแฟนคลับให้ลองมาเที่ยวที่นี่สักครั้ง ตัวปราสาทว่าสวยแล้ว แต่ระเบียง และหอคอยปราสาทที่มองออกไปยังแม่น้ำ หมู่บ้านรอบข้างสวยกว่า ที่นี่ต้องเสียเงินในการเข้าชมภายใน แต่คุ้ม ถือเป็นสถานที่ The must หากมาถึงเซโกเบีย
          แนะนำ : เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 วัน เพื่อเก็บแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของเซโกเบีย ที่กระจัดกระจายกัน แต่เดินถึงกันได้หมด 

          การ์กาซอนคือปราสาทที่กว้าง และใหญ่มาก ถูกล้อมด้วยกำแพงรอบด้านถึง 2 ชั้น ด้านนอกคือหมู่บ้านฟิลชนบทในเทพนิยาย แค่เดินรอบกำแพง และแหงนดูหอคอย ป้อมปราการของปราสาทก็เหนื่อยแล้ว ดังนั้น มาที่นี่ ถ้ามีเวลาควรจะตีตั๋วเข้าชมภายในปราสาทด้วย
          แนะนำ : ควรค้างสักคืน เพื่อรอชมปราสาทในยามค่ำคืน เพราะเป็นปราสาทที่เปิดไฟสวยมากกก 

          โรเซนบวร์กเป็นปราสาทที่เข้าถึงง่าย อยู่ใจกลางกรุงโคเปนฮาเก้น นทท เพียบ จะตีตั๋วเข้าชมภายใน หรือชมแค่ภายนอกก็ได้ หากใครมาในช่วงซัมเมอร์ จะได้พบกับสวนกุหลาบ หน้าปราสาท ถ่ายรูปสวย เซลฟี่ปัง ก่อนที่จะมูฟต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นในโคเปนฮาเก้น ใครมาโคเปนฮาเก้น ควรปักหมุดปราสาทแห่งนี้ไว้เลย ไม่ควรพลาด..!!
          แนะนำ : ด้วยเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโคเปนฮาเก้น ดังนั้น โปรดระวังมิจฉาชีพ 

          ปราสาทบนเขาที่รายล้อมไปด้วยไร่องุ่น โดยมีหมู่บ้านน้อยใหญ่ มีแม่น้ำ Mosel ไหลผ่าน โลเคชั่นแบบนี้ บรรยายไม่เกินจริงแต่อย่างใด เป็นอีกเมืองที่ผมไปแล้ว รู้สึกอยากกลับไปอีก มีทั้งฟิลธรรมชาติ ร้านอาหาร คาเฟ่ ไวน์ชั้นเลิศ ไม่เงียบเหงาจนวังเวง แต่ก็ไม่อัดแน่นไปด้วย นทท มากเกินไป
          แนะนำ : วิวเมืองจากระเบียงบนปราสาท จะเห็นทั้งไร่องุ่น หมู่บ้านน้อยใหญ่ โบสถ์ประจำเมือง และแม่น้ำ Mosel ไม่สวย ก็ไม่รู้จะพูดยังไงละ

          มิรามาเร่ ปราสาทริมทะเลไม่ไกลจากเมืองทรีเอสต์ นี่คืออีกเมืองนอกสายตาของอิตาลี จากตัวเมืองทรีเอสต์ ต้องนั่งบัสราว 40 นาที เดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึง ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้อยู่บนเขาเหมือนปราสาทอื่นๆ แต่ตั้งอยู่ริมทะเล ดังนั้นการมาเที่ยวในช่วงเย็น รอแสงทไวไลท์สาดคือที่สุดของบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก
          แนะนำ : มาที่นี่คือต้องจงใจมา เพราะรอบนอก หรือบริเวณใกล้เคียง ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใดๆเพิ่มเติมเลย 

          ปราสาทริมทะเล Oresund ห่างจากเมือง Helsingborg ของประเทศสวีเดน เพียง 4 กม โดยทะเลกั้น เรียกว่าเป็นช่องแคบที่สมัยก่อน ใช้ปราสาทแห่งนี้เก็บค่าผ่านทาง รวมทั้งใช้เป็นป้อมปราการป้องกันการโจมตีของข้าศึกก่อนจะบุกไปถึงโคเปนฮาเก้นด้วย
          แนะนำ : ในเมื่อใกล้กับเมือง Helsingborg ของสวีเดน เราจึงควรจัดทริปจากปราสาท Kronborg นั่งเรือข้ามช่องแคบไปยัง Helsingborg เพื่อเที่ยวซากปราสาทโบราณ Karnan ด้วยเลย แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยว Malmo ต่อ ค่อยกลับเข้าโคเปนฮาเก้น เรียกว่าวันเดียวเที่ยว 3 เมืองยังไหว 

          ใครจะคิดว่าเนเธอร์แลนด์จะมีปราสาทแสนสวยกับเค้าด้วย ปราสาทเดอฮาร์ จึงกลายเป็นปราสาทเพียงไม่กี่แห่งของเนเธอร์แลนด์ ที่สวยจนตะลึง แลกกับการเดินทางไม่ง่ายหากจะมาเอง เพราะนั่งบัสกันหลายต่อ นทท ส่วนใหญ่จึงมักขับรถมาเที่ยวเอง หากต้องการเข้าชมภายในก็ตีตั๋วเข้าชมได้ แต่สำหรับผม การเดินชิลรอบนอกปราสาทก็คุ้มค่าแก่การดั้นด้นมาแล้ว
          แนะนำ : หากต้องการมาเที่ยวเอง ให้ศึกษารอบรถบัสให้ดี แต่ถ้าขับรถมาเองได้ ถือว่ามาง่ายมาก 

          ปราสาทกลางป่าที่ถูกสร้างจากพระเจ้าลุควิกที่ 2 (คนเดียวกับที่สร้างปราสาท Neuschwanstein) แต่สถาปัตยกรรมไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย รอบนอกมีน้ำพุ สวนดอกไม้ รูปปั้น สวยงามตามฉบับปราสาทยุโรป การเดินทางมาปราสาทหลายต่อหน่อย แต่ไม่ซับซ้อน สามารถเดย์ทริปได้จากเมือง Garmisch-Partenkirchen
          แนะนำ : หากเที่ยวเอง สามารถควบเมือง Oberammergau และสำนักสงฆ์ Kloster Ettal ได้ใน 1 วันแบบสบายๆ เพราะเป็นทางผ่าน 

          ปราสาทสวยบนเกาะ Ischia แห่งนี้ต้องนั่งเรือมาจากท่าเรือเมืองเนเปิ้ลราว 1 ชม สามารถเดย์ทริปไปกลับจากเนเปิ้ลได้ จากท่าเรือ เดินชิลๆ ไปปราสาทสักพักก็ถึง
          แนะนำ : เช็ครอบเรือให้ดี รวมถึงท่าเรือที่ขึ้นลงด้วย เพราะท่าเรือที่ Ischia ไปกลับคนละท่ากัน ผมตกเรือมาแล้ว 55555 

          Meersburg คือประเทศใกล้ชายแดนสวิส มีทะเลสาบ Constance กั้น จากเมืองเก่า สามารถเดินเท้าขึ้นสู่ปราสาทได้เลยพอเหงื่อซึม ถือว่าเป็นปราสาทที่เข้าถึงง่าย หากสนใจประวัติความเป็นมา ภายในก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ตีตั๋วเข้าชมได้เลย แต่นอกเหนือจากปราสาทแล้ว เมืองเก่าของ Meersburg สวยมาก ชิลมาก น่าเดินมาก ถ้าไม่อยากเร่งรีบ ควรใช้เวลาที่นี่อย่างน้อยครึ่งวัน
          แนะนำ : สามารถมาเมืองนี้ได้โดยนั่งเรือมาจากหลายเมืองริมทะเลสาบ เช่น เมือง Konstanz ของเยอรมนี แต่ให้ศึกษารอบเรือไปกลับให้ชัดเจนก่อนลงเรือ ถ้าไม่คิดจะนอนค้าง 

          หากคุณเคยฝันไว้ว่า อยากมานอนปราสาทในเทพนิยายสักครั้งในชีวิต คุณจงอย่าพลาดที่นี่ เพราะนี่คือปราสาทจริงๆที่เปิดเป็นโรงแรมให้ นทท เข้าพัก ภายในมีทุกอย่างที่ปราสาทโบราณต้องมี ทั้งโบสถ์ ห้องเก็บฟืน หอคอย บันไดโบราณ ชุดเกราะ ลึกลับซับซ้อน แต่ Facility พร้อม ห้องหับอลังการ มีความ antique วิวจากหน้าต่างห้องพัก เปิดออกมาชมวิว เสมือนหนึ่งเราเป็นเจ้าชายบนหอคอยปราสาทในอดีต
          แนะนำ : เหมาะสำหรับการ road trip แวะค้างคืน แล้วขับเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ 

          ใครไปที่ไหนมาแล้ว มาแชร์ภาพ หรือแบ่งปันทริคการเดินทางได้เลยนะคับ ส่วนใครที่เคยไปปราสาทอื่นๆนอกจาก 32 แห่งนี้ก็แชร์ได้เช่นกัน แอดมินจะได้ตามรอยเพิ่ม อิอิ