รีวิวเชียงราย : Singha Park Chiang Rai สิงห์ปาร์ค เชียงราย
ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ คือเวลาที่เหมาะแก่การพาตัวเองไปฮีลใจสัมผัสอากาศดี ๆ ต้อนรับซีซั่นใหม่ พร้อมกักกอดความสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่มให้ฉ่ำปอดกันที่ ‘เชียงราย’ ผืนดินเหนือสุดแดนสยาม หนึ่งในลิสต์ตัวตึงที่ไม่ควรพลาดของเชียงรายก็ยังคงเป็น Singha Park Chiang Rai สิงห์ปาร์ค เชียงราย โดยรอบนี้เราจัดแพลนให้ได้ฟินกันเน้น ๆ แบบวันเดย์ทริป ใส่เต็มคาราเบ้ลกับโลเคชั่น Public Space สุดกรีน พื้นที่แห่งความสุขของทุกคนที่หันไปทางไหนก็มีแต่คำว่าสวยแบบตะโกน! ซึ่งตอนนี้เขาเปิดโซนท่องเที่ยวครบทุกโซน มีครบทุกแอคทิวิตี้ทั้งแคมป์ปิ้ง รถรางฟาร์มทัวร์ ชมวิวไร่ชา 180 องศา ให้อาหารสัตว์ พร้อมด้วยกิจกรรมแอดเวนเจอร์ท้าทายคนใจเด็ดอีกมากมาย เรียกว่าไปกี่ทีก็แฮปปี้ มีเวลาวันเดียวเที่ยวได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำจบปิ๊งในที่เดียวแบบนี้ก็พลาดไม่ได้แล้วป่ะ?
แลนด์ดิ้งถึงเชียงรายปุ๊บ เราก็ออกเดินทางต่อปั๊บมายังจุดหมาย สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) ที่หลายคนคงนึกถึงรูปปั้นสิงห์สีทอง สัญลักษณ์ประจำ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ที่ตั้งอยู่บนเนินสนามหญ้ากว้างใหญ่ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนผืนดินกว่า 8,000 ไร่ ทั้งพื้นที่สีเขียว ธรรมชาติและความสวยงามพร้อมมอบความสุขให้กับนักท่องเที่ยวและชุมชนโดยสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งตอนนี้เขาเปิดโซนเที่ยวแบบครบเต็มอัตราแล้ว รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสอากาศดี ๆ พืชพรรณสวย ๆ ที่ขึ้นเต็มเนินเขาตามความเหมาะสมกับสภาพดิน พร้อมบริการร้านอาหาร คาเฟ่ ผลไม้พรีเมียมตามฤดูกาลและกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ใครจะชวนชาวแก๊งค์มาเที่ยว หรือจะควงแขนคุณแฟน พาครอบครัวมาด้วยก็รับรองเลยว่าจะได้เก็บทั้งรอยยิ้มและรูปภาพกลับไปแบบจุก ๆ แน่นอน
ถึงแม้ว่าเชียงรายจะเที่ยวได้ทุกฤดู แต่จะบอกว่าช่วงปลายฝนต้นหนาวบรรยากาศใน สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) นั้นดีต่อใจมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยแก ซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นชมวิวไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถเช่าจักรยานไฟฟ้า E-bike ไปปั่นรับลมเย็น ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ทั่วไร่ได้นะ ซึ่งเจ้า E-bike ที่ใช้ในไร่นั้นถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จุดเด่นคือไม่ต้องออกแรงปั่น ปลอดภัยไร้กังวลเพราะมีฟังก์ชันการใช้งานความเร็วที่ไม่ช้าและเร็วมากจนเกินไป แถมยังมีหมวกกันน็อคให้บริการด้วย งานนี้บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเจริญใจ ราคาก็คุ้มมาก 200 บาท / 1.30 ชม. เท่านั้นเอง
ในส่วนของคนที่ไม่อยากปั่นจักรยาน ทางไร่เขาก็มีตัวเลือกอีกมากมายบริเวณจุดบริการฟาร์มทัวร์ทั้งรถนำเที่ยว รถรางฟาร์มทัวร์ ที่เปิดให้บริการทุกวัน โดยจะมีตารางเดินรถเป็นรอบ ๆ ทุก 30 นาที (เริ่มรอบแรก 9.00 น. - รอบสุดท้าย 16.00 น.) มีค่าบริการคนละ 150 บาท เด็กสูงไม่เกิน 110 ซม. ราคา 50 บาท ข้อดีคือเขาไม่จำกัดเวลาในแต่ละจุด มีรถบริการต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องขึ้นรถคันเดิมเสมอไป แต่ถ้าใครต้องการความไพรเวทขึ้นมาอีกนิด หรืออยากได้พร็อพถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกหน่อย แนะนำให้เช่ารถกอล์ฟขับแบบส่วนตัวเที่ยวรอบไร่ไปเลย โดยที่นี่เขาจะคิดค่าบริการ (ต่อ 2 ชั่วโมง) ตามจำนวนที่นั่ง 2 ที่นั่ง 600 บาท 4 ที่นั่ง 1,000 บาท และ 6 ที่นั่ง 1,500 บาท ซึ่งเราว่าคุ้มค่านะเพราะสะดวก เป็นส่วนตัว จะจอดตรงไหนก็ได้ แถมยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบ 100%
เกือบลืมบอกไปว่าบริเวณใกล้จุดบริการรถฟาร์มทัวร์นั้นมีบึงกว้างใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเพราะมีฝูงหงส์ขาวกว่า 50 ตัว ลอยน้ำอย่างเฉิดฉันให้เราได้ถ่ายรูปโดยมีเหล่าน้องหงส์แหวกว่ายบนบึงพร้อมกับทิวเขาที่มองเห็นไกล ๆ อยู่ด้านหลัง หรือใครอยากให้อาหารก็สามารถทำได้นะ แต่ใด ๆ ต้องบอกไว้เลยว่าควรเก็บไว้ในลิสต์แล้วรีบมาเช็คอินให้ไวเลย
ใครชอบถ่ายรูปรับรองว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันแน่นอน แต่ถ้าอยากได้มุมจึ้ง ๆ เราก็ขอแนะนำ 2 มุม ที่ถ่ายรูปสวยตะลึง เริ่มเลยกับมุมแรกที่ สวนดอกไม้ ตัวแทนแห่งความสวยงามที่พลิ้วไหวลู่ลมเรียงรายจนแทบจะสุดสายตา ดีขนาดนี้จะรออะไรล่ะกดชัตเตอร์ไปแบบรัว ๆ ไปเลยสิ
ถัดมาที่ แปลงดอกสร้อยไก่ (Celosia) ใน สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) ก็มีแปลงดอกไม้สุดฮอท สีสันสดใส ช่อดอกเรียวยาวสูง ที่เราอยากแนะนำให้ลองแมทช์ชุดเกา ๆ โทนสีอ่อน ๆ ในตู้ไปสักหน่อย รับรองว่าจะนั่งหรือยืน ทำท่าเหม่อมองซ้ายขวาที่มุมไหนก็ได้รูปสวยทุกตรงแน่นอน!
หลังจากถ่ายรูปกันหนักมาก ก็ถึงเวลาขับรถมายังโซนกิจกรรมที่มีให้เลือกมากมายทั้ง Zipline, ATV และกิจกรรมปีนหน้าผาจำลอง เพื่อฝึกความแข็งแรงของร่างกายและความสูงที่เราต้องพิชิต โดยจะมองเห็นอาคารสูง 8 ชั้นสีเทาตัดกับสีเหลืองติดกับร้าน Barn House Pizzeria เลย ใครอยากกระตุ้นอะดรีนาลีนให้หัวใจได้เต้นตึกตักก็ต้องพุ่งตัวมายังโซนนี้เลย
ฮุย-เล-ฮุย กายพร้อมใจพร้อมเราทำได้! ขอเริ่มด้วยกิจกรรมสุดมันส์ชวนตื่นเต้นกับ Zipline วัดใจกับความสูงระดับอาคาร 8 ชั้น ราคาเพียง 300 บาท/คน ที่ใครจะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ แต่แนะนำว่ามาแล้วทั้งทีก็ห้ามพลาด ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดพลั้งตกลงมานะ เพราะเขามีอุปกรณ์เซฟตี้ให้เราสวมใส่ตลอด จะบอกว่าตอนแรกเราก็แอบมวนท้องเบา ๆ แต่พอได้เห็นความสวยของธรรมชาติมุมสูงแบบพาโนรามาของ สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) ทำให้เราลืมความหวาดเสียวไปเลย ถือเป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การมาลอง
- Zipline เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 17.00 น.
- สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 091-890-7394
กรี๊ดจนสุดเสียงกับเครื่องเล่นมันส์ ๆ ไปแล้ว ท้องเริ่มร้องจ๊อก ๆ ส่งสัญญาณให้รู้ว่าหิวแล้วนะ เราเลยรีบพุ่งตรงมายังโซนร้านอาหารเพื่อทำการฝากท้องทันที จะบอกว่ามาเที่ยวที่ สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) ไม่ต้องออกไปหาอะไรทานข้างนอกให้ยุ่งยาก เพราะภายในมีทั้ง ไร่ชา ร้านอาหารและคาเฟ่ไว้บริการนักท่องเที่ยวกันได้ทั้งวัน แต่ถ้าให้เราแนะนำก็ต้องเป็นอาหารเหนือนี่แหละฟินที่สุดในสามโลก ลองคิดภาพตามดูว่านั่งทานอาหารอร่อย ๆ หรือจิบชาร้อน ๆ พร้อมกับชมวิวธรรมชาติชุ่มฉ่ำมันจะดีต่อใจแค่ไหน
ร้านที่เรามาฝากท้องในมื้อกลางวันก็คือ ร้านภูภิรมย์ เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดี มีจุดชมวิว 360 องศา มีที่นั่งให้เลือกหลายมุม เหมาะกับการมาทานอาหารพร้อมนั่งชมวิวไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของจานเด็ดที่ห้ามพลาดคือ ออเดิร์ฟเมือง ขาหมูเยอรมัน ยำทูน่าใบชาสดที่เก็บตรงจากไร่ และอีกมากมายที่ชิมแล้วต้องร้องออกมาว่าลำแต๊ ๆ เจ้า ซึ่งในส่วนนี้เปิดให้บริการทุกวันเลยนะ ตั้งแต่ 11.00 - 22.00 น. สำรองโต๊ะโทร. 091-576-0371 แล้ววางแพลนมาชิมเมนูเด็ดกันได้เลย
และเพื่อเป็นการเติมเต็มมื้ออร่อยของวันนี้ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น หลังจากทานคาวแล้วเราก็ต้องไปตบท้ายของหวานกันต่อที่ ร้านชาไทย ตั้งอยู่บนเนินทางขึ้นภูภิรมย์ บนวิวไร่ชา 180 องศา จุดนี้สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปจอดได้เลย ตัวคาเฟ่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. ตกแต่งสไตล์ไทยล้านนาประยุกต์ เน้นเพดานสูงโปร่งแนวโอเพ่นแอร์ มีระเบียงที่สามารถนั่งรับลมชมวิวไร่ชาได้แบบเต็มสายตา มีมุมถ่ายรูปเพียบทั้ง Rooftop และสะพานที่ทอดลงไปในไร่ชา ในส่วนของเมนูก็พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมหลากชนิดที่มีส่วนผสมจากชาในไร่ ซึ่งให้บริการทั้งชาร้อนและเย็นจากชาเบลนด์สูตรพิเศษของสิงห์ปาร์ค พร้อมทั้งเค้กและขนมตามฤดูกาล ส่วนรสชาติต้องบอกว่าเข้มข้นถึงใจมาก ใครชอบความเข้มข้นคือเลิฟแน่!
อิ่มท้องทั้งคาวทั้งหวานก็มาใช้พลังกันต่อกับ ATV ขึ้นเนินเขาชมไร่ชาแบบกว้าง ๆ กิจกรรมนี้บอกเลยว่าทั้งมันทั้งว้าวกันเลย
เพื่อความชิลอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ให้สายตาพักผ่อนกับสีเขียวขจี ให้จมูกได้สัมผัสกลิ่นหอม ๆ ของชา และปากรับรสชาติของขนมโฮมเมดไปแล้ว เราก็มูฟออนมาต่อสวนสัตว์โซนใหม่ Mini Zoo: Zone Touching and Feeding บริเวณจุดจอดสวนสัตว์ข้างยีราฟและม้าลาย โดยโซนนี้จะเน้นสัตว์เล็กน่ารัก ๆ ที่ค่อนข้าง friendly อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้อาหารสัตว์ทำให้เรียกรอยยิ้มเราให้กว้างขึ้นไปกว่าเดิมไปอีก สนุกด้วยได้รูปด้วยแบบนี้จะพลาดได้ไง
ที่ สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) นอกจากจะมีไร่ชา คาเฟ่ ร้านอาหาร และกิจกรรมสนุก ๆ ให้เลือกเติมเต็มความสุขสุดขีดแล้ว ยังให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากมาค้างแรมด้วยการเปิดลานกางเต็นท์ (วันจันทร์ - พฤหัสบดี ราคา 300 บาท/คน วันหยุดสุดสัปดาห์หรือนักขัตฤกษ์ 500 บาท/คน) ใครที่ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มาก็มีที่พักแบบเต็นท์แคมป์ (หลังละ 2,500 บาท/2 คน) ให้บริการเช่นกัน ซึ่งโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศดีงาม ซึ่งแน่นอนที่สุดไม่ว่าจะนอนเต็นท์ของที่นี่หรือใครจะเตรียมอุปกรณ์มาเอง เขาก็มีพื้นที่ให้ได้ดื่มด่ำธรรมชาติ ก่อกองไฟ ปิ้งมาร์ชเมลโล ถ่ายรูปเก๋ ๆ แอคติ้งจิบกาแฟลงไอจีสตอรี่ปัง ๆ ได้เหมือนกัน
สำหรับที่พักแบบเต็นท์แคมป์ด้านในมาพร้อมกับที่นอนขนาด 3.5 ฟุต 2 เบาะ ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตา เข้าเซ็ทกันกับผ้าห่ม และปลอกหมอน พร้อมปลั๊กพ่วงไว้ให้ภายในทุกห้อง ใครที่คิดว่านอนเต็นท์จะอึดอัด บอกเลยว่าไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน ด้านในกว้างกำลังดี ใครพร็อพเยอะหรือมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็สามารถกางได้สบาย ๆ เอาเป็นว่าใครที่อยากมากางเต็นท์ขยับเข้าใกล้ธรรมชาติอีกนิด
- สามารถติดต่อจองที่พักหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Line : @singhaparkpackage หรือ คลิ๊กลิงค์ https://lin.ee/EBr3q64 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 19.00 น.
หลังจากตะลอนเที่ยวรอบไร่จนพลังเริ่มหมด เริ่มเห็นดวงอาทิตย์กลมโตสีส้มค่อย ๆ ลับทิวเมฆพร้อมกับท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีสวยงามส่งท้ายวัน เราก็กลับมาที่โซนกิจกรรมอีกครั้ง เพราะตรงนี้มีร้านอาหารดี ๆ ให้บริการอยู่ นั่นก็คือ Cargo Bar-B-Q ร้านปิ้งย่างที่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 21.00 น. เป็นร้านริมทะเลสาบ มีจุดสังเกตคือ AIRPLANE FOOD TRUCK (SILVER BIRD) ตั้งอยู่กลางเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาล้อมรอบ เป็นอีกจุดนึงที่ Vibe ดี ถ่ายรูปออกมาน่ารักโดนใจเรามาก
เป็นอันรู้กันว่าวันนี้เราใช้พลังงานช่วงเช้าจรดบ่ายไปเยอะแล้ว ช่วงเย็นเราขอรีเฟรชร่างกายด้วยบาร์บีคิวไม้โต เนื้อแน่นอร่อยเต็มคำอร่อยล้ำกว่าที่ไหน พร้อมนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ซึมซับบรรยากาศสบาย ๆ เคล้าคลอกับดนตรีสดที่มีเฉพาะวันพุธ วันเสาร์และวันอาทิตย์ แบบปล่อยจอยไม่รีบเร่งอะไร ค่อย ๆ ละเลียดกับรสชาติอาหารทุกคำ กินไปแฮปปี้ไป เป็นมื้อเย็นที่มีความสุขและรูปสวยมาก
แม้จะเป็นทริปสั้น ๆ ช่วยปลายฝนต้นหนาว แต่การมาเยือน สิงห์ปาร์ค เชียงราย ( Singha Park Chiang Rai) ครั้งนี้ก็ช่วยฮีลใจความเหนื่อยล้าของมนุษย์เมืองอย่างเราได้เป็นอย่างดี นอกจากความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านมาให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดวันแล้ว ยังมีอาหารและขนมอร่อย ๆ พร้อมกิจกรรมมันส์ ๆ ที่ทำให้หัวใจได้เต้นตึกตักเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวของเราให้สนุกขึ้น ไม่ว่าจะมากับใคร เพศไหน วัยไหน ก็มั่นใจได้เลยว่าที่นี่มีกิจกรรมสำหรับทุกคน เรียกว่าเป็นสวรรค์สำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนที่มากี่ครั้งก็ประทับใจแน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว
บันทึกคนขี้เที่ยว
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่