รวม 17 เมืองสวยน่าเที่ยวในโครเอเชีย
Content ต้อนรับ "โครเอเชีย" เข้าสู่ประเทศที่ 27 ในกลุ่มเชงเก้น ซึ่งทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป ใครที่ถือวีซ่าเชงเก้น สามารถบินลงโครเอเชียได้แบบไม่ติดเงื่อนไขใดๆอีก
ข้อมูลแบบละเอียด ไปอ่านในลิงค์นี้ได้เลยครับ https://www.consilium.europa.eu/.../schengen-area.../
ทีนี้...เรามาดูกันว่า ประเทศโครเอเชีย ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติก" ทิศเหนือนางติดฮังการีและสโลเวเนีย ตะวันออกติดบอสเนีย และที่ปังสุดคือทางตะวันตก ติดทะเลอเดียริก เกาะแก่งนี่ไม่ต้องนับ เยอะแยะและสวยไปหมด
โครเอเชีย มีภาษาและสกุลเงินเป็นของตัวเอง (แต่มีข่าวเพิ่มมาอีกว่าจะเปลี่ยนสกุลเงินเป็น "ยูโร" ยังไงก็ขอให้ดูประกาศกันอีกครั้งนะครับ) เดินทางเที่ยวเองได้ด้วยการเช่ารถ หรือนั่งบัส ค่าครองชีพถูก และมีความปลอดภัยสูง ผู้คนสื่อสารภาษาอังกฤษได้
วันนี้ผมเลยขออนุญาตมาแชร์ 17 เมืองสวยน่าเที่ยวแบบจุกๆ เก็บครบสำหรับคนที่สนใจ หรือมีแพลนที่จะไป...
มาคับ..ตามผมมาเลย
1. Zagreb (เมืองหลวง)
- สถานที่น่าเที่ยว : Cathedral of Zagreb, ประตูเมืองเก่า, จัตุรัส Trg J. Jelacica, ตลาด Dolac
- เวลาที่ใช้ : 1 วันเต็ม หรือมากกว่า เพื่อเก็บทั้งส่วน Upper town และ Lower town
2. Dubrovnik
- สถานที่น่าเที่ยว : เมืองเก่าภายในกำแพงเมืองทั้งหมด เดินสนุก เดินเพลิน หลงเพลินด้วย
- แอดแนะนำ : ขึ้นไปเดินบนกำแพงเมืองเก่า (สาวก Game of Thron ฟินตาแตก) แล้วขึ้น Cable car ขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบดูบรอฟนิกสวยทั้งกลางวัน และกลางคืน จึงควรหาที่พักแถวเมืองเก่า (แพงหน่อย แต่คุ้ม)
- เวลาที่ใช้ : 1 วันเต็มแบบนอนค้าง (หากไม่เดย์ทริปไป Mostar หรือทัวร์ 3 เกาะ)
3. Split
- สถานที่น่าเที่ยว : พระราชวัง Diocletian's Palace, Cathedral of St.Domnius
- แอดแนะนำ : เดินเท้าขึ้นหอระฆัง เพื่อชมวิวกลุ่มบ้านเรือนโบราณหลังคาส้มตัดกับสีน้ำทะเลอเดรียติกคือที่สุดแบบที่สุด
- เวลาที่ใช้ : 1 หรือ 2-3 คืน กรณีใช้เป็นฐานในการเดย์ทริปไปเกาะ Brac เกาะ Hvar
4. Trogir
- สถานที่น่าเที่ยว : Cathedral of St.Lawrence, หอระฆัง, Cipiko Palace, Kamerlengo Fortress
- เวลาที่ใช้ : ครึ่งวัน สามารถเดย์ทริปจากเมือง Split ได้
5. Brac Island
- สถานที่น่าเที่ยว : ชายหาด Golden horn
- แอดแนะนำ : นั่งเรือจาก Split มาลงที่ท่าเรือ Supetar ศูนย์กลางการท่องเที่ยว แล้วนั่งบัสไป Bol ที่มีชายหาด Golden horn (Zlatni Rat)
- เวลาที่ใช้ : 1 วันเต็ม เดย์ทริปจาก Split ได้
6. Hvar Island
- สถานที่น่าเที่ยว : Hvar, Stari Grad
- เวลาที่ใช้ : หากจะเก็บให้ครบทั้งฝั่ง Hvar และ Stari Grad ควรนอนค้าง 1 คืน
- คำเตือน : ซื้อตั๋วเรือแล้ว ให้ไปเช็คตารางเวลาอีกรอบ และท่าเรือด้วย มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาแน่เอานอนไม่ได้ แอดพลาดมาแล้ว ขึ้นเรือผิดลำไปลงเกาะ Korcula ชีวิตหฤหรรษ์มาก
7. Zadar
- สถานที่น่าเที่ยว : เขตเมืองเก่า, Riva (ทางเดินริมทะเล), Sea Organ (ท่อออร์แกนใต้ขั้นบันไดทอดลงทะเล เมื่อคลื่นซัดมากระทบ จะเกิดเป็นเสียง), Greeting of the sun (แผงโซล่าเซลล์ขนาดใหญ่)
- เวลาที่ใช้ : 1 วัน (กรณีโดยสารบัส), ครึ่งวัน กรณีขับรถเที่ยวเอง
8. Sibenik
- สถานที่น่าเที่ยว : St.Michael's Fortress, มหาวิหาร St.James, เขตเมืองเก่า และทางเดินริมทะเล
- เวลาที่ใช้ : 1 วันเต็ม
9. Krka National Park
- สถานที่น่าเที่ยว : น้ำตก Skradinski Buk, Visovac อารามสวยบนเกาะกลางทะเลสาบ
- เวลาที่ใช้ : 1 วัน สามารถเดย์ทริปมาจาก Sibenik ได้
10. Plitvice National Park
- สถานที่น่าเที่ยว : Lower Lake, Upper Lake เส้นทางหลากหลาย มีทั้งลำธารเขียวมรกต สะพานไม้ ป่า น้ำตก ถ้ำ ล่องเรือ จึงควรทำการบ้านไปก่อนว่าเลือกเดินเส้นไหนตามเวลาที่มี
- แอดแนะนำ : แอดมีเวลาตั้งแต่ 11 โมงถึงมืด เพราะพักในอุทยานเลย เลือกเส้นทาง H ไม่ไกลที่สุด แต่ระยะทางก็ไม่ใกล้ เส้นนี้สามารถเก็บครบทั้ง Lower & Upper lake แบบไม่รีบ ไม่เหนื่อยเกินไป ในภาพคือช่วงเดือนตุลาที่แอดไป ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีทั้งป่า สวยมาก
- เวลาที่ควรใช้ : 1 วันเต็มแบบนอนค้าง
11. Rijeka
- สถานที่น่าเที่ยว : ถนนชอปปิ้ง Korzo, จัตุรัสและหอนาฬิกาประจำเมือง
- แอดแนะนำ : เมืองนี้เที่ยวครึ่งวันก็จบ แต่เหมาะที่จะใช้เป็นจุดพักเพื่อเดย์ทริปไป Opatija, Volosko หรือต่อบัสไปยัง Porec, Pula, Rovinj
- เพิ่มเติม : Rijeka มีสนามบิน ทำให้เราสามารถนั่งเครื่องจาก Dubrovnik (ที่อยู่ทางใต้) มาลง Rijeka ได้สบายๆ ประหยัดเวลาเดินทางได้ไปเลยวันนึง
12. Opatija
- สถานที่น่าเที่ยว : ประติมากรรม Maiden with the seagull บนโขดหินริมทะเล, Angiolina park
- แอดแนะนำ : เดินชิลรอบเมือง บรรยากาศดีมาก slowlife ได้ เมืองนี้คือเมืองแห่งรีสอร์ต รถสปอร์ต และวิลล่าสุดหรู หากกำลังขาดี แนะนำให้เดินเลียบทะเลไปหมู่บ้านชาวประมง Volosko ได้เลย (2 กม)
13. Volosko
- สถานที่น่าสนใจ : เดินชมวิลล่าหรูริมทะเล คาเฟ่เงียบๆ บรรยากาศสงบๆ ริมทะเล
- แอดแนะนำ : เดย์ทริปควบกับเมือง Opatija ได้สบายๆ โดยสามารถเดินเลาะทางเดินริมทะเลมา แล้วเดินกลับทางถนน หรือนั่งบัสกลับก็ได้
14. Pula
- สถานที่น่าเที่ยว : The Arena ซุ้มประตู เมืองเก่า
- เวลาที่ควรใช้ : ครึ่งวัน เดย์ทริปจาก Porec หรือ Rovinj ได้
15. Porec
- สถานที่น่าเที่ยว : มหาวิหารยูฟราเซียน และลัดเลาะไปตามเมืองโบราณแห่งยูเนสโก้
- เวลาที่ควรใช้ : 1 วันแบบเดย์ทริป หรือค้างคืนก็ได้
16. Rovinj
- สถานที่น่าเที่ยว : หอระฆัง เมืองเก่า คาเฟ่สวยๆ ริมทะเลอเดรียติก
- แอดแนะนำ : มีทัวร์ดูโลมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ราคาไม่แพง ถ้ามีเวลาก็ไปเถอะ บรรยากาศดีมาก (แม้ไม่เจอโลมาก็คุ้ม)
- เวลาที่ควรใช้ : 1 วันแบบนอนค้าง เมืองสวยมาก ประทับใจมาก
17. Kolocep, Lopud และ Sipan Island
Kolocep เป็นเกาะที่ไม่มีอะไรเลย ประหนึ่งเกาะร้าง ได้ฟิลเดินป่า ทุกอย่างดิบ มีคาเฟ่เพียงร้านเดียวบนเกาะ
Sipan อันนี้ดีขึ้นมาหน่อย มีร้านอาหารมากหน่อย ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ยังเห็นคนพื้นเมืองเอาพวกเหล้า ไวน์ที่ตัวเองหมักเองมาวางขาย
Lopud เกาะนี้คือเกาะ touristy โดยแท้ มี รร หรู ร้านอาหารเยอะมาก ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึกทั้งแบบ local และทันสมัย
- แอดแนะนำ : 3 เกาะที่สามารถซื้อทัวร์เดย์ทริปจาก Dubrovnik ได้
- เวลาที่ควรใช้ : 1 วัน แล้วกลับมานอน Dubrovnik ทัวร์ออก 11.00 จบที่ 17.00
18. แถม : Mostar (ประเทศบอสเนีย)
- สถานที่เที่ยว : สะพาน Mostar, หมู่บ้านโบราณ, น้ำตก Kravice
- แอดแนะนำ : ประเทศบอสเนีย สามารถเข้าได้ด้วยวีซ่าโครเอเชีย และวีซ่าเชงเก้น (แบบ multiple) ด้วยการเดินทางที่ยุ่งยาก เพราะต้องออกจากเขตโครเอเชีย แล้วเข้าบอสเนีย แล้วเข้าโครเอเชีย แล้วจึงจะเข้าบอสเนียอีก หัวจะปวด ดังนั้น การซื้อเดย์ทัวร์จาก Dubrovnik จะช่วยได้เยอะ ไกด์จะเก็บ passport เราไว้แล้วจัดการให้เองทุกครั้งที่ผ่านด่าน ตม แต่ภายหลังโครเอเชียเข้าเชงเก้นแล้ว กฎการเข้าบอสเนียจะเป็นยังไง ต้องติดตามอีกครั้ง
- เพิ่มเติม : ชื่อเต็มของประเทศนี้คือ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ประเทศนี้ค่อนข้างจะบอบช้ำจากสงคราม ภายหลังยูโกสลาเวียล่มสลาย ยังมีการรบแย่งชิงดินแดนกันอีกจากเซอร์เบีย และโครเอเชีย นางกลายเป็นประเทศมุสลิมที่โคตรน่าสงสาร กว่าทุกอย่างจะยุติ ทั้งประเทศก็โดนถล่มจนเละ ไม่เว้นแม้แต่สะพานแสนสวย Stari Most ที่มีอายุกว่า 400 ปี แต่ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในโมเดลแบบเดิมเป๊ะ สะพานแห่งนี้ถือว่าเป็น landmark ที่สำคัญที่สุดของ Mostar นอกจากมัสยิดที่เรียงรายภายในเขตเมืองเก่า
19. แถม : ที่พักใน Dubrovnik ที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังผีแอนนาเบล
ทุกอย่างดูลึกลับ มืดสลัวและได้อารมณ์หลอนสุด ประทับใจไม่ลืม ตำนานคือช่วงสงคราม ทหารโครเอตเสียชีวิตเยอะมาก นทท หลายคนเคยเจอสุกี้น้ำมาทักทายก็เยอะ เรื่องเล่าหนาหู แต่แอดเป็นคนไม่ทำการบ้านเรื่องที่พัก มารู้เอาตอนจองไปแล้ว และต่อไปนี้คือบันทึกการเดินทางของแอดเองที่จะเขียนในเฟสส่วนตัวทุกครั้งที่เดินทาง เลยขอเอามาแปะให้เพื่อนๆอ่าน แล้วลุ้นที่พักแห่งนี้ไปด้วยกัน..
"ครั้งนี้ขอพักติดเมืองเก่าอันโด่งดัง ซึ่งไกลจากสถานีรถบัสหลัก เพื่อให้สะดวกในการเดินเที่ยวเมืองเก่าได้ง่าย เจ้าของที่พักเป็นหญิงชรา นางโมดิฟายบ้านนางเอง (ซึ่งเข้าใจว่าเป็นบ้านโบราณ) ให้เป็นห้องพัก พอเปิดประตูเข้าไป ฟิลเดินเข้าไปในบ้านผีแบบฝรั่งอ่ะ ข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า ตะเกียง ทุกอย่างเหมือนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และแน่นอน บ้านนางไม่มีลิฟท์ มันเป็นบันไดวนเย็นๆ กุญแจห้องก็โอ้ยยย...มึงโบราณได้อีก เหมือนกุญแจไขคุกใน pirate of the caribbean พอเปิดห้องเข้าไป นี่มันห้องนอนแบบในหนังผีชัดๆ (ถ้ามีตุ๊กตาแอนนาเบลวางอยู่ กรูร้องเลยนะ)"
"พื้นห้องเป็นไม้ที่ปูด้วยพรมแบบโบราณ เวลาเดินจะดังเอี๊ยดอ๊าดๆ หน้าต่างห้องก็เปิดปิดลำบาก นางบอก หน้าต่างบานนี้เป็นแบบเก่าแก่นานหลายปีละ (นี่ก็ไม่กล้าถามว่ากี่ร้อยปี) มันต้องทำยังงี้ (นางสาธิตวิธีการเปิดหน้าต่างแบบใจเย็น ซึ่งซับซ้อนมาก) รวมถึงสอนวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆในห้อง มันเป็นกลไกไปหมด
เอาดีๆ นางดูเป็นคนใจดี และใจเย็น แต่บางทีก็รู้สึกเย็นจนขนลุก บ้านนางเงียบมาก เงียบจนดูเหมือนนางอยู่คนเดียว นางบอกนางอยู่ชั้นล่างสุด มีอะไรเรียกได้ (ลองนึกสภาพ ถ้ามีไรเกิดขึ้นชั้นบน แล้วเรียกนาง นางจะถือตะเกียงโบราณแสงสลัวๆ เดินขึ้นบันไดวนขึ้นมา แล้วมาเคาะประตู) อีดอกกก..แค่คิดก็กีหดแล้ว
นี่นอนที่นี่ 3 คืน จะยังไงได้รู้กัน ไปมาหลายสิบประเทศ ที่นี่แหละ...คือกราบในความวินเทจ แบบไม่ต้องประดิษฐ์ ไม่ต้องมีพร็อพ มันรู้สึกถึงความเก่าแก่ผ่านลมหายใจแรกที่เปิดประตูเข้าบ้านเลย นี่ถ้ารอดใน 3 คืนนี้ กรูโหวตคะแนนห้องพักที่นี่ 10 เต็ม" และ.....ทุกคนคับ!! จากเหตุการณ์ครั้งนั้น แอดรอดนะฮะ หลับสบายทุกคืน 55555
โดยครั้งนี้ผมบินลงเมืองหลวง Zagreb เที่ยวด้วยการนั่งบัส + เครื่องบินในประเทศ เก็บครบทุกเมืองได้ภายในทริปเดียว ตามฉบับลุยเดี่ยวเฟี้ยวได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนในเพจนะครับ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
