เที่ยวบาหลี 5 วัน 4 คืน พร้อมจุดเช็กอินและมุมถ่ายรูปไม่ควรพลาด

          ช่วงเดือนแห่งความรักแบบนี้สาวเลือดกรุ๊ปบีอย่างเรา จะนอนเหงา ๆ อยู่บ้านก็คงจะไม่เก๋

          ขอลากกระเป๋าบินไปเซอเวย์ทริปในฝัน ณ เมืองโรแมนติกอย่าง ‘บาหลี’ ที่ใคร ๆ ก็เลื่องลือกัน ว่าทั้ง ภูเขา ทะเล น้ำตก คาเฟ่ ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม จุดเช็คอิน มุมถ่ายรูป สถานที่ไฮไลท์ ให้ขีดเส้นใต้ให้ปักหมุดเต็มไปหมด 

          5 วัน 4 คืนงบรวมบินไม่ถึงสองหมื่น กับทริปเตรียมพร้อมซ้อมมาสวีทของเราคราวนี้ จะมีแต่ความว๊าว ความหวาน ความอลังการในทุก ๆ สถานที่ ไม่ต้องรอให้ใครมากุมมือเพียงกุมตั๋วบินตรงไปบาหลีพร้อมเราในโพสต์นี้ แล้วแกจะพูดว่ามันเวรี่โรแมนติกที่สุดเลยยยยยย

          และตอนนี้แอร์เอเชียมีบินตรงสู่บาหลีทุกวัน สูงสุดวันละ 2 เที่ยวบิน นั่งกินข้าวดูดชาไข่มุกไต้หวันชิว ๆ 4 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงบาหลีแบบสวยสับ จองเลยที่ www.airasia.com

          เท้าแตะบาหลีเรียบร้อยก็อย่ารอช้า เรามาเริ่มกันที่โลเคชั่นแรก ณ จุดนี้ขอแวะมาที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมาชมหาดทรายสีดำด้วยตาตัวเองสักครั้ง ว่ากันว่าการที่ทรายของชายหาดฝั่งนี้เป็นสีดำเพราะเกิดจากแร่ธาตุของกรวดหินธารลาวาจากภูเขาไฟอากุง ภูเขาไฟที่สูง เด่นตระหง่านอยู่กลางเกาะบาหลีนั่นเอง หาดทรายฝั่งนี้เลยมีสีดำไปทั้งแถบทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็พากันมาเช็คอิน ถ่ายภาพสวย ๆ กันไม่หยุดหย่อน และหากจะเพิ่มดีกรีความโรแมนติกเข้าไปสักนิด ก็ให้เลือกชุดขาวพลิ้วยาวเสมือนชุดเจ้าสาว นี่ฉันมาถ่ายพรีเวดดิ้งรอเจ้าบ่าวแล้วนะ

          และอีกหนึ่งความตื่นเต้นของการมาบาหลีคือการได้หาที่พักดี ๆ ไว้ถ่ายรูปสวย ๆ อวดชาวโลกนี่แหละ และสำหรับที่พักที่เราเลือกก็เป็นบ้านไม้ไผ่บนเนินเขาสุดแสนจะไพรเวทแห่งนี้ ความพิเศษของที่นี่คือสามารถรับนักท่องเที่ยวได้เพียงวันละ 1 กลุ่มเท่านั้น จึงรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครมารบกวนเวลาส่วนตัวของเราได้แน่นอน

          ตัดอกตัดใจจากวิวสวย ๆ ตรงที่พักได้แล้วเราก็ออกเดินทางตามแพลนกันต่อ สตาร์ทที่แรกด้วยบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่าพันปี ชาวฮินดูบาหลีเดินทางมาที่นี่เพื่อประกอบพิธีชำระล้าง โดยเชื่อกันว่าน้ำจากบ่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต้นกำเนิดของน้ำก็ผุดมาจากใต้ดิน ไหลมาจากภูเขาไฟ เราได้เดินไปดูจุดที่น้ำผุดออกมาด้วย คือน้ำใสมาก

          สำหรับการเข้าชมที่นี่ทุกคนจะต้องเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มส่วนล่างให้เป็นโสร่งซึ่งเขามีให้ยืมได้ที่ประตูทางเข้า หรือถ้าอยากลงบ่อน้ำ ก็มีบริการผ้าคลุมสีเขียวให้เช่าอยู่ที่คนละ 50,000 รูเปียห์

• ค่าเข้าชม: คนละ 15,000 รูเปียห์

          การได้ชมวิวนาขั้นบันไดถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลท์ของบาหลี ดังนั้นแพลนมื้อสาย+เที่ยงของเราวันนี้คือคาเฟ่กึ่ง Poolbar วิวนาข้าวสวย ๆ ถึงแม้ว่าจะปวดใจกับคู่รักที่หวานกันจนน่าอิจฉาตรงหน้าเพราะว่าฟิลลิ่งมันชวนให้สวีทไปบ้าง แต่ทางเรายังสตรองเดินหน้าสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาเยียวยา แล้วพูดกับตัวเองในใจว่าอย่าให้ฉันมีแฟนบ้างแล้วกั๊น!

          เติมอาหารเต็มท้องเติมพลังเต็มที่ ก็ต้องขอมาต่อที่นี่อีกหนึ่งไฮไลท์ของบาหลีที่ถ้าใครไม่มาจะโดนครหาว่ามาไม่ถึงบาหลีเอาได้ นอกจากจะเตรียมชุดสวยให้พร้อมแล้วยังต้องเตรียมใจให้กล้าเพราะนี่คือชิงช้ากลางป่าที่บอกเลยว่า เสียวและสวยสุด ๆ

          หลังจากลงทะเบียน ชำระค่าบริการเรียบร้อย ด้านในจะเป็นพื้นที่ของเครื่องเล่น ซึ่งมีให้เลือกหลายประเภท มีสต๊าฟคอยดูแลทุกจุด มีตั้งแต่จุดถ่ายภาพน่ารัก ๆ ธรรมดาไปจนถึงชิงช้าแบบหวาดเสียว หรือถ้ามาเป็นคู่ก็สามารถนั่งชิงช้าแบบคู่รักหวาน ๆ ได้ ส่วนเรานั้น เล่นมันซะทุกอย่าง อันไหนที่เขาให้นั่งเป็นคู่ ทางนี้ก็ไม่แคร์ขอแม่นั่งเดี่ยวแล้วกัน ถือเป็นการซ้อมไว้ก่อน รอบหน้ามากับแฟนจะได้ไม่ตื่นเต้นไง

          อ้อ!!! และถ้าใครไม่ได้เตรียมชุดสวยของตัวเองมา ด้านหน้าตรงจุดลงทะเบียนเขามีชุดสวยหลากหลายสีสันให้เช่าด้วยนะ ค่าเครื่องเล่น คนละ 400,000 รูเปียห์ (สามารถเล่นได้ทุกอย่าง) หากเข้าไปชมไม่เล่นจะอีกราคาหนึ่ง

          วันที่สามของทริปเราขอข้ามเกาะมายัง Nusa Panida เพื่อตามรอยความโรแมนติกและจุดเช็คอินที่โด่งดังระดับโลกกันต่อ ออกจากฝั่งตั้งแต่เช้าใช้เวลานั่งสปีดโบ๊ทประมาณ 20 นาที โดยซื้อทัวร์จากทางคนขับรถที่เราใช้บนฝั่งได้เลย ในทัวร์ก็รวมค่าเรือ ค่าอาหารเที่ยงและมาถึงเกาะก็จะมีรถส่วนตัวรอรับและขับพาเที่ยวครบทุกจุดแบบไม่ต้องเหนื่อย

          เมื่อถึงเกาะก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบไปจุดเช็คอินแรกของวันกับ Kelingking Beach หรือ Cap de T-Rex หรือ เกาะไดโนเสาร์ เอาเป็นว่าแล้วแต่ใครจะเรียก ด้วยรูปทรงของภูเขาหินที่มีลักษณะเหมือนหัวไดโนเสาร์ยื่นออกจากริมหาดไปยังทะเลทำให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขนาดที่ว่าถ้าเห็นภาพนี้ น้องป.4 ยังตอบได้เลยว่าพี่ไปบาหลีมาใช่ไหม

          และสำหรับคนที่ขาไม่ค่อยดี แนะนำว่าให้ยืนถ่ายรูปกับวิวด้านบนก็พอเพราะการเดินลงบันไดค่อนข้างสูงและชัน ตรงไหนก็วิวสวยเหมือนกัน อีกอย่างที่ต้องระวังคือน้องลิงที่นี่มีเยอะและซนมากด้วย

          มาต่อกันอีกหนึ่งจุดที่ไม่ไกลจากที่ก่อนหน้าอย่าง Broken Beach และ Angel’s Billabong สองจุดนี้อยู่ใกล้กันมาก สามารถใช้เวลารวมกันได้เลย จุดเด่นของ Broken Beach คือสะพานหินแนวโค้งที่เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดเป็นช่องว่างด้านล่างขนาดใหญ่ ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาดไหลผ่าน ถ้ามองจากมุมด้านบนจะเหมือนลากูนใหญ่สีฟ้าโดดเด่น

          และห่างออกไปเพียง 400 เมตรจะพบกับ Angel’s Billabong ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องมาเช็คอิน จุดนี้เป็นแอ่งน้ำที่ขังอยู่ในหิน รูปร่างคล้ายกับลากูน รับรองว่าถ่ายภาพมาสวยแปลกตาไม่เหมือนใคร

          และนี่คือหนึ่งหาดบนเกาะนุสาที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิวตรงหน้าสวยราวกับภาพวาด ที่ได้ชื่อว่าไดมอนด์ บีช เพราะว่ามีเกาะเล็ก ๆ รูปร่างคล้ายเพชรวางอยู่กลางทะเล สามารถเดินลงไปชายหาดได้ แต่ทางเดินลงทั้งสูงและชัน ต้องใช้ความระมัดระวังมาก ๆ แต่บอกเลยว่ามุมทางลงตรงบันไดสวยสุด ๆ เลย ต้องมาถ่ายรูปให้ได้

          จุดต่อมาไม่ไกลจาก Diamond Beach เรียกว่าเป็นวิวในฝันของเราเลยแหละ เราเห็นมุมนี้จาก IG และเฟซบุ๊กมากมาย เป็นเดสทิเนชั่นที่คู่รักทั้งหลายต้องมาแชะภาพคู่กันและไม่ผิดหวังเลย วิวสวย มุมปัง จะเดินจะยืนจะนั่งก็สวยจนน้ำตาจะไหลลล

          แต่ระหว่างทางที่จะมาเจอวิวในฝันนั้นช่างปวดขาเหลือเกิน การมาที่นี่จะต้องขึ้นลงทางลาดชันอย่างมากเลย

• ค่าเข้าชม: คนละ 70,000 รูเปียห์

          ก่อนกลับไปฝั่งบาหลีเราขอแวะคาเฟ่วิวสวยริมทะลที่เพื่อนสาวผู้เชี่ยวชาญบาหลีแอบแนะนำมาบอกว่าแสนดี ซึ่งเมื่อมาถึงเราก็เห็นด้วยกับที่เพื่อนบอกเลย การได้มานั่งรับลมที่นี่ นอกจากจะได้วิวทะเลแบบไม่มีอะไรมากั้นแล้ว ยังสามารถนั่งมองภูเขาไฟอากุงได้อย่างเต็มตา มองท้องฟ้าสีฟ้า ทะเลสีคราม จิบน้ำมะพร้าวหอม ๆ ตักอาหารเข้าปากไปพร้อม ๆ กับความว๊าวตรงหน้า โถถถ ชีวิตของฉันทำไมช่างน่าอิจฉาอย่างนี้

          เที่ยวเพลินจนแทบลืมตัว มารู้อีกทีก็เข้าสู่วันที่ 4 ของทริปแล้ว วันนี้เรายังคงคอนเซ็ปต์นกที่ตื่นเช้าจะได้กินหนอนก่อนด้วยการตื่นแต่เช้าไปเอาสายหมอก ณ ประตูสไตล์บาหลีที่มีวิวภูเขาสูงใหญ่เป็นแบ็กกราวน์ ตรงนี้เป็นทางเข้า Handara Golf & Resort ที่อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็น IG Spot ให้นักท่องเที่ยวสายแชะทั้งหลายได้มาหมุนซ้ายหมุนขวากดชัตเตอร์เป็นว่าเล่น และด้วยความฮอตฮิตของที่นี่ เจ้าของสถานที่จึงต้องมีการเก็บค่าเข้าเอากำไรซะเลย ซึ่งเรายอมจ่ายนะ รูปสวยได้วิวหลักล้านขนาดนี้ มาทั้งทีต้องได้ภาพแบบคุ้ม ๆ

• ค่าเข้าไปถ่ายรูปคนละ 35,000 รูเปียห์

          ออกมาจาก Handara Gate ไม่ไกล เราก็จะเจอวัดสวยในดวงใจซึ่งถ้าหากลองเซิร์ทกูเกิ้ลว่าที่เที่ยวบาหลีต้องมีที่นี่ติดโผหน้าแรกแน่นอน เพราะวิววิหารกลางทะเลสาบบราตันของ Ulun danu beratan temple แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง แลนด์มาร์คของบาหลีเลยก็ว่าได้ แต่เดิมที่นี่เป็นศาสนสถานประกอบพิธีกรรมบูชาเทวีแห่งน้ำที่ชาวบาหลีนับถือและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของที่นี่คือเจดีย์กลางน้ำมียอดฉัตรสูง 11 ชั้น ฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ตัดกับทะเลสาบเบื้องหน้า สวยจนแทบหยุดหายใจ ซึ่งเราสามารถเช่าเรือเป็ดถีบเล่นกะหนุงกะหนิงกับแฟนหรือเช่าเรือพายแบบมีคนพายให้ไปถ่ายรูปกับเจดีย์ได้ เพิ่มความโรแมนติก 300%

• ค่าเข้าชม: คนละ 50,000 รูเปียห์ (ได้น้ำเปล่าแถมคนละ 1 ขวด)

          เราขอยกให้ที่นี่คือน้ำตกที่สวยอันดับต้น ๆ ในใจของเราเลย แม้ว่าจะต้องเดินเท้าเข้ามาประมาณ 15 นาที มีทั้งทางลงทางขึ้นพื้นดินพื้นหิน ลำบากไปบ้างแต่ข้างในคือวิวที่คุ้มค่าคุ้มราคาจนอยากจะเอาใส่ถุงกลับบ้านเสียเหลือเกิน ความเขียวความฉ่ำความเย็นชื่นใจทำให้เราหลงใหลเจ้าแอ่งน้ำเล็ก ๆ ที่รอรับสายน้ำใส ๆ ที่ตกมาจากข้างบนได้แบบมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ

          ถ้ามาวันฝนตกควรใช้ไม้เท้าค้ำยันเป็นตัวช่วยพยุงในการเดินด้วย เพราะทางค่อนข้างลื่นซึ่งตรงจุดสตาร์ทมีไม้ไว้ให้เลือกใช้ได้เลย และที่นี่ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาด้านขาและเข่า

• ค่าเข้าชม: คนละ 50,000 รูเปียห์

          วันสุดท้ายก่อนกลับขอตามใจตัวเองด้วยบีชคลับที่วิวสวยสับไม่มีหลับใน ณ โรงแรมดังของบาหลีที่มี IG Spot เยอะจนต้องรับเฉพาะลูกค้าที่จองเท่านั้น โดยสามารถเลือกวันและเวลาที่ว่างตรงกันได้เลย หลังจากทำการจองจะมีอีเมล์มาคอนเฟิร์มและแจ้งกฎต่าง ๆ ของสถานที่อย่างชัดเจน

          ทั้งนี้ที่นี่มีค่าเข้าชมคนละ 400,000 รูเปียห์ สามารถใช้เป็นเครดิตอาหารและเครื่องดื่มด้านในได้คนละ 300,000 รูเปียห์

• จองผ่าน https://bit.ly/3lqYmLo

          ในส่วนของสถานที่นั้นเราขอให้คะแนน 10 10 10 มีการจัดวางทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบ จัดที่นั่ง ที่ถ่ายรูป และกำหนดกฎระเบียบอย่างชัดเจน มุมถ่ายรูปไฮไลท์ก็จะมีสระว่ายน้ำที่เห็นวิวทะเลแบบแกรนด์สุด ๆ และมุมน้ำตกที่เมื่อโพสต์รูปแล้วต้องมีคนมาถามว่าตรงนี้คือส่วนไหนของบาหลี

          ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มนั้นค่อนข้างที่จะราคาสูงกว่าสถานที่อื่น ๆ แต่รสชาติดีและมีให้เลือกหลากหลาย การบริการดีมาก ถือได้ว่าเป็นการจบทริปอย่างสมบูรณ์แบบไปเลย