"3 วัน 2 คืน สุพรรณบุรี" ลาพักร้อน ไปนอนริมสระ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน ลาพักร้อนมีแค่ 3 วัน แต่รักของฉันนั้น มีให้เธอตลอดไป อึ๊ย!!! พักร้อนนี้โบว์ขอเลือกไปเที่ยวเมืองเหน่อ (สุพรรณบุรี) กันดีกว่า "3 วัน 2 คืน สุพรรณบุรี" ลาพักร้อน ไปนอนริมสระ สระที่ว่า คือ สระว่ายน้ำค่ะเพื่อนๆ อากาศร้อนๆแบบนี้ โบว์ขอเลือกที่พักติดสระว่ายน้ำ ลาหยุดทั้งที ขอแบบไม่เร่งรีบ หนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ มาสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเมือง ขับรถแบบปลอดภัย ทำบุญนิด กาแฟหน่อย นั่นแหละค่ะ!! พร้อมแล้วไปกันเลย!!!
เดินทางออกจากลำลูกกาคลอง 2 ปทุมธานีวันนี้ แบบสบายๆ ไม่ออกสายก็บ่ายๆเลยแล้วกัน ชิวมาก ไม่รีบค่ะ!! จากคลอง 2 ขับรถไปที่พัก "บ้านใกล้เรือนเคียง รีสอร์ท" ระยะประมาณ 100 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.
ก่อนเช็คอินเข้าที่พัก แวะกินข้าวเย็นกันที่ร้าน "น้องหมูก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก" ร้านนี้คนเยอะมาก เรียกว่ามีลูกค้าแวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบเปิดโล่ง โปร่ง นั่งสบาย โต๊ะนั่งเยอะ มีพัดลมเป่าให้ มาทานช่วงบ่าย อากาศไม่ร้อนแล้ว เมนูของร้านก็จะมีก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก (ทุกเส้น) ข้าวขาหมู เกี๊ยวทอด เล้งแซ่บและแคบหมู

เมนูที่สั่งเป็นข้าวขาหมู (พิเศษ), เส้นหมี่หมูน้ำตก, แคบหมูและเกี๊ยวทอด ได้ส่วนลดจากดีแทคไปอีก ด้านรสชาตินั้น ต้องบอกเลยว่า ข้าวขาหมูคืออร่อยมาก ยิ่งทานคู่กับพริกสดและกระเทียมมันเข้ากันมาก ทานจนกระเทียมเกือบหมดถ้วยแหน่ะ เนื้อขาหมูนุ่ม โดยเฉพาะหนัง เพิ่มคอลลาเจนกันเล็กน้อย ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกก็อร่อย น้ำซุปแทบไม่ต้องปรุง เกี๊ยวทอดก็กรอบ น้ำจิ้มเปรี้ยวอมหวานนิดๆ
ภาพรวมสำหรับมื้อนี้ อิ่ม อร่อย สมแล้วที่มีลูกค้าเข้าออกร้านตลอด เพราะอาหารของร้านเค้าอร่อยจริง ราคาไม่แพงด้วย
ระหว่างทางเข้าที่พัก มีถนนชื่อดังอย่าง "ถนนอาทิวราห์" เห็นเค้าว่า ถนนเส้นนี้ไม่ได้ทำชื่อถนนมาเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับตูน แต่ทำชื่อถนนขึ้นมาเพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งหมด ได้นึกถึงสิ่งที่ตูนทำ และสิ่งที่ตัวเองควรจะต้องทำอะไรยังไงให้กับสังคมบ้าง เป็นถนนที่ได้ข้อคิดในเรื่องการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

ได้เวลาเช็คอินแล้ว "บ้านใกล้เรือนเคียง รีสอร์ท" กันแล้ว
ห้องพักสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห่างจากหอคอยบรรหารแจ่มใสเพียง 3.8 กิโลเมตรเท่านั้น



ห้องพักแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ห้องแบบพูลวิวและห้องพูลไซร์ จำนวนทั้งหมด 12 ห้อง มี 2 ตึก ซ้ายและขวา ตรงกลางระหว่างทั้ง 2 ตึกเป็นสระว่ายน้ำ
- ห้องติดสระ ราคา 750.- บาท ไม่รวมอาหารเช้า
- ห้องชั้นสอง ราคา 700.- บาท ไม่รวมอาหารเช้า
ส่วนเราจองห้องข้างล่างไว้ติดสระว่ายน้ำไปเลยซิค่ะ ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อย่างแอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น โต๊ะเก้าอี้ น้ำดื่ม สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำ และ Wi-fi free

ไม่เคยได้ฟิวส์เล่นน้ำช่วงกลางคืนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ลงเล่นน้ำในสระในช่วงค่ำคืน แปลกดี ให้ความรู้สึกอีกแบบ เหมือนที่เค้าว่ากันว่า "ทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ แล้วจะได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้" รึปล่าวนะ?
เล่นน้ำกันเสร็จแล้ว ก็ขอพักร่างสักคืนนะ

เช้ามา เรายังคงลงเล่นน้ำกันต่อ เรียกว่าเช็คเอ้าท์สุดที่กี่โมง เราจัดเต็มเลยค่ะที่นี่ ชิวได้ ชิวเลย เล่นน้ำจนตัวเปื่อยกันไปเลย สามารถชมภาพและรีวิวที่พักเต็มๆ ได้ที่รีวิวนี้เลยนะคะ https://m.pantip.com/topic/41958724?

ครอบครัวสุขสันต์ แฮ้ๆ

ไว้เจอกันใหม่นะน้องเหมียวน้อย
หลังจากที่เช็คเอ้าท์เที่ยงกันแล้ว เราก็ขับรถไปที่อำเภอด่านช้าง แวะทานข้าวข้างทางกันสักพัก แล้วไปเช็คอินที่พัก "ด่านช้างกรีนวิวรีสอร์ท" ที่พักพร้อมสระว่ายน้ำอีกเช่นเคย
ระหว่างทางก่อนถึงที่พัก มีหอนาฬิกาบรรหาร-แจ่มใส ทำให้นึกถึงท่านบรรหารที่สร้างคุณประโยชน์มากมายให้กับจังหวัดสุพรรณบุรี สะอาด สวยงาม เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรีค่ะ

ถึงแล้วค่ะ ด่านช้างกรีนวิวรีสอร์ท ที่พักคืนที่สองของเรา

การเดินทาง :: เริ่มต้นกันที่สี่แยกหอนาฬิกา อำเภอด่านช้าง ตรงมาทางที่จะไปบึงฉวาก - อำเภอเดิมบางนางบวช ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วแยกซ้าย (ตรงข้าม รพ.ด่านช้าง) เข้าไปอีก 600 เมตร ด่านช้างกรีนวิวรีสอร์ทจะอยู่ขวามือ
ด่านช้างกรีนวิวรีสอร์ท รีสอร์ทที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นรีสอร์ทที่ครบครันในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมมากมายที่ให้เราได้สัมผัส บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับวันหยุดสุดพิเศษ มาได้ทั้งครอบครัว รวมถึงน้องหมาด้วยละค่ะ
ภายในบริเวณที่พักมีพื้นที่กว้างมาก บรรยากาศดี มีที่จอดรถสะดวกสบาย แต่กลางคืนอาจจะมืดสักหน่อย แต่ก็มีพนักงานบริการตลอด ชมบรรยากาศในช่วงดึกๆกันค่ะ
ช่วงดึกๆ สระว่ายน้ำยังเปิดให้บริการอยู่นะ แถมเปิดเพลงให้เราด้วย

นี่บ้านพักของเรา "สุพรรณิการ์ 1"
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ, โทรทัศน์, ตู้เย็น, ห้องอาบน้ำระบบน้ำอุ่น, Wi-fi และสระว่ายน้ำ
ในส่วนห้องพักมีให้เลือกเยอะ หลากหลายอารมณ์ รูปแบบและราคา ทั้งห้องพักเพชรน้ำหนึ่ง, บ้านโออิชิ, บ้านสุพรรณิการ์ 1 กับ 2, บ้านริมน้ำ, บ้านต้นน้ำ, บ้านนานา, บ้านชมจันทร์ และบ้านโซน C, D, E ราคาเริ่มต้นที่ 600.- บาท บอกเลยว่า... ถูกมากกก

เช้ามาชงกาแฟทานกัน เดินชมวิวรอบที่พัก ที่นี่ยังสามารถทำกิจกรรมอย่างปั่นจักรยานรอบที่พักได้อีกด้วยนะ เอาจักรยานมาเองก็ได้นะเออ คือดีไปอีกอะ
สำหรับคนที่รักสุนัข แต่ไม่มีที่พักสำหรับน้อง แต่ที่นี่ รองรับน้องด้วยนะ มีพื้นที่สนามหญ้าที่กว้างมากๆ เหมาะสำหรับน้องๆที่จะมาวิ่งเล่นได้อย่างสบาย ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ไม่มีสุนัขเจ้าถิ่น แถมงานนี้ พนักงานทุกคนรักสุนัขและอัธยาศัยดีอีกด้วยค่ะ

สนามหญ้าบนเนื้อที่ 27 ไร่ กว้างมากค่ะ เชื่อมต่อบ้านเกือบทุกหลัง คนรักต้นไม้จะมีความสุขมากและไม่ควรพลาดที่จะมาเช็คอินที่นี่ค่ะ ถ่ายภาพมาให้ชมไม่หมดจริงๆ มันกว้างมากค่ะ
บรรยากาศโดยรอบที่พักแบบคร่าวๆ

สระว่ายน้ำ ใหญ่และสะอาดมาก มีมาตรฐานในการรักษาและทำความสะอาด แบ่งสระเด็กกับผู้ใหญ่ มุมถ่ายรูปรอบสระเยอะมากค่ะ
เช้ามา ขอชิวด้วยการลงเล่นน้ำในสระอีกเช่นเคย
ภาพรวมสำหรับการเข้าพักที่รีสอร์ทนี้ เป็นการพักผ่อนที่ดีมากๆเลยละค่ะ บรรยากาศดี ที่พักดี การบริการดี Facilities ครบ จบในที่เดียว ไว้มีโอกาส จะกลับมาใช้บริการอีกค่ะ ได้เวลาเช็คเอ้าท์กันแล้วซิ!!

แวะไหว้พระกันต่อเลยมั๊ย เล็งวัดนี้ไว้นานมากแล้ว "วัดแค" ที่มีพระพุทธมงคล ชมและให้อาหารปลาคราป
"วัดแค" เป็นวัดเก่าแก่อีกหนึ่งวัดของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งวัดนี้มีปรากฏในวรรณคดี "ขุนช้างขุนแผน"
เมื่อเดินเข้ามายังวัด ภายในบริเวณวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีร้านค้าเยอะมาก ซึ่งเป็นตลาดชุมชนบ้านค่ายเก่า นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟ "ต่อบุญ" ที่ล้อมรอบไปด้วยบ่อปลาคราป สวยงามและร่มรื่น เป็นวัดสมัยใหม่ที่ยังคงผสมผสานความเป็นโบราณอยู่

ส่วนภายในวิหารมหาอุตม์ ประดิษฐาน "พระพุทธมงคล" เป็นพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 109 นิ้ว สร้างมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์
เดินมาชมด้านข้างของวัด จะมีร้านกาแฟต่อบุญ หน้าร้านมีปลาคราปเต็มไปหมด สามารถให้อาหารน้องได้ด้วยนะ

"กาแฟต่อบุญ Torboon Coffee" อิ่มบุญกันแล้ว มาอิ่มอกอิ่มใจกันต่อที่ร้านกาแฟของทางวัดกันค่ะ บรรยากาศภายในร้าน มีทั้งในห้องแอร์และโซน Open air ด้านในร้านตกแต่งเรียบง่าย เป็นกระจกรอบด้าน นั่งมองชมต้นไม้ได้ มีทั้งโต๊ะเก้าอี้และเก้าอี้บาร์ยาวหันหน้าไปทางบ่อปลา
เมนูของร้านก็จะเป็นพวกกาแฟสด นมสด ชา โกโก้ มีทั้งร้อนเย็นและปั่น ราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 35.- บาท ราคาไม่แพงเลย
ลองสั่งเอสเปรสโซ่เย็นหวานน้อยมาชิมดู เป็นเอสเปรสโซ่เย็นที่รสชาติดี นุ่ม ไม่เข้มมาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นจิบกาแฟ ราคาไม่แพงเลย

ใครที่แวะมาเที่ยวสุพรรณ แนะนำไหว้พระขอพรที่วัดแคนี้เลยค่ะ เป็นวัดที่สวย พื้นที่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น มีร้านกาแฟและบ่อปลาคราป ครบจบในที่เดียว

ขับรถออกมาได้สักพัก ดั๊น...มาเจอฟิวบรรยากาศทุ่งนาอันเขียวขจี สีเหลืองทอง ส๊วยสวย อดใจไม่ไหว ขอจอดรถ สูดอากาศบริสุทธิ์กันหน่อยนะ
ข้าวออกรวง สวยงาม กลิ่นข้าวหอมมะลิลอยมาแต่ไกล (นี่เราหิวข้าวหรอ)

มาต่อกันที่ร้านอาหารกันบ้าง กับร้านนี้เลย "ร้านต้นข้าวหมูแดง" ที่ตั้งอยู่บนถนนด่านช้าง 1 แยกหอนาฬิกาบรรหาร-แจ่มใส บรรยากาศภายในร้านเป็นห้องแถว มาทานช่วงเช้าอากาศกำลังดี ไม่ร้อน มีโต๊ะนั่งเยอะ เดินเข้าไปนี่ อื้อหือ คนทานเยอะมาก เกือบไม่มีที่นั่ง
เมนูที่สั่งเป็นข้าวหมูแดงหมูกรอบ, เกี๊ยวน้ำ, บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง และข้าวเปล่า 1 จาน ราดน้ำหมูแดง ส่วนรสชาตินั้น ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ราดน้ำมาแบบฉ่ำๆ หวาน หอม อร่อย หมูกรอบคือดี หมูแดงก็อร่อย ทานกับต้นหอมเข้ากันดีมาก ส่วนบะหมี่เกี๊ยว น้ำซุปอร่อย ไม่ต้องปรุงก็ทานได้ เลยสั่งเกี๊ยวน้ำมาอีก 1 ที่ ตัวเกี๊ยวชิ้นใหญ่ดี เนื้อแน่น อร่อย ปรุงรสตามชอบได้เลย ให้เยอะด้วย ภาพรวมสำหรับร้านนี้ ฝากท้องได้เลยค่ะ การันตีจากลูกค้าที่เข้าร้านเยอะมากขนาดนี้ อร่อยจริง ราคาไม่แพง ให้เยอะ สะอาดและพ่อค้าบริการดีมาก
เมนูของร้านมีแค่ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงและเกี๊ยวน้ำ ราคาไม่แพง ส่วนน้ำดื่มบริการตัวเอง ฟรี!! ค่ะ

วันนี้คุณดื่มกาแฟแล้วรึยัง? ถ้ายัง แวะเลย ร้านกาแฟ 599 Cafe ที่บอกเลยว่าราคาไม่แพงแถมอร่อยและรสชาติดีมาก ด้วยตัวร้านที่ตกแต่งสไตล์มินิมอล โทนสีขาวน้ำตาล เรียบง่าย แต่น่ารัก เมนูของร้านก็จะเป็นพวกกาแฟสด เมนูชา มีทั้งร้อนเย็นและปั่น ราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 30.- บาทเองค่ะ

เมนูที่สั่งเป็นเอสเปรสโซ่เย็น (หวานน้อย) รสชาติดีมาก หอมกาแฟ กลมกล่อม ไม่เข้มมากจนเกินไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแก้วโปรดเลยค่ะสำหรับร้านนี้
ภาพรวมสำหรับคาเฟ่ 599 แม่ค้าบริการดีมาก กาแฟสดอร่อย ราคาไม่แพง ตัวร้านตกแต่งสวย น่านั่ง ไว้จะแวะไปอีก คริๆ

มาต่อกันที่วัดนี้เลย ขับรถมาไม่ไกลจากที่พักมากนัก "วัดเขากำแพง" ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2430 เป็นวัดเก่าแก่ มีพื้นที่ 23 ไร่ มีซากเจดีย์ และวิหารเก่าอยู่บนยอดเขา ซึ่งมีอายุราวประมาณปี 2508 ได้ ภายในบริเวณวัดมีพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ มีหอไตรกลางน้ำ กุฏิรองรับทรงไทย โรงครัว ศาลาธรรมสังเวช หอสวดมนต์ กุฏิพระภิกษุสามเณร เมรุวัดและศาลาสวดอภิธรรม

รอบวัดพื้นที่ค่อนข้างกว้างมาก เนื่องจากอยู่บริเวณตีนเขา ทำให้เหมาะแก่การถ่ายรูปและทำกิจกรรมต่างๆ
ไฮไลต์ของที่นี่ คือ การเดินบันไดขึ้นไปบนเขา ซึ่งมีโบราณสถานตั้งอยู่ อย่างเจดีย์และวิหารเก่า บนเขามีเจดีย์ทรงระฆังสมัยอยุธยา เจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส วิหารขนาดเล็กที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ หันไปทางพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก

สอบถามลุงในวัด เห็นว่ามีปล่องภูเขาไฟ เค้าบอกว่า ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดทางด้านซ้ายมือ เป็นปล่องเล็กๆที่ถูกปิดไปแล้วดีนะไม่เดินขึ้นเขาไปหาปล่องภูเขาไฟ ไม่งั้น เหนื่อยแย่เลย


สุดท้ายคือ ฆ้องที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งตระหง่านอยู่ด้านในวัด ทั้งใหญ่และสวย สมกับเป็นฆ้องที่งดงามและใหญ่ที่สุดของวัดและของจังหวัดสุพรรณบุรีจริงๆค่ะ

จบแล้วค่ะสำหรับทริป 3 วัน 2 คืน สุพรรณบุรี นอนชิวๆริมสระ เที่ยวไม่เยอะ ไม่รีบร้อน เน้นพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามและอ่านจนจบนะคะ ไว้โบว์ไปเที่ยวไหนอีก จะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ วันนี้ต้องลาไปก่อน บับบาย.....
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่