พานั่งรถไฟเที่ยวเยอรมันเส้นทางเทพนิยายกริมม์ (Germany's Fairy Tale Route)
เชื่อว่าเด็กหญิงชายทั่วโลก รวมทั้งพวกเราทุกคน คงไม่มีใครไม่รู้จักนิยายปรัมปราอย่างเจ้าหญิงนิทรา ซินเดอเรลลา สโนไวท์ ราพันเซล หนูน้อยหมวกแดงที่สรรค์สร้างจากสองพี่น้องตระกูลกริมม์
และรู้หรือไม่ว่า เราสามารถนั่งรถไฟเที่ยวเส้นทางนี้ได้โดยไม่ต้องเช่ารถขับด้วย
เส้นทางนี้ยาวกว่า 600 กม. เริ่มต้นจากเมือง Hanau, Marburg, Kassel, Hannover ยาวไปจนถึงเมือง Bremen
จุดกำเนิด Germany's Fairy Tale Route
เรื่องราวทั้งหมดมาจาก The Brothers Grimm 2 พี่น้องตระกูลกริมม์
เจค็อบ ลุดวิจ กริมม์ & วิลเฮล์ม คาร์ล กริมม์ สองพี่น้องผู้หลงอยู่กับนิยายพื้นบ้าน จนสามารถรวบรวมเรื่องราวเทพนิยาย และเรื่องเล่า นิทานพื้นบ้านจากที่ต่างๆ จนโด่งดัง และถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลก
จากนั้น วอลต์ ดิสนีย์ จึงนำมาทำเป็นหนังการ์ตูนจนดังเป็นพลุแตก และดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง (Live action) ถึงทุกวันนี้
เจค็อบเน้นที่งานวิจัย ส่วนวิลเฮล์มทำหน้าที่ปะติดปะต่อเรื่องราว นำมาประพันธ์ใหม่ในรูปแบบวรรณกรรมและเขียนบรรยายในลักษณะของนิทานเด็ก ปัจจุบันรูปปั้นของ 2 คนนี้ ตั้งอยู่กลางจัตุรัสในเมืองฮาเนา
เริ่มต้นการเดินทาง
เราสามารถนั่งรถไฟจาก Frankfurt ไปเมือง Hanau แล้วเริ่มเที่ยวจาก Hanau ตรงไปเรื่อยๆ ทีละเมืองจนถึง Bremen ได้เลย
แพลนรถไฟ 5 เมืองใน Germany's Fairy Tale Route ตามลำดับ ดังนี้
- Hanau
- Marburg
- Kassel
- Hannover
- Bremen
โดย content นี้แอดขอพาชม 4 เมืองแรก (ไม่มี Bremen เพราะแอดมีเวลาเที่ยวไม่พอ รายละเอียดต่างๆ เขียนใต้ภาพนะครับ)
ที่นี่เป็นบ้านเกิดของพี่น้องกริมม์ มีจุดขายคือบ้านโบราณกึ่งไม้ ที่เรียกว่า half-timber house มีปราสาทหินเก่าๆ เป็นเสน่ห์เมืองชนบทที่เป็นฉากต่างๆในนิทานกริมม์
สถานที่แนะนำ
1) Brothers Grimm Monument อนุสาวรีย์พี่น้องกริมม์แห่งนี้อยู่รอบๆ market square ตลาดนัด และแหล่งนัดพบของชาวเมือง รูปปั้นนี้ทำจากทองสำริดสูงเกือบ 6.5 เมตร โดยมี Wilhelm นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมหนังสือเล่มใหญ่บนตัก และมี Jacob ยืนอยู่ข้างๆ
2) Wilhelmsbad Park สวนสวยที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ภายในมีพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา Hessien Doll Museum ซากปราสาทเก่า บ้านโบราณ ม้าหมุน ลานน้ำพุ เอาจริงๆ คือกว้าง และเดินเพลินมาก
3) ปราสาทฟิลลิปส์ชลัวร์ (Castle Philippsruhe) พระราชวังเก่าแก่ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1701 ภายในตกแต่งได้โอ่อ่าอลังการและล้อมรอบด้วยสวนสวย
4) บ้านโกลด์สมิธ (German’s Goldsmith’s House) ศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ช่างทองและอัญมณี ตัวอาคารเป็นไม้ขาวตัดขอบเป็นตารางสีแดงทั้งหลัง สวยชนิดที่เรียกว่าเป็น The must ของเมืองนี้ที่ต้องมา
เป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Philipps-Universität Marburg ที่สองพี่น้องตระกูลกริมม์ได้เข้าไปศึกษา พวกเขาเริ่มรวบรวม เรียบเรียง และจัดพิมพ์นิทานพื้นบ้านขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองนี้เมื่อ 200 ปีก่อน
สถานที่แนะนำ
1) เส้นทางเดินแห่งเทพนิยายกริมม์ (Grimm Path) เส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่ตั้งของปราสาท บ้านเรือน และที่เที่ยวแห่งเทพนิยายกริมม์
2) ปราสาทมาร์เบิร์ก (Marburger Schloss) ปราสาทเก่าแก่บนเนินเขาที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11
3) The Marktplatz ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านรวงและคาเฟ่ อดีตเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดตลาดคริสต์มาสประจำเมือง และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อีกมากมาย
แม่น้ำ Lahn ที่ตัดผ่านเมือง เส้นทางธรรมชาติที่เห็นปราสาทอยู่บนเขา
ส่วนหนี่งของมหาวิทยาลัยในเมือง Marburg
หมู่บ้านน้อยใหญ่ที่มีบรรยากาศเหมือนฉากในนิทานกริมม์
ปราสาทมาร์เบิร์ก (Marburger Schloss) ปราสาทเก่าแก่บนเนินเขาที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11
The Marktplatz ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านรวงและคาเฟ่ อดีตเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดตลาดคริสต์มาสประจำเมือง และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อีกมากมาย
Half-timbered house เป็นบ้านที่ก่อสร้างในแบบโบราณตั้งแต่ในสมัยยุโรปยุคกลาง โครงสร้างหลักเป็นไม้เนื้อแข็ง และข้อต่อยึดด้วยหมุดไม้ขนาดใหญ่ ผนังภายนอกและภายในของบ้านเป็นไม้ ประกบกับกำแพงของบ้านที่เป็นอิฐ หรือหิน ซึ่งมีความคงทนและอยู่ได้เป็นร้อยปี
ที่นี่เป็นสถานที่ที่ 2 พี่น้องเริ่มทำงานเกี่ยวกับ “นิทานสำหรับเด็ก และครอบครัว” จึงจัดเป็นศูนย์กลาง และไฮไลท์เด่นของเส้นทางเทพนิยายกริมม์ เป็นเขตมรดกโลก และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์กริมม์อีกด้วย
สถานที่แนะนำ
1) สวน Bergpark Wilhelmshöhe กว้างใหญ่มาก ถ้ามีเวลาและชอบธรรมชาติ จะฟินสุดๆเมื่อมาเที่ยวที่นี่
2) ปราสาทวิลเฮล็มชอว์ (Schloss Wilhelmshöhe) ปราสาทสไตล์นีโอคลาสสิกเก่าแก่แห่งศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
3) ปราสาทโลเวนเบิร์ก (Löwenburg Castle) สร้างด้วยสไตล์ศิลปะบาโรคในยุคเมดิอีวัล
4) พิพิธภัณฑ์กริมม์ (Grimm World) พิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บและจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของกริมม์
เมืองนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ ปราสาท คฤหาสน์ และสวนสวยๆ หลายแห่ง
สถานที่แนะนำ
1) ศาลาว่าการเมืองใหม่ (New Town Hall) ที่ดูยังกะปราสาทในเทพนิยาย สวยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
2) เขตเมืองเก่า เป็นศูนย์รวมของอาคารเก่าแก่ เดินชิลๆ เก็บภาพเพลินมาก
3) เขตตลาดเก่า (Marketplace) เขตตลาดสินค้าเก่าแก่ของเมือง เป็นจุดนัดพบและเป็นแหล่งอาคารเก่าๆ สวยๆ ทรง half-timbered
เส้นทางสรุปตามลำดับในภาพคือ เริ่มต้นจากเมือง Hanau (ใกล้ Frankfurt)
- A = Marburg
- B = Kassel
- C = Hannover
- D = Bremen
แอดแนะนำ
- ทุกเมืองต้องมีเวลาอย่างน้อย 1 วัน
- เลือกแวะค้างเมืองใดเมืองหนึ่ง โดยเลือกว่าจะต้องเปลี่ยนที่นอนทุกคืนไปเรื่อยๆ หรือเดินทางกลับไปกลับมา เพราะเมืองมันต่อกันไปเรื่อยๆ
- เมืองที่แอดชอบที่สุดคือ Marburg ควรนอนค้างเมืองนี้ ที่เที่ยวเยอะทั้งปราสาท เมืองเก่า มหาวิทยาลัย เส้นทางเดินชมธรรมชาติ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่