19 จุดเช็คอินใน LA เที่ยวเองได้ไม่ต้องเช่ารถ
ใครไปเที่ยว LA ต่างก็บอกว่าต้องเช่ารถ จะขับเอง หรือเช่ารถพร้อมคนขับ ใดๆก็คือต้องเช่ารถเที่ยว
แต่สำหรับคนเที่ยวคนเดียว หรือ 2 คนแต่ไม่ถนัดขับ หรือไม่ไหวกับราคาที่จะเช่ารถพร้อมคนขับ ก็อาจคิดว่าเที่ยว LA ไม่ได้...
มาครับ...วันนี้ผมจะบอกเพื่อนๆว่า...
LA เที่ยวเองได้ด้วยรถสาธารณะนี่แหละครับ ไม่ได้ยุ่งยาก ไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้ลำบากอย่างที่เค้าว่ากัน แถมประหยัดเงินได้มาก ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอด รถติด รวมถึงโจรทุบรถด้วย
และต่อไปนี้คือ 19 landmark ใน LA ที่นั่งบัส/ เมโทรไปเองได้เลย ไปคนเดียวสบายมาก ผมไปกับแม่อายุ 84 นั่งวิลแชร์ยังไปได้เลย...
1. Walk of fame
มา LA แล้วไม่มา Walk of fame คือมาไม่ถึง LA เรียกว่าเป็น landmark ของเมืองได้เลยล่ะ ทั้ง TCL Chinese theater, Dolby Theater สถานที่ประกาศรางวัลออสก้า, พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซ่, รอยประทับฝ่ามือ-ฝ่าเท้าของเหล่าเซเล็บ
แถวนี้จะมีทัวร์ให้เลือกหลายแบบสำหรับคนเที่ยวแบบมีเวลาจำกัด หรือบัสแบบ hop on hop off แต่ราคาไม่ถูก ถ้ามีเวลา ผมแนะนำเที่ยวเองประหยัดกว่าครับ
2. Beverly Hill Sign
หมู่บ้านหรูหราไฮโซของเซเล็บดังในฮอลลิวูด เอาจิง ก็ไม่มีอะไร แค่มันดูสวยสะอาดตา แตกต่างจากพื้นที่ส่วนอื่นของแอลเอ หากสนใจ ผมแนะนำให้ซื้อทัวร์นั่งรถเยี่ยมชมบ้านดาราดังได้ ใช้เวลาราว 1-1.30 ชม. บู๊ทขายตั๋วจะอยู่แถว walk of fame เดินไปสอบถามราคา และรอบเวลาได้เลย
3. Rodeo drive
ถนนชอปปิ้งแบรนด์เนมที่คลาคล่ำไปด้วย นทท กระเป๋าหนัก ไม่ไกลจาก Beverly Hill Sign ความสวยไม่เท่าไหร่ แต่ความหรูหราคือที่สุด
4. The Grove
เอ้าเล็ทชิคๆชิลๆ ที่เดินทางไม่ยาก มีทั้งร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหารฟิลสบายๆ มีน้ำพุ มุมพักผ่อนสไตล์คนชอบชอปปิ้ง แล้วมาจิบชา กาแฟชิลๆ
5. Farmer Market
ตลาดสดนั่นแหละ แต่ค่อนข้างสะอาด มีร้านขายอาหารในราคาไม่แพง ใครอยากหาที่กินในราคาประหยัด และหลากหลาย ผมแนะนำมาฝากท้องที่นี่
6. LACMA
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ แต่จุดขายคือประติมากรรมเสาไฟเป็นร้อยต้นหน้าพิพิธภัณฑ์ เก๋ไก๋แปลกแหวกแนวจนใครเดินผ่านก็ต้องแวะถ่ายรูป สวยทั้งกลางวัน และกลางคืน
7. Page museum
ภายในจัดแสดงซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ในยุคน้ำแข็ง แต่ด้านนอกมีรูปปั้นแมมมอสที่เหมือนกำลังแช่ในแอ่งน้ำ แต่แท้จริงแล้ว มันคือบ่อน้ำมันดินที่มีอายุมากกว่า 10,000 ปี สถานที่โคตรอะเมซซิ่งทางภูมิศาสตร์และธรณีศาสตร์ หากมีเวลา แนะนำให้เข้าชมภายใน เป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ในยุค ice age ได้ดีมาก
8. Angel flight
สถานที่เช็คอินแห่งใหม่ของแอลเอ สำหรับคอหนัง La La Land มันเป็นรถรางขึ้นเขาสายสั้นสีส้มจี๊ด ใครเข้ามา downtown แล้ว แวะมานั่งเล่นๆได้
9. Griffith Observatory
หอดูดาว และนิทรรศการทางดาราศาสตร์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในมีทั้งเรื่องราวของอวกาศ ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ อุกกาบาตทั้งแบบจับต้องได้ และใส่ตู้ มีเครื่องชั่งน้ำหนักถ้าเราอยู่บนดวงจันทร์ มีกล้องโทรทรรศน์ของจริงที่ติดตั้งบนหอคอย หันกล้องขึ้นฟ้าเพื่อจับปรากฏการณ์ทางอวกาศตลอดเวลา และอีกมากมาย สำหรับเด็กๆ หรือคนชอบอะไรแนวนี้ หมดเวลาไปครึ่งค่อนวันได้เลย
10. Hollywood Sign
อยู่บนเนินเขา Lee ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Hollywood Hills สัญลักษณ์ของวงการภาพยนตร์ สามารถขับรถ หรือซื้อทัวร์ไปชมในระยะประชิด แต่สำหรับคนเที่ยวเอง งบน้อย สามารถถ่ายได้จาก walk of fame หรือหอดูดาว Griffith Observatory ก็ได้ ในภาพผมถ่ายจากหอดูดาว Griffith Observatory ครับ
11. LA View Point
จุดชมวิวเมือง LA จากมุมสูง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล เพราะมันก็อยู่ตรงหอดูดาว Griffith Observatory นั่นแหละครับ เรียกว่ามาทีเดียว ก็ได้ชมทั้งป้าย Hollywood Sign และจุดชมวิวเมือง LA ในคราวเดียวเลย
12. Santa Monica
ที่นี่เป็นอีกที่ที่ต้องมา เมื่อมา LA แม้จะไกลหน่อย แต่ยืนยันว่านั่งบัสมาเองได้ เป็นทั้งสวนสนุก ชายหาด ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และที่นั่งฟลอเรสกั๊มเป็นกิมมิคของคนที่ต้องการตามรอยหนังดังให้ถ่ายรูปด้วย ยัง ยังไม่จบ..ที่นี่ยังเป็นจุดสิ้นสุดของถนนที่ดังที่สุดของอเมริกา นั่นคือ Route66 ถนนที่ตัดขวางประเทศด้วยระยะทางที่ยาวที่สุด ผ่าน 8 รัฐ 3 เขตเวลา
มาเดินที่นี่ จะนึกถึงหนังสวนสนุกของฝรั่งเวลาเราดูหนังตอนเด็กๆ มันฟิลกู๊ด ถ้าถามผม บอกเลยว่า ใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน มันเพลินและไม่น่าเบื่อ
13. Third Street
อยู่ไม่ไกลจากหาดซานต้าโมนิก้า เป็นถนนเส้นยาวๆ เดินสบาย ฟิลเอ้าเล็ต มีร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร คาเฟ่ มุมถ่ายรูปชิลๆ ผมแนะนำนั่งบัสมาลงเดินเที่ยว Third Street ก่อน แล้วค่อยเดินไปหาด
14. Malibu Pier
ไหนๆก็ถ่อมาถึงซานต้าโมนิก้า ก็นั่งบัสไปอีกนิด (ราว 30 นาที) ก็ถึงหาดมาลิบู จุดที่ผมแนะนำคือ ปักหมุด google map ไปที่ Malibu Pier วิวสวย มีร้านอาหาร คาเฟ่นิดหน่อย แต่บรรยากาศดีมาก คนน้อย คนละฟิลกับ Santa Monica อย่างสิ้นเชิง
15. Venice beach
จากซานต้าโมนิก้า เราสามารถนั่งบัสไป Venice beach ได้ไม่ไกล ผมแนะนำจบวันที่นี่ แสงทไวไลท์ที่สาดลงต้นปาล์ม ทรายชายหาดคือสวยจึ้ง เดินชมแสงยามเย็น ดูเด็กวัยรุ่นมาประชันกันที่ลานสเก็ตบอร์ด ครอบครัวพาเด็กเล็กมาเดินเล่น บรรยากาศดีมากจริงๆ
16. Disney Concert Hall
โรงคอนเสิร์ตที่มีรูปร่างประหลาดตา อยู่ติดกับ The Broad จริงๆ ภายในสามารถซื้อตั๋วพร้อมไกด์เข้าชมได้ แต่ผมแค่แวะมาถ่ายรูป เห็นว่ามันแปลกตาดี
17. The Broad
มันคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ภายนอกอาคารที่เรียกว่า The Veil ทำมาจาก Fiber glass reinforced concrete ที่มีลักษณะคล้ายรังผึ้ง จำนวนถึง 2,500 ชิ้น ซึ่งช่วยกรองแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในห้องจัดแสดง ไม่ให้โดนงานศิลปะมากเกินไป
18. Cecil hotel
นี่คือ รร ที่ติดอันดับหลอนมากที่สุดในอเมริกา สร้างมาตั้งแต่ปี 1924 แต่ที่หลอนคือ มันเป็น รร ที่ดันเกิดคดีฆาตกรรม 80 กว่าคดี ทั้งกระโดดตึกลงมาลวงมาฆ่-า, ฆ่-าตัวตา-ย, รวมถึงฆาต-กรรมปริศนาที่ไม่รู้เกิดจากอะไร แล้วหลายคดีก็ปิดไม่ลง
มันทั้งเฮี้ยน ทั้งหลอนมากจน Netflix เอาไปทำเป็นซีรีย์ "The Vanishing at the Cecil Hotel" และพวกรายการล่าท้าผี มาถ่ายทำเยอะมาก
มา..จะเล่าให้ฟัง 1 คดี (เขียนยาวไปกลัวจะอ่านไม่จบกัน 5555)
นั่นคือคดีสะเทือนขวัญจากการหายตัวของ นศ.สาว Elisa Lam ภายในโรงแรมแห่งนี้ โดยเบาะแสครั้งสุดท้ายของเธอคือคลิปจากกล้องในลิฟต์ ที่พบเห็นเธอแสดงอาการแปลกๆ ขณะกดใช้ลิฟต์ความยาวประมาณเกือบ 4 นาที เหมือนคุยกับใครสักคนที่มองไม่เห็น เดินเข้าๆออกๆ เหมือนหลบอะไรบางอย่าง
ในช่วงท้ายคลิปเธอออกจากลิฟต์และเดินไปทางซ้าย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย กระทั่งหลายวันต่อมา...
มีลูกค้า รร ไปแจ้งกับ พนง ว่าน้ำอาบ และน้ำดื่มในห้องพัก ทำไมมีกลิ่นเหม็นเน่า ทาง รร จึงทำการตรวจสอบแท็งน้ำบนดาดฟ้า แล้วก็พบร่างของเธอในนั้น บอกตามตรง ย่านนี้คือย่านต้องห้ามสุดหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไม่รู้จะกลัว Homeless หรือโจรหรือผีดี แต่ที่รู้ๆ วันนี้แค่เดินเฉียด ก็พองขนไปหมด
จริงๆ รร นี้มีแพลนจะเปิดเมื่อตุลาปีที่แล้ว แต่นี่มาวันนี้ ก็ยังเห็นปิดร้างอยู่ ละดูหน้าต่างบางชั้นดิ เปิดอยู่ บางห้องมีผ้าแขวนด้วยซ้ำ
อิเชี่ยย...รร ด้านล่างประตูปิดตาย ร้างและโทรม แต่เงยหน้ามองบางห้องในตึก ทำไมเหมือนมีคนอยู่
ใครอยากล่าท้าลอง รอ รร เปิดนะ แล้วมาพักดูสักคืน ตอนนี้เปลี่ยนชื่อ รร เป็น "Stay on main" แล้ว แต่ก็มินำพา ความหลอนตราตรึงมาก นี่ขนาดเลือกมาช่วงบ่ายๆ
ใคร Sense แรง หรืออยากมาลองของ เชิญฮะ..!! แล้วมาเล่าให้ฟังด้วย (ถ้าไม่โดนอะไรเล่นงานก่อนรุ่งเช้านะ)
19. Thai town
ปิดท้ายทริปด้วยการมาหาอาหารไทยแซ่บๆกิน นี่คือไทยทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา อาหารไม่ต้องพูดถึง จัดจ้านแซ่บเหมือนนั่งกินอยู่ในไทย แต่ราคาอเมริกานะ
การเดินทาง
แนะนำ Tap card (แบบ 7 วัน) ใช้แบบ unlimited ไปเลย ผมใช้แค่ 5 วันยังคุ้ม โดยสารได้ทั้งบัส และรถไฟใต้ดิน นำทางด้วย google map จะบอกหมดทั้งรอบรถไฟ รอบรถบัส สายไหน ลงไหน ต่อไหน สะดวกมากครับ (บัสมีดีเลย์บ้าง แต่ไม่เยอะ)
แอดแนะนำ
1. หลีกเลี่ยงรถไฟใต้ดินสายสีแดง union station มันสกปรก และน่ากลัว แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ขึ้นได้ ถือว่าซื้อประสบการณ์ มันแย่แหละ แต่ก็ไม่ขนาดห้ามขึ้น
2. หากเข้ามาในเขต Downtown ให้ระวังตัวให้มากกว่าปกติ เพราะโฮมเลสเยอะ คนสติไม่ดีก็เยอะ ส่วนตัวกลัวคนสติไม่ดีมากกว่าโฮมเลส
3. ทั้งหมดนี้ผมใช้เวลา 5 วัน พักแถบ Korean town ปลอดโฮมเลส เพื่อนๆ สามารถเลือกจิ้ม แล้วเที่ยวตามที่ชอบเลยได้เลยนะครับ มีทั้งชอปปิ้ง มิวเซียมศิลปะ วิทยาศาสตร์ โรงละคร ชายหาด สวนสนุก ตลาดท้องถิ่น ตามรอยภาพยนตร์ แม้กระทั่งตามรอยคดีฆาตกรรมลึกลับ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่