เจาะลึก 3 เรื่องลับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

Inkwhereigo

ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวและอาหาร ชอบออกไปหาสถานที่ใหม่ ๆ และชอบไปคาเฟ่ หาขนมอร่อย ๆ กิน

          ชวนเจาะลึก เรื่อง(ไม่)ลับ เขาใหญ่ จะมีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไรบ้าง สายท่องเที่ยวห้ามพลาด
เขาใหญ่

          เมื่อเรามีโอกาสได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสักแห่ง พร้อมกับได้ฟังเรื่องเล่าของสถานที่นั้น ๆ ยิ่งทำให้เราเกิดความสนุกในการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และวันนี้แอดจะพาทุกคนไปเจาะลึก 3 เรื่องลับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลย

3 เรื่องลับของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

1. จระเข้เขาใหญ่ ที่งาบขานักท่องเที่ยว มายังไง ปัจจุบันอยู่จุดไหน

          ครั้งแรกที่พบจระเข้ในเขาใหญ่ จำนวน 2 ตัว เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้ ลำน้ำสายลำตะคอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยไว้เพื่อศึกษาวิจัยพฤติกรรมของจระเข้ต่อไป

          โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นและคาดการณ์ที่มาของเจ้าจระเข้นี้ว่า มาจากการที่นักท่องเที่ยวนำมาปล่อยในเขตอุทยาน นอกจากนี้ยังมีสัตว์แปลกถิ่นชนิดอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น กระต่าย, เม่น และกระรอก ซึ่งสาเหตุที่นำมาปล่อยมาจากความเชื่อที่ว่า จระเข้มีผนังแบ่งกั้นหัวใจเป็น 4 ห้อง ถ้าปล่อยจระเข้จะทำให้ไม่เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ หรือหากเป็นอยู่ก็สามารถหายจากโรคได้ ตั้งแต่ปี 2550 ที่ข่าวเริ่มกระจายไปต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เพราะอยากมาชมเจ้าจระเข้ตัวเป็น ๆ นั่นเอง

เขาใหญ่

(ในรูป ไม่ใช่ตัวจริงแต่อย่างใด )

          แล้วจระเข้ไปงับขานักท่องเที่ยวได้ยังไงล่ะ ? งับที่ไม่ใช่คำทักทายแต่อย่างใด (ฮ่า ๆ) แต่หมายถึงการลงเขี้ยวไปยังเป้าหมาย ซึ่งเป็นขาของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างเส้นทางสำรวจธรรมชาติเส้นน้ำตกเหวสุวัตและผากล้วยไม้ มีจระเข้นอนอ้าปากผึ่งแดดอยู่ริมน้ำ หน้าตาดูเป็นมิตร คล้าย ๆ จระเข้แสดงโชว์ในฟาร์มพัทยา ยิ้มให้นักท่องเที่ยวหลายรายที่เดินผ่าน นักท่องเที่ยวก็เลยหลงกลแอบย่องเงียบเข้าไปเซลฟี่ใกล้ ๆ สุดท้ายน้องยิ้มเย้ามาคลอเคลียงับน่องเข้าไปหนึ่งที จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตในปี 2560

          ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้มีการเตือนกันหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว จนมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการย้ายจระเข้ที่อยู่ในเขาใหญ่ออกนอกพื้นที่ไปเรียบร้อย

เขาใหญ่

2. ทำไมมะพร้าวเป็นสิ่งหวงห้าม ณ โรงอาหาร ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่

          ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ นับเป็นศูนย์กลางต่าง ๆ ทั้งเรื่องการติดต่อจ้างรถนำเที่ยวสำหรับส่องสัตว์ช่วงเย็น และติดต่อขอเจ้าหน้าที่สำหรับเดินนำสำรวจสัตว์ป่าและพรรณพืช ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติ เมื่อผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มาแล้ว หากได้น้ำมะพร้าวเย็น ๆ สักลูกก็คงจะทำให้ชื่นใจไม่น้อย

          แต่ก็เกิดเหตุที่ชวนให้คนทั้งโรงอาหารแตกตื่น เนื่องจากมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง กำลังรับประทานอาหารกันตามปกติอยู่ในโรงอาหาร สักพักมีเสียงตุ้บและหัวของเพื่อนร่วมทริปคนหนึ่งก็จุ่มลงไปในจานข้าว พร้อมกับพบลูกมะพร้าวที่ถูกกินน้ำจนเกลี้ยงแล้ว กลิ้งกุก ๆ อยู่ที่พื้น

เขาใหญ่

          ใช่แล้ว.. มะพร้าวตกใส่หัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรล่ะ ? มันเกิดจากเจ้าลิงนั่นเอง เพราะมันไปขโมยมะพร้าวจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมา แล้วปีนขึ้นไปบนเพดาน เพื่อดื่มด่ำกับมะพร้าวที่ขโมยมาได้ ด้วยนิสัยของลิงพอกินเสร็จปุ๊บ ก็จะโยนทิ้งลงมาทันที เรียกได้ว่า "โยนหมดไม่สนหัวใคร" และจุดที่ทิ้งลงมาดันเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่งอยู่พอดิบพอดี

          ตั้งแต่นั้นมา ทำให้ที่โรงอาหารในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ไม่มีมะพร้าวเป็นลูกขายอีกเลย แต่ในจุดอื่น ๆ ของเขาใหญ่ หากไม่มีลิงก็ยังหาซื้อมะพร้าวเป็นลูก ๆ ได้เช่นเดิม.. ใครเคยเจอ วีรกรรมแสบ ๆ ของเจ้าแห่งโรงอาหาร มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะ

เขาใหญ่

เขาใหญ่

3. อันตรายจากสัตว์เลี้ยงภายนอก กับโศกนาฏกรรมของหมูป่านับพัน

          ราวปี 2534 ใครที่ไปเขาใหญ่ในช่วงนั้น คงมีโอกาสได้เห็นหมูป่าน้อยใหญ่ วิ่งตามกันต้อย ๆ ๆ มีแม่หมูลูกหมูเดินออกหาอาหาร เป็นภาพที่ดูน่ารักน่าชังมาก

          ต่อมาในปี 254x ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของหมูป่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หมูป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตายไปนับ 1,000 ตัว ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเดินป่าได้กลิ่นของซากสัตว์ตุ่ย ๆ อยู่ตลอดเวลา

          ทางเจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานว่า เหล่าหมูป่าน้อยใหญ่ที่ตายไปนั้น ได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าจากการรับประทานอุจจาระของสุนัข ที่นักท่องเที่ยวนำเข้ามาในเส้นทางศึกษาสัตว์ป่าและพรรณพืช และติดเชื้อกันอย่างต่อเนื่อง เพราะหมูป่าเป็นสัตว์สังคม โดยตัวที่ติดเชื้ออาจนำเชื้อไปแพร่กระจายต่อ (หึ้ยยยย อารมณ์เหมือนตอนเชื้อโควิดเข้ามาแรก ๆ เลยนะเนี่ย)

เขาใหญ่

เขาใหญ่

          ซึ่งผลการทดลอง(อย่างไม่ตั้งใจ)ของเจ้าหน้าที่ ก็ออกมาสอดคล้องกัน กับการวิจัยที่แอบนำแมวมาเลี้ยงในเขตอุทยาน และแมวมีความใกล้ชิดกับกวาง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน ก็พบว่ากวางตัวนั้นมีรูปร่างที่ผอมลง และปรากฏว่ากวางไม่ตั้งท้อง ทางนักวิจัยจึงได้ลองนำขี้แมว และเลือดกวางไปตรวจสอบในห้องแล็บ ทำให้พบว่า มีเชื้อชนิดเดียวกันกับขี้แมวที่ขับถ่ายเอาไว้ ซึ่งคาดว่าเมื่อแมวขี้ลงบนหญ้า กวางอาจจะไปกินหญ้าบริเวณนั้น จึงทำให้ได้รับเชื้อโรคมา

          เหตุการณ์นี้เลยทำให้เห็นว่า การนำสัตว์เลี้ยงจากภายนอกเข้ามา อาจเป็นการทำร้ายระบบนิเวศของสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานได้

เขาใหญ่

          ถ้าเลิกงานแล้ว ยังไม่รู้จะไปไหน ? ลองไปติดตามการเดินทางของ "INK x เลิกงานแล้วไปไหนดี" จะได้ไม่พลาดที่เที่ยวสวย ๆ กัน
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ Inkwhereigo
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะลึก 3 เรื่องลับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง อัปเดตล่าสุด 30 สิงหาคม 2566 เวลา 13:29:41 14,121 อ่าน
TOP