วันเดย์ทริป กับทะเลยามเช้า และสวนสัตว์ยามบ่าย ณ บางแสน ชลบุรี
วันเดย์ทริปรอบนี้ ขอขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวกันที่บางแสน จังหวัดชลบุรี ใครๆก็เที่ยวบางแสน หาดบางแสนใครๆก็เที่ยวได้ ขับรถไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถไม่ไกลจากปทุมและขับรถไม่ไกลจากสมุทรปราการ เรียกได้ว่า "บางแสน ชลบุรี" เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนคุ้นชื่อเสียงเรียงนามกันเป็นอย่างดี งบน้อยก็เที่ยวได้ จัดแบบเต็มอิ่มกันทั้งวันไปเลยค่ะ
- หาดบางแสน
- ก๋วยเตี๋ยวกั้งแหลมเจริญ
- สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
- ตลาดหนองมน
หาดบางแสน ชลบุรี :: ชายหาดเล็กๆ ที่ทอดยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตรได้ มีต้นมะพร้าวเรียงรายอยู่ริมชายหาดเต็มไปหมด เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถไม่เกิน 2 ชม. ก็จะได้เที่ยวทะเลสวยๆ และยังใช้เงินไม่มาก ก็สามารถเที่ยวได้อย่างเต็มที่
ถนนบางแสนสาย 1 ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่นั่งพักและสถานที่เช่าจักรยาน เลียบริมชายหาด
ขับรถออกมาจากปทุมตั้งแต่ 6 โมงเช้า มาถึงบางแสนก็เกือบจะ 8 โมง แวะโน่นนี่นั่นนิดหน่อย แต่ก็ยังดีให้ลูกได้เล่นน้ำเล่นทราย ยาวๆยัน 10 โมงกันไปเลยค่ะ
แดดยามเช้าดีต่อใจ ดีต่อร่างกาย
เกือบจะ 10 โมงแล้ว เริ่มร้อน!!! พาลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปทานข้าวมื้อแรกของที่นี่กัน
"ก๋วยเตี๋ยวกั้งแม่เจริญ หนองมน" :: กับร้านชื่อดังของชาวบางแสนชลบุรี ขับรถจากหาดบางแสนมาเพียง 2 กม. เท่านั้น ก็จะถึงตลาดหนองมน เห็นว่าเป็นร้านดังเรื่องของอาหารทะเล และเมนูเด็ดของทางร้านคือ เย็นตาโฟกั้ง จะโดนใจแค่ไหนไปลองทานกันดูนะคะ
เราสั่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นกั้ง กับ เส้นหมี่ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส เนื้อกั้งที่นี่แปลกดี จะออกเหนียวๆ แฟนบอกว่ามีกลิ่นคาวหนักมาก (แฟนไม่เคยกินกั้งมาก่อน) ส่วนตัวคุณตาเป็นคนที่นี่ เรากินมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกเดียวกันคือเหนียว ที่เคยกินจะนุ่มมาก กุ้งตัวใหญ่ดี มีหอยนางรมมาให้ด้วย ตัวใหญ่มาก น้ำซุปรสชาติยังไม่จัดจ้าน แต่สีสันดูน่ากินมากๆ เช่นเดียวกันกับก๋วยเตี๋ยวน้ำใส น้ำซุปจะออกจืดๆ ต้องปรุงเอง
เติมพลังกันแล้ว ตกบ่ายขับรถไปชมสัตว์กันต่อที่ "สวนสัตว์เปิดเขาเขียว" ที่ตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชานี่เองค่ะ เป็นสวนสัตว์เปิดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลย ว่าแต่ ฟ้าฝนเริ่มไม่เป็นใจ จะตกหนักมั๊ย ก็ต้องรอลุ้นกันอีกแล้ว แต่พอไปถึงก็โชคดีหน่อย ฝนตกไปแล้ว ที่เหลือไว้ก็เป็นความชุ่มชื้น
พอมาถึงบริเวณทางเข้า-ออกของสวนสัตว์ เราก็ซื้อตั๋วกันก่อนเลย ผู้ใหญ่คนละ 150.- บาท และเด็ก คนละ 80.- บาท (น้องไม่เสีย เพราะอายุต่ำกว่า 3 ขวบค่ะ) ส่วนรถยนต์หากนำเข้าไป คันละ 80.- บาทค่ะ
แผ่นพับแสดงที่สัตว์ชนิดต่างๆอาศัยอยู่และบอกรอบเวลาการแสดงของน้องๆค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ คือ โซนสีชมพู สามารถขับรถเข้าไปชมน้องสัตว์ได้เลย ส่วนโซนสีเขียว เป็นโซนที่จะต้องขึ้นรถรางหรือเช่ารถกอล์ฟขับไปเองค่ะ
เราเริ่มกันที่โซนสีชมพู (โซน 2) กันก่อนเลย โซนนี้จะมีให้ชมทั้งนกกาบบัว วัวแดง กระทิง หมีขอ กวางป่า สมเสร็จ ชิมแปนซี อุรังอุตัง และหุบเสือป่า
ระหว่างทางมีม้าแคระอาร์เจนตินาด้วย
ตอนแรกคิดว่ากลากขึ้นน้องม้าแคระซะแล้ว แต่ไม่ใช่ มันคือลายของน้องค่ะ
พาเหรดนกกาบบัว รอบเวลาการแสดงตามนี้เลย
โอ้โห...เป็นครั้งแรก ที่ได้เห็น นกกาบบัวอยู่ด้วยกันเป็นฝูงใหญ่เลยค่ะ
วัวแดงและกระทิง :: ไม่กล้าลงไปเลยค่ะ นั่งชมในรถก็พอ
หมีขอ
กวางป่าและบาราซิง
เสือโคร่งขาว
อย่าเคาะกระจกเชียวนะ อันตรายมากๆ
เสือโคร่งอินโดจีน :: ตัวใหญ่มากค่ะเพื่อนๆ
พอมายืนดูน้องตรงนี้แล้ว น้องดูน่าเกรงขามมากๆ แต่เอ๊ะ!!! น้องเดินวนไปวนมาอยู่อย่างงั้น ไม่หยุดเลย แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ไม่รู้คนอื่นๆที่ไปจะรู้สึกเหมือนเรามั๊ยนะ
เสือโคร่งไซบีเรีย
น้องนอนอยู่ข้างใน
มาตรงโซนกาแฟในสวนกันบ้าง เป็นศูนย์อาหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าหุบเสือป่าเลยค่ะ
พอมายืนด้านหลังร้าน จะเจอกับหุบเสือป่า ด้านในภูเขาลูกนั้น น่าจะมีเสืออยู่ เสียงคำรามมันดังมาก
ขับรถชมสัตว์โซนสีชมพูกันหมดแล้ว เราขับรถมาจอดกันตรง Lofe Cafe ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ที่น่านั่งมากๆ มีเครื่องดื่มและขนมหวานพร้อมบริการพวกเราเต็มที่เลยค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีกาแฟพันธุ์ไทยและศูนย์อาหารเขาเขียวไว้บริการเราอีกด้วยนะคะ
ตอนนี้ใกล้จะบ่าย 2 แล้วค่ะ ซึ่งเป็นรอบการแสดงของเจ้าเพนกวิน พวกเราพร้อมชมกันแล้วค่ะ
อาคารสัตววิทยา เป็นอาคารที่จัดนิทรรศการและความรู้ของเจ้าเพนกวิน ด้านในเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าเพนกวินด้วยค่ะ
มีสนามเด็กเล่นด้วยนะ
เหลืออีก 10 นาที ขึ้นมาจับจองที่นั่งกันก่อนเลย พี่จนท.กำลังล้างพื้นรอพวกเราแล้ว
น้องๆมากันแล้ว มากันเป็นขบวนเลยค่ะ
ไปซื้ออาหารให้พี่เพนกวินกันค่ะ กระป๋องละ 50.- บาท
น้องเพนกวินน่ารักทุกตัวเลยค่ะ
ต่อไป เราจะไปซื้อตั๋วขึ้นรถราง นั่งชมสัตว์รอบๆโซนสีเขียวกันค่ะ ราคาก็ตามป้ายด้านล่างนี้เลย
ได้ตั๋วมาแล้ว ใส่ที่ข้อมือไว้เลย
จะมีรถรางบริการเราไปจนถึง 5 โมงเย็นเลยนะคะ และจะมีรถรางตามจุดต่างๆบริการทุกๆ 5 นาทีเลยค่ะ สะดวกไปอีก
Zone 1 :: โซนสีเขียว จะแบ่งออกเป็น 3 ป่า คือ Forest Of Asia, Amazonia มีชะนี ละมั่งหรือละอง ฮิปโปโปเตมัส นกแก้ว เต่ายักษ์ หนูคาปิบารา สล็อธและหมีขอ ส่วน Africa จะมียีราฟ ลิง กรงนกใหญ่ ฯลฯ
และ และ และจุดแรกที่เรานั่งรถรางผ่าน จะเป็นจุดชมกวางค่ะ
ฝั่งโน้นนนนที่มองเห็นไกลๆ เป็นเจ้ายีราฟ เดี๋ยวเราเดินไปให้อาหารพี่ๆยีราฟกันค่ะ
จุดนี้ สามารถลงไปให้อาหารพี่ยีราฟได้เลยค่ะ
พี่ยีราฟรออยู่แล้ว
จุดพักและรอรถราง ให้บริการกาแฟสด ชานมและขนมขบเคี้ยวด้วยนะ
พักกินไอติมแป๊บครับ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นกรงลิง กระรอกและคอมมอนมาโมเซท
รถรางมาแล้ว ไปต่อเลยยยยย....
เรามาต่อกันที่จุดชมนกที่กรงนกใหญ่กันค่ะ
เราชอบจุดนี้ตรงที่ยังคงความเป็นธรรมชาติให้กับเจ้านก มีน้ำตกจำลอง ทางเดินเชื่อมไปยังจุดต่างๆ มีป้ายบอกทางและให้ความรู้เกี่ยวกับนกชนิดต่างๆด้วยค่ะ
จุดสุดท้ายที่เราจะไปกันก็คือ พี่ช้างค่ะ รถรางมาแล้วไปกันเลย
รอบการแสดงโชว์ช้างว่ายน้ำ คือช่วงเวลา บ่าย 2 โมงครึ่ง แต่เรามาไม่ทัน ได้แค่ถ่ายรูปและให้อาหารพี่ช้างก็พอค่ะ
แอบกลัวนิดๆ แต่ก็ใจดีสู้เสืออยู่นะ
แวะให้อาหารพี่ช้างกันหน่อย
พี่ช้างรออยู่แล้ว!!
มัดละ 30.- บาท คุ้มกับการเรียนรู้มากๆ
ขากลับแวะ "ตลาดหนองมน" ซื้อของฝากกันหน่อย ไม่แวะไม่ได้เลย เดี๋ยวมาไม่ถึง ของเค้าดังจริงๆ "ข้าวหลามหนองมน"
เป็นการปิดท้ายทริปสุดประทับใจสำหรับเพื่อนๆที่ชอบเที่ยวสวนสัตว์ พาครอบครัว พาเด็กๆไปกันได้เลย ส่วนใครที่ต้องการพักค้างคืน สามารถเลือกที่พักในเมืองหรือที่พักติดทะเล ตามสไตล์ที่เพื่อนๆชอบได้เลยนะคะ ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้านะคะ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
