รีบมามุงทางนี้ด่วนเพราะเรามีเมืองสวยแห่งเวียดนามกลาง “ดานัง-ฮอยอัน” มานำเสนอ แพลนน่ารัก เที่ยว 5 วัน งบ 9 พัน 20 จุดเช็คอินที่คัดสรรมาแล้ว
เริ่มจากขึ้นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลกไปนอนฟินบนบาน่าฮิลล์ เมืองฝรั่งเศสแห่งเวียดนาม แล้วตามด้วยเดินเล่นที่เมืองมรดกโลกสีมัสตาร์ดแล้วไปนวยนาดฮอปปิ้งทิ้งท้ายที่ดานัง ทริปนี้รูปไม่จึ้ง ไลก์ไม่ปัง ไม่ต้องกลับบ้านทางเราขอรับประกัน ว่าเริ่ดว่าโฮ่งทุกวันแน่นอน
𝐃𝐚𝐲 𝟏 𝐅𝐫𝐞𝐧𝐜𝐡 𝐕𝐢𝐥𝐥𝐚𝐠𝐞 𝐁𝐚𝐧𝐚 𝐇𝐢𝐥𝐥𝐬
𝐃𝐚𝐧𝐚𝐧𝐠 French Village Bana Hills
แลนดิ้งที่สนามบินปุ๊บเราก็รีบคว้ากระเป๋ากดเรียกรถแล้วตรงมายังสถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้นไป BaNa Hills สถานที่ท่องเที่ยวอายุนับร้อยปี อดีตเคยเป็นบ้านพักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคม แล้วกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ที่ใช้โดยสารขึ้นลงเส้นทางนี้ ยังเป็นเจ้าของสถิติยาวและสูงที่สุดในโลก จากบันทึก Guinness Word Record ระยะทาง 5 กิโลเมตร และสูง 5,801 เมตร
Lunar Castle
และโซนล่าสุดของบาน่าฮิลล์ที่พลาดไม่ได้ก็คือปราสาทจันทรา 𝐋𝐮𝐧𝐚𝐫 𝐜𝐚𝐬𝐭𝐥𝐞 ตรงนี้สามารถนั่งรถรางหรือเดินจากบาร์น่าฮิลล์มาก็ได้ ตรงนี้สงบมาก แถมยังยิ่งใหญ่อลังการมีทั้งสวนดอกไม้สวย ปราสาทมหึมา วิวสุดลูกหูลูกตา และเครื่องเล่นสนุก ๆ ให้เราได้ลอง ถ้าขึ้นมาบาน่าฮิลล์ก็อย่าลืมมาตรงนี้ล่ะ
𝐃𝐚𝐲 𝟐 𝐁𝐚𝐧𝐚 𝐇𝐢𝐥𝐥𝐬 - 𝐇𝐨𝐢 𝐀𝐧
Golden Brigde
อย่างที่บอกว่าจุดหมายแรกของวันนี้เราจะมากันที่แลนด์มาร์กที่โด่งดังระดับโลก มุมยอดฮิตที่ทุกคนควรมีประดับไอจี กับสะพาน Golden Bridge สะพานสีทองที่ทอดตัวเลียบแนวเขายาว 150 เมตร โดยมีมือยักษ์โอบอุ้ม ทำให้รู้สึกว่าสะพานนี้กำลังลอยตัวอยู่ท่ามกลางสรวงสวรรค์เพราะตรงนี้เรายืนอยู่บนยอดเขาที่สูงกว่า 1,400 เมตร คือถ้ามาตอนเช้าแบบเราก็จะรู้สึกเหมือนยืนอยู่เหนือก้อนเมฆเลยแหละ
ถ้าใครได้มีโอกาสมานอนข้างบนนี้แนะนำให้ตื่นมาตอนเช้าเพื่อมาดูหมอก ทริคการถ่ายรูปแบบไร้ฝูงชนคือ ถ้าหากไม่รีบก็สามารถเดินชมรอบ ๆ บริเวณก่อนได้ ตรงนี้มีหลายจุดให้ได้ชม ทั้งสวนดอกไม้ พระพุทธรูปยักษ์ เดินเล่นให้สมใจ แล้วค่อยกลับมาที่สะพานอีกครั้งช่วงสายตอนที่คนที่มาค้างกลับไปหมดแล้วและคนจากข้างล่างยังมาไม่ถึง จะปลอดคนที่สุด
Hoi An ancient town
ช่วงบ่ายเราเปลี่ยนฟิลการเดินทางจากปราสาทบนยอดเขามาสู่เมืองเก่ามรดกโลก
ณ Hoi An เมืองสีมัสตาร์ดเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1999
หลายคนหลงใหลเมืองน่ารักแห่งนี้เพราะเป็นพื้นที่ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย คู่ค้าเคยทำการค้าร่วมกันตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 แม้จะเป็นเมืองเก่าแต่ยังคงความสวยงามและมีเอกลักษณ์ สำหรับใครที่ชอบฟิลลิ่งของการปล่อยจอยปล่อยใจ เราว่าควรค่าอย่างยิ่งที่จะได้มาปักหมุดที่นี่สักสองคืน
Hoi An Night Market
ฟินกับสายน้ำจนพออกพอใจ ถึงเวลาที่จะพาตัวเองไปยังตลาดไนท์มาร์เก็ตเพื่อช้อปปิ้งและหาของอร่อยมาเติมพลังก่อนนอน ตลาดกลางคืนที่นี่เต็มไปด้วยความคึกคักของนักท่องเที่ยวและเหล่าพ่อค้าแม่ขาย มีสินค้ามากมายให้เราไปเลือก ทั้งเสื้อผ้า ของฝาก อาหารพื้นเมือง ผลไม้สด ๆ แต่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยคือโคมไฟหลากสี หลายลวดลาย ที่ส่องประกายวิบวับ เรียงรายสองข้างทาง อวดโฉมให้อยากหิ้วกลับบ้านเสียเหลือเกิน แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ใจดีมาก เขามีมุมสวย มุมถ่ายรูปไว้รอต้อนรับ ให้เราสามารถเข้าไปแชะภาพสวย ๆ กับโคมไฟได้ทุกร้านเลย
𝐃𝐚𝐲 𝟑 𝐇𝐨𝐢 𝐀𝐧
𝐌𝐨́𝐭 ชาน้ำดอกบัว
ร้านโปรดของเราที่ขอยกให้เป็นอันดับ 1 ในดวงใจก็คือที่นี่เลย Mót Hội An - Nước thảo mộc sả chanh หรือร้านชาดอกบัวแห่งนี้ คือหนึ่งในร้านที่ขึ้นชื่อมาก ๆ เราจำได้ว่าทุกครั้งที่มีคนบอกว่าจะมาฮอยอัน เราจะต้องย้ำทุกคนว่าอย่าลืมไปชิมน้ำชาดอกบัวนะ
และครั้งนี้เราก็ยังมาแวะที่นี่เหมือนเดิม แม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ก็ตกแต่งได้น่ารัก น่าแวะ หรือแม้แต่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไปโพสต์ก็ไม่ติด ด้วยดีเทลสุดเก๋ มีต้นไม้ดอกไม้ประดับประดาตกแต่ง เมนูของที่นี่จะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่มีทั้งชาขิง ตะไคร้ มะนาวดอกบัว และยาแผนโบราณอายุ 100 ปี ที่เสิร์ฟในชื่อ An Thai Ong Thay Tai ด้วย
Faifo Coffee
ต่อด้วยมาจิบกาแฟ ณ รูฟท็อปคาเฟ่ที่ได้รับการโหวตว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ควรมาที่สุดแห่งหนึ่งในฮอยอัน Faifo Coffee คาเฟ่สูง 3 ชั้นในตึกโบราณสีเหลืองมัสตาร์ดที่น่ารักน่าแวะตั้งแต่หน้าร้าน มีหน้าต่างกิมมิกด้วยดอกเฟื่องฟ้าเลื้อยขึ้นมาจนเกือบแทรกหน้าต่าง ด้านในเป็นไม้และประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เราสามารถออเดอร์ทุกอย่างที่ชั้นล่าง แล้วไปเลือกหาที่นั่งได้ตามใจชอบ รอสต๊าฟมาเสิร์ฟที่โต๊ะได้เลย
และที่พลาดไม่ได้คือดาดฟ้าชั้น 3 ที่สามารถเห็นตึกรามสีเหลืองและเหล่าหลังคาเมืองเก่าตัดกับท้องฟ้าผ่อง ๆ ได้อย่างเต็มสายตา เบื้องล่างคือภาพถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมา เป็น Ancient City View ระดับมรดกโลก เป็นมุมที่ยูนีคและหาชมจากที่อื่นไม่ได้แน่ ๆ
Banh Beo
ระหว่างทางที่เดินเล่นในย่านเมืองเก่า เราจะเห็นมุมเล็กมุมน้อย มีแม่ค้าและลูกค้านั่งรุมกันกินของอร่อย ถามไปถามมาก็ได้ใจความว่านี่คือ Banh Beo (บั๊นแบ่ว) หรือขนมถ้วยแบบเวียดนามนั่นเอง ปกติเมนูนี้จะเสิร์ฟมาในถ้วยตะไลแบบบ้านเรา แต่เปลี่ยนจากแป้งหวาน ๆ เป็นแป้งนิ่ม ๆ สีขาว ด้านบนโรยด้วยเนื้อสัตว์กรอบ ๆ อารมณ์แคบหมู เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มหวานสไตล์เวียดนามสีเหลืองอ่อน แต่ร้านที่เราไปเจอจะเป็นชามขนาดกำลังพอกิน รสชาติออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กรุบกรอบหนุบหนับ อธิบายยากแต่อร่อยติดใจ ไม่แปลกใจที่ทุกร้านจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนั่งรุมสั่งไม่เคยเว้นว่าง
Ba Mu Temple Gates
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอไฮไลท์สำคัญคือประตูวัดโบราณ Ba Mu Temple Gates ที่ยืนหยัดโชว์ความประณีตมานานกว่า 400 ปี ถ้าเรายืนตรงมุมหน้าวัด เราจะเห็นภาพของประตูโบราณครบทั้ง 3 บานพร้อมกับเงาประตูที่สะท้อนอยู่ในสระบัวกลางวัด สวยงามวิจิตรบรรจงจนต้องงงว่าคนเวียดนามเมื่อ 400 ปีก่อนสร้างขึ้นมาได้ยังไง
Hoi An Market
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละเมืองได้ดีที่สุดคือตลาด เมืองฮอยอันก็เช่นกัน ตรงนี้เป็นตลาดสดริมน้ำที่ยังคงคุมโทนความสีเหลืองมัสตาร์ด ภายในตลาดมีสินค้ามากมายทั้งผัก ผลไม้ อาหารสด แห้ง อาหารสำเร็จ ขนม นม เนย ครึกครื้นและเดินเล่นเพลินมาก
Japanese Bridge
สะพานญี่ปุ่นอายุกว่า 400 ปี แลนด์มาร์กของเมืองฮอยอันและสัญลักษณ์ของการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ชุมชน เป็นสะพานข้ามสายน้ำเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทั้งหลังคากระเบื้องแบบลอนคลื่นสีเขียวเหลืองและเจดีย์ทรงจัตุรัสบริเวณกลางสะพาน
สำหรับโลเคชั่นนี้เราอยากจะบอกคนที่ที่ไปทีหลังเราให้แวะไปให้ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ไม่ควรพลาดมาก ๆ เมื่อมาฮอยอัน ครั้งล่าสุดที่เขาปิดปรับปรุงเพราะว่าสะพานแห่งนี้เก่ามาก ๆ แล้ว ดังนั้นเราขอเอาภาพเก่าที่เราเคยมาครั้งที่แล้วมาให้ดูกันก่อน และหวังว่าทุกคนจะได้เห็นความสวยงามหลังจากรีโนเวทแล้ว รับรองว่าต้องปังต้องจึ้งกว่าเคยแน่นอน
HOI AN CUISINE Restaurant
เดินเล่นกันจนหมดเรี่ยวแรงก็ถึงเวลาที่จะต้องเติมพลังแล้ว วันนี้เราขอเลือกร้านอาหารดั้งเดิมของเมืองฮอยอัน ร้านอาหารเวียดนามแบบดั้งเดิมตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิค กลางร้านมีบาร์กว้าง ๆ เปิดโชว์วัตถุดิบต่าง ๆ ในการทำอาหาร และมีแม่ครัวมานั่งทำโชว์กันสด ๆ ตรงนี้เลย เราเลือกสั่งเซ็ตเวียดนามซึ่งเสิร์ฟมาเป็นคอมโบเซ็ตมาก ได้เยอะแบบอิ่มจนจุก ทางร้านเคลมว่าอาหารของที่นี่รสชาติแบบดั้งเดิมเลยนะ สำหรับเรานั้นคิดว่าถูกปากเลยแหละ ถือเป็นโลเคชั่นปิดเมืองฮอยอันที่สมบูรณ์แบบ
𝐃𝐚𝐲 𝟒 𝐃𝐚𝐧𝐚𝐧𝐠
Reply 1988 𝐂𝐚𝐟𝐞
เข้าสู่วันที่ 4 เราเดินทางมายังเมืองดานัง ด้วยความพร้อมจะฮอปปิ้งอย่างเต็มที่ พิกัดแรกที่เราแวะมาเลยคือ Reply 1988 คาเฟ่ฮิตติดอันดับของเมืองดานัง ที่ไม่ว่าใครก็ต้องแนะนำ มาถึงก็ต้องพบกับหน้าร้านที่แสนจะน่ารัก มีดอกไม้และต้นไม้น้อยใหญ่ประดับประดาให้รู้สึกกรี๊ดตั้งแต่แรกพบ เข้ามาในร้านก็มีฟิลลิ่งเกาหลีเกาใจ เมนูมีให้เลือกมากมาย แต่ที่แนะนำคือเมนู Custard Viet Coffee และ Salty Coffee ซึ่งก็คือกาแฟไข่และกาแฟเกลือนั่นแหละ แต่รสชาติดี เข้ากันอย่างลงตัว
คาเฟ่เปิดทุกวันตั้งแต่ 7 โมงเช้า - เที่ยงคืน ช่วงกลางคืนเขามีเก้าอี้ออกมาวางให้นั่งหน้าร้านกันด้วยนะ
APEC Park
สวนสาธารณะริมน้ำกลางใจเมืองดานัง ซึ่งประเทศเวียดนามสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับแขกในฐานะเป็นเจ้าภาพในการประชุม APEC เมื่อปี 2017 จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือโดมสีขาวโปร่งแสงทรงว่าวยักษ์ขนาดใหญ่สร้างจากเหล็ก 200 ตัน โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสวน ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งหย่อนใจ จุดนัดพบ และสถานที่ทำกิจกรรมสาธารณะของชาวดานัง ทั้งยังเป็นไอจีสปอตที่ใครมาเมืองนี้ก็ต้องแวะมาแชะภาพกับเจ้าว่าวยักษ์สักหนึ่งแชะ
Dragon Bridge
เดินเล่นเรื่อย ๆ มาจากสวน APEC ข้ามสะพานมังกรสีทองมาจนถึงอีกหนึ่งสวนสาธารณะที่สามารถมองเห็นวิวสะพานได้อย่างชัดเจน Dragon Bridge หรือ สะพานมังกร ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 ตัวแทนฉลองครบรอบ 38 ปีอิสรภาพของเมืองดานัง
เจ้ามังกรสีทองที่เหมือนกำลังเคลื่อนไหวตัวอย่างคล่องแคล่วนั้น มีความหมายสื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาวเอเชีย มีความยาวถึง 666 เมตร กว้าง 37.5 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางถนน 6 เลน ที่ใช้สำหรับข้ามแม่น้ำฮัน และทุก ๆ คืนในเวลา 21.00 น. เจ้ามังกรตัวเขื่องนี้ก็จะพ่นไฟให้ทุกคนได้ชม หากอยากชมสะพานมังกรแบบเต็ม ๆ ตาในมุมเดียวกับเราสามารถเดินมายังสวนริมแม่น้ำ ตรงนี้มีคาเฟ่ มีสะพาน จุดถ่ายรูป และปลามังกรพ่นน้ำ และยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามอีกจุดเลย
Han market
มีคนแอบกระซิบมาว่าถ้าอยากได้ชุดอ๋าวหย่ายหรือชุดสาวเวียดนามดั้งเดิมหรือแม้แต่เสื้อผ้าเครื่องประดับราคาน่ารักให้มาที่นี่ เราจึงรีบตรงมาเลือกหาเสื้อผ้าจากพส.เวียดนามสักหน่อย ภายในตลาดนั้นกว้างมาก แบ่งออกเป็นสองชั้น มีการแบ่งโซนอย่างเป็นระเบียบ สินค้ามีทั้งอาหาร ผลไม้ ดอกไม้ ผักสด รวมไปถึงสินค้าอุปโภคต่าง ๆ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของฝาก ของพื้นเมือง สินค้าแฟชั่น มีครบหมดทุกอย่าง เรียกได้ว่า มาที่นี่ที่เดียวก็ได้ของกลับบ้านครบแบบไม่ต้องหาจากที่ไหนเพิ่มแล้ว
Pizza 4P
ร้านพิซซ่าเตาถ่านอันเลื่องชื่อของเวียดนาม ที่แม้จะมีหลายสาขาแต่คิวยาวคนแน่นทุกสาขา เมื่อเข้าร้านมาเราจะได้ฟิลลิ่งร้านอาหารสไตล์ยุโรป กลางร้านจะมีเตาถ่านและบาร์เตรียมอาหารให้เราได้เห็นกันเต็มตาถึงวิธีการทำ เมนูในร้านมีให้เลือกหลากหลาย แต่ละเมืองจะมีเมนูซิกเนเจอร์ประจำเมืองที่ต่างกันออกไปด้วย บางคนถึงกับยกให้ร้านนี้เป็นพิซซ่าที่อร่อยที่สุดในชีวิตเลยแหละ
𝐃𝐚𝐲 𝟓 𝐃𝐚𝐧𝐚𝐧𝐠
Son Tra marina
คาเฟ่บรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ตัวร้านเป็นสีขาวตัดกับสีฟ้าของเฟอร์นิเจอร์และประตูหน้าต่าง ให้ฟิลเหมือนอยู่ซานโตรินี ร้านตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ มีหลายโซนให้เลือกนั่ง มุมถ่ายรูปเยอะ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องมาเมื่อมาเที่ยวดานัง
Chua Buu Dai Son Temple
ออกมาจากคาเฟ่เราก็เดินเล่นเลียบหาดหมีเคมาเรื่อย ๆ แล้วก็ได้เจอวัดจีนสร้างใหม่ตั้งอยู่เลียบถนนและชายหาด นอกจากเป็นวัดที่วิวดีแล้ว ที่นี่ยังสะดุดตาตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าที่ยิ่งใหญ่ประดับประดาด้วยเหล่าเทพจีนและกระเบื้องหลากสีสัน มองเห็นพระสังกัจจายน์แกะสลักด้วยหินอ่อนองค์ใหญ่นั่งยิ้มแป้นอยู่กลางซุ้มประตู เดินเข้ามาในวัดเงียบสงบ ลมเย็น ร่มรื่น มีหลายสัดส่วนให้ได้ชม มีทั้งพระพุทธรูป พระถังซัมจั๋ง เจ้าแม่กวนอิม และเจดีย์ในอุทยานเล็ก ๆ องค์ทวยเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนพุทธแทบทุกองค์มารวมกันอยู่ที่นี่
Ge Cafe’
โลเคชั่นสุดท้ายมาปิดจบแบบฟินาเล่กันที่คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียล ให้ความรู้สึกแบบโรงงานเหล็ก มีความคลาสสิคเข้มขรึม ตั้งแต่หน้าร้านยันด้านใน ข้างในมี 2 ชั้น มีทั้งโซนห้องแอร์และในสวนด้านนอก สำหรับเครื่องดื่มที่ห้ามพลาดของร้านนี้คือ กาแฟมะพร้าวเช่นเคย อร่อยสุด ๆ แล้วร้านเปิดตั้งแต่เช้ายันตีสามกันเลยทีเดียว
เที่ยวเวียดนามแบบคุ้มค่าคุ้มเวลา เริ่มต้นได้จากเลือกสายการบินที่ตรงเวลาอย่างแอร์เอเชีย ซึ่งทำให้ทริปเวียดนาม ทริปนี้ มันดีเลย เพราะไม่ดีเลย์ สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจจะไปเช็คอินกี่จุดก็ตรงไปตามแผน มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ดานัง สูงสุดวันละ 3 เที่ยวบิน
จองเลย >> https://app.airasia.com/F4uy/vm8hpxu2
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่