สำหรับเรา ‘อินเดีย’ นี่คือหนึ่งในประเทศที่เรามักจะยิ้มกว้างเมื่อคิดถึงทริปต่าง ๆ ที่เคยผ่านมา

ก็อินเดียน่ะ อลังการไปซะทุกสิ่ง วัฒนธรรมยูนีค สถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่ ธรรมชาติสวยถึงใจ แถมยังมีทั้งสีสันของความสดใส ความสนุก ความหลากหลาย วิถีชิวิต มันคือเสน่ห์ที่สะกดใจจนทำให้เราหลงรักอินเดียขั้นสุด
คราวนี้เราจึงมาแนะนำ 6 เมืองน่าเที่ยวสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะไปอินเดีย แต่ละเมืองมีสีสัน ความเก๋ ความชิล และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
- เส้นทางบินชัยปุระ สายการบินเดียวเท่านั้น
สัมผัส 4 เมืองแห่งสีสันคัลเลอร์ฟูล ชัยปุระ (เมืองสีชมพู) อัครา-ทัชมาฮาล (เมืองสีขาว) จอดห์ปูร์ (เมืองสีฟ้า) และจัยซัลแมร์ (เมืองสีทอง)
- เส้นทางบินอัห์มดาบาดเมืองคลาสสิค สัมผัสเมืองมรดกโลกและเมืองตากอากาศสุดโรแมนติก เที่ยวทีเก็บทั้งสองเมืองอย่าง อัห์มดาบาดและอุดัยปูร์
ตอนนี้ฟรีค่าธรรมเนียม Visa สมัครออนไลน์อนุมัติภายใน 72 ชม. กรอกใบสมัครด้วยตัวเองได้เลยที่ https://indianvisaonline.gov.in แพลนเที่ยวช่วงหน้าหนาวตุลาคม-มีนาคมยิ่งชิลเพราะอากาศเย็นสบายเที่ยวได้ฟิน ๆ

ข้อควรรู้ก่อนไปอินเดีย
- การเที่ยวอินเดียจำเป็นต้องมีวีซ่าก่อนเข้าประเทศนะ โดยสามารถกรอกวีซ่าด้วยตัวเองได้เลย https://indianvisaonline.gov.in เลือกทำเป็น E-Visa รอประมาณ 72 ชั่วโมงเท่านั้น และตอนนี้ฟรีค่าธรรมเนียมการสมัครถึงสิ้นปีนี้ด้วย
- การเดินทางเที่ยวในตัวเมืองสามารถใช้ Uber ได้เลยสะดวกมาก บางเมืองมีรถไฟฟ้า Metro ค่าเดินทางนั้นราคาถูกเลยแหละ
- ใครไม่อยากใช้บริการรถสาธารณะหรืออยากไปเที่ยวทีละหลาย ๆ เมืองก็สามารถเหมารถพร้อมคนขับได้ ซึ่งคนขับมีหลายเจ้าพูดอังกฤษได้ บางเจ้าพูดไทยได้ด้วย สามารถหาคนขับพร้อมรีวิวการบริการตามกลุ่มคนเที่ยวอินเดียได้หรือจะใช้บริการของพี่ Pawan Singhvi คนขับน่ารัก มารยาทดี พาเที่ยวได้ทุกที่แถมพูดไทยเก่งแบบเราก็ได้ ติดต่อได้ที่ Line : pawanthai1711
- คนอินเดียนิสัยเฟรนลี่ สนุกสนาน ชอบการทักทาย หากเห็นคนอินเดียส่ายหัวไม่ได้เป็นการปฏิเสธนะ มันคือการตอบรับ
- คนอินเดียทุกที่ ชอบถ่ายรูปมาก ขอพวกเขาถ่ายรูปได้เลย และในบางครั้งพวกเขาจะมาขอเราถ่ายรูปด้วย สนุกสนานเลยแหละ
- อินเดียใช้เงินรูปี ส่วนใหญ่ใช้เงินสดเป็นหลัก
- อากาศระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคมจะเป็นหน้าหนาว เหมาะกับการเที่ยวสุดเพราะเย็นสบาย ชิลสุด ๆ
- เสื้อผ้า เครื่องประดับ งานฝีมือ แฮนด์เมด เจอแล้วต้องรีบซื้อเลย สวยงามและราคาดีมาก แล้วพ่อค้าแม่ขายใจดี ต่อราคาเท่าไหร่ก็ยอมหมด
- ค่าครองชีพโดยรวมของอินเดียถูกกว่าไทย จึงทำให้เราสามารถแพลนไปเที่ยวยาว ๆ หลายวันได้แบบกระเป๋าไม่ฉีก ไหน ๆ ก็บินไปแล้ว ลองเที่ยวหลาย ๆ เมืองดู แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
- ตอนนี้แอร์เอเชียมีเที่ยวบินตรงสู่อินเดียถึง 12 เมือง ทั้งชัยปุระ โกชิ เชนไน โกลกาตา ลัคเนา เบงกาลูรู อัห์มดาบาด กูวาฮาติ วิศาขาปัตตนัม ติรุจิรัปปัลลิ ไฮเดอราบัด และคยา สะดวก บินคุ้ม คุณภาพครบ ราคาดีแถมตรงเวลา

𝟎𝟎𝟏 𝐉𝐚𝐢𝐩𝐮𝐫 ชัยปุระ
เราเชื่อว่าชัยปุระหรือจัยปูร์ มหานครสีชมพูของอินเดียแห่งนี้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐราชาสถาน ซึ่งการกลายเป็นมหานครสีชมพูนั้น เริ่มมาจากเมื่อ 300 กว่าปีที่แล้ว ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย
พระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษทรงโปรดปรานเมืองอินเดียเป็นพิเศษ และต้องการเสด็จเยือนประเทศอินเดีย ดังนั้นมหาราชาใจสิงห์ที่สอง จึงทรงมีรับสั่งให้ตกแต่งบ้านเมืองด้วยสีชมพูอันเป็นสีโปรดของพระราชินีวิคตอเรียเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจจนได้รับการขนานนามว่านครสีชมพูนับแต่นั้นเป็นต้นมา
และมันก็กลายเป็นสถานที่ที่นักเดินทางจากทั่วโลกอยากจะมาลองสัมผัสสักครั้งและแน่นอนว่าชัยปุระมักจะเป็นเมืองแรก ๆ ที่คนไทยจะเลือกมา เพราะนอกจากความสวยงาม ยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม มีจุดถ่ายรูปเป็นดั่งเมือง Photogenic ของอินเดียแล้ว ชัยปุระค่อนข้างเที่ยวง่าย เดินทางสะดวก มีบินตรงในราคาสุดคุ้ม คือยังหาข้อไม่ดีของเมืองนี้ไม่ได้เลย

สำหรับสถานที่ไฮไลท์ของชัยปุระที่เราอยากแนะนำ ได้แก่
𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐅𝐨𝐫𝐭
ป้อมปราการขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเชิงเขา และมีกำแพงยาวสุดลูกหูลูกตาเป็นแนวอาณาเขตป้องกันข้าศึกศัตรูในอดีต ความสวยงามของบรรยากาศของป้อมอาเมร์นั้นซ่อนอยู่ภายในกำแพงเมืองที่แบ่งเป็นทั้งหมด 4 ชั้น (แต่ละชั้นคั่นด้วยทางเดินกว้าง) โดยภายในเป็นหมู่พระที่นั่งซึ่งสร้างจากหินทรายสีแดงและหินอ่อน ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) ตั้งอยู่ที่เมืองอาเมร์ ชานเมืองชัย ห่างจากชัยปุระเป็นระยะทาง 11 กิโลเมตร

𝐇𝐚𝐰𝐚𝐦𝐚𝐡𝐚𝐥
พระราชวังแห่งสายลม เมืองชัยปุระ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ซึ่งประกอบด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลมจำนวน 953 บาน โดยลายฉลุนั้นมีเพื่อนางในวังสามารถมองทะลุออกมาเห็นชีวิตภายนอกบนท้องถนนได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นจากด้านนอก สถานที่แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองชัยปุระ ในความคิดเรานะ ผู้คนรู้จักชัยปุระก็น่าจะปราสาทอิฐสีน้ำตาลนี่แหละ (เค้าถึงเรียกนครสีชมพู) ความสวยงามของที่นี่ไม่ได้มีแค่การถ่ายรูปเท่านั้นนะ ด้วยความที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เราสามารถเดินเล่นชมเมืองได้สบาย ๆ จะจิบกาแฟ จะเดินตลาด รอบ ๆ นี่มีเยอะมาก

𝐉𝐚𝐥 Ma𝐡𝐚𝐥
พระราชวังฤดูร้อนหรือพระราชวังกลางน้ำสำหรับบรรดาพระราชวงศ์ เป็นที่พักตาอากาศหน้าร้อนที่วิวทะเลสาบล้อมรอบ ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล มีความสวยงามทั้งจากตัวอาคารเองและวิวทิวทัศน์โดยรอบ เพราะตั้งอยู่กลางทะเลสาบมันสาครหรือ Man Sagar กินพื้นที่กว้างถึง 300 เอเคอร์ (121 เฮกตาร์) โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด

𝟎𝟎𝟐 𝐀𝐠𝐫𝐚 อัครา
อีกหนึ่งเมืองที่มีประวัติมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เคยเป็นเมืองหลวงที่รุ่งเรืองที่สุดในสมัยโมกุลซึ่งเป็นอีกหนึ่งจักรวรรดิยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก หรือในช่วงสมัยจักรพรรดิอักบาร์มหาราช และชาห์จาฮานนั่นเอง สำหรับเราแล้วการมาเมืองอัคราเพื่อมาชมความยิ่งใหญ่ของ Taj Mahal คือที่สุดอย่างหนึ่งของการมาเยือนอินเดียเลยก็ว่าได้ นอกจากทัชมาฮาลสุสานหินอ่อนอนุสรณ์สถานแห่งความรักนิรันดร์แล้ว เมืองอัครายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่และสวยงามอีกมากมายให้เราได้ไปชมกัน

สถานที่ไฮไลท์ที่เราอยากแนะนำของเมืองอัครา ได้แก่
𝐓𝐚𝐣 𝐌𝐚𝐡𝐚𝐥
มัสยิดสีขาวออร่าสุดยิ่งใหญ่ เปล่งประกายท่ามกลางที่โล่งกว้าง ถือเป็นอนุสรณ์สถานแห่งรักอันมั่นคง ใช้เวลาสร้าง 22 ปี ด้วยแรงงานกว่า 20,000 คน สรรค์สร้างมาอย่างพิถีพิถันและบรรจงและเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุด ทั้งหินอ่อนและอัญมณีที่รวม ๆ แล้วมีน้ำหนักมากถึง 12,000 ตัน จะไม่มีที่นี่ในแพลนคือผิดเพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้ว ทัชมาฮาลได้ถูกรับเลือกเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2526 อีกด้วย เราบอกจากความรู้สึกของตัวเองเลยว่า ขนลุกตั้งแต่เห็นจากหน้าประตูทางเข้าเลย มันสวยงามเกินกว่าจะบรรยายได้

𝐀𝐤𝐛𝐚𝐫'𝐬 𝐭𝐨𝐦𝐛
เป็นสุสานหลวงที่บรรจุพระบรมศพของจักรพรรดิอักบัรแห่งจักรวรรดิโมกุล ก็อย่างที่บอกแหละว่าราชวงศ์นี้เขายิ่งใหญ่เกรียงไกรในโลกมาก ๆ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรน้อย ๆ ไม่ได้ สุสานนี้ก่อสร้างขึ้นด้วยงบประมาณ 1,500,000 รูปี และใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี และที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1993

𝐅𝐚𝐭𝐞𝐡𝐩𝐮𝐫 𝐒𝐢𝐤𝐫𝐢
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญสุดยิ่งใหญ่ของเมือง ตั้งอยู่บนบริเวณสันเขา ที่มีขนาดความยาว 3 กิโลเมตร อาคารภายในนั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองยาว 6 กิโลเมตร ใช้เวลาสร้างนานถึง 15 ปี ถูกออกแบบอย่างอินเดียซึ่งผสมผสานงานศิลปะแบบเบงกอลและคุชราต ด้านในประกอบด้วยพระราชวัง ฮาเร็ม ศาล มัสยิด สระน้ำ สวน อาคารต่าง ๆ และยังพบองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมฮินดูและเชนผนวกเข้ากับองค์ประกอบแบบศิลปะอิสลามอย่างกลมกลืน
หลังจากสร้างเสร็จก็มีการย้ายเมืองหลวงไปที่ลาฮอร์แทน
เลยถูกทิ้งร้างจนเคยได้รับการขนานนามว่าเมืองผีสิง (Phantom City) เพราะใช้งานเพียงไม่กี่ปีและโดนทิ้งร้าง ทำให้ที่นี่ยังมีความสมบูรณ์และคงความงามของสถาปัตยกรรมโมกุลไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในอินเดีย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ Unesco ในปี 1986

𝟎𝟎𝟑 𝐉𝐨𝐝𝐡𝐩𝐮𝐫 จอดห์ปูร์
มหานครสีฟ้าที่หลาย ๆ คนคุ้นหูแห่งนี้คือเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของราชาสถาน โดยชาวอินเดียเชื่อว่าสีฟ้าคือสีสัญลักษณ์ของศาสนาพราหมณ์ สมัยนั้นที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าพราหมณ์ จนทำให้บริเวณนี้มีชื่อเรียกกันว่าพราหมณ์บุรี และเมื่อมีชาวบ้านทั่วไปย้ายมาอยู่ พราหมณ์ที่อาศัยอยู่ก่อนจึงเกิดไอเดียทาสีบ้านตนเองเป็นสีฟ้าเพื่อให้สามารถแยกได้ว่าบ้านไหนคือบ้านของพราหมณ์นั่นเอง

สถานที่ไฮไลท์ที่เราอยากแนะนำของเมืองจอดห์ปูร์ ได้แก่
𝐌𝐞𝐡𝐫𝐚𝐧𝐠𝐚𝐫𝐡 𝐅𝐨𝐫𝐭
ป้อมเมห์รานการ์ห ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอินเดียตั้งอยู่บนหน้าผาหินยอดเขาสูงจากพื้นกว่า 122 เมตร ตัวกำแพงสูงถึง 36 เมตร และกว้าง 21 เมตรทำให้สามารถมองเห็นเป็นจุดเด่นสง่าไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของเมือง สร้างด้วยหินทรายสีแดง เมื่อปี ค.ศ. 1459 ครอบคลุมพื้นที่ถึง 1,200 เอเคอร์ บางคนเรียกที่นี่ว่า ผลงานของยักษ์ เพราะมันดูยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์จะสร้างได้ ภายในขอบเขตของป้อมยังประกอบด้วยพระราชวังหลายแห่งพร้อมด้วยงานแกะสลักหินและลานกว้างภายใน

𝐉𝐚𝐬𝐰𝐚𝐧𝐭 𝐓𝐡𝐚𝐝𝐚
อนุสรณ์แห่งความรักของลูกที่มีต่อพ่อ โดยมหาราชาซาร์ดาสร้างเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระบิดาของพระองค์ เมื่อปี ค.ศ. 1899 จนได้สมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งอาณาจักร Marwar ตัวอาคารสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหลัง ใช้สถาปัตยกรรมสไตล์ราชปุตนา แกะสลักลวดลายวิจิตร มีซุ้มประตูโค้งอันเป็นเอกลักษณ์และยอดโดมที่สลักลวดลายอันประณีต นอกจากตัวอาคารแล้วสวนดอกไม้และทะเลสาบ

𝟎𝟎𝟒 𝐉𝐚𝐢𝐬𝐚𝐥𝐦𝐞𝐫 จัยซัลแมร์
จัยซัลแมร์ (Jaisalmer) ได้รับขนานนามว่าเป็น “เมืองสีทอง” เพราะนี่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลางทะเลทรายธาร์ ตัวบ้านเรือนจึงใช้สีเดียวกับทราย และเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงบนมหานครแห่งนี้ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ก็จะเจิดจรัสเป็นสีทองอร่ามตา
ว่ากันว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ร่ำรวยมากเพราะเป็นเมืองทางผ่านของคาราวานสินค้าทั้งผ้าไหมและเครื่องเทศ ทำให้มีการเก็บภาษีค่าผ่านทางจนมั่งคั่งคึกคักมาจนถึงทุกวันนี้

สถานที่ไฮไลท์ที่เราอยากแนะนำของเมืองจัยซัลแมร์ ได้แก่
𝐉𝐚𝐢𝐬𝐚𝐥𝐦𝐞𝐫 𝐅𝐨𝐫𝐭
ป้อมยิ่งใหญ่ที่ยังคงคอนเซ็ปต์สีทองอร่ามสร้างลําดับที่สองของแคว้นราชาสถาน สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1156 บน Trikuta Hill ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่อยู่อาศัยอย่างยาวนานนับร้อยปี นอกจากนี้ยังมีหอรบถึง 99 หอและทะเลสายสีทองยาวสุดลูกหูลูกตาที่รายล้อม

𝐓𝐡𝐚𝐫 𝐃𝐞𝐬𝐞𝐫𝐭
หรือเรียกอีกชื่อว่า ทะเลทรายอินเดียใหญ่ เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตร.กม. กินพื้นที่ทั้งอินเดียและปากีสถาน ถือเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก แนะนำว่ามาถึงเมืองสีทองแห่งทะเลทรายแล้ว ให้ลองเข้าไปเที่ยวทะเลทราย ขี่น้องอูฐ และถ้ามีเวลาจะลองนอนแคมป์กลางทะเลทรายสักคืนเปิดประสบการณ์ชีวิตก็เป็นอะไรที่น่าลองนะ

𝟎𝟎𝟓 𝐀𝐡𝐦𝐞𝐝𝐚𝐛𝐚𝐝 อัห์มดาบัด
เมืองบ้านเกิดของท่านมหาตมะคานธี นักต่อสู้ทางการเมืองที่โด่งดังที่สุดของอินเดียและเป็นอดีตเมืองหลวงของรัฐกุจรัตที่ร่ำรวยวัฒนธรรม มีทั้งสถาปัตยกรรมและสถานที่สำคัญให้ได้ไปเยือนมากมาย จนได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2017 ในชื่อ “นครประวัติศาสตร์อัห์มดาบาด” ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกแห่งแรกในอินเดีย

สถานที่ไฮไลท์ที่อยากแนะนำของอัห์มดาบัด ได้แก่
𝐑𝐚𝐧𝐢 𝐊𝐢 𝐕𝐚𝐯 (𝐓𝐡𝐞 𝐐𝐮𝐞𝐞𝐧’𝐬 𝐒𝐭𝐞𝐩𝐰𝐞𝐥𝐥)
วิหารชั้นใต้ดิน 7 ชั้นที่สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 11 มีความยาว 64 เมตร กว้าง 20 เมตร และลึก 27 เมตร บ่อน้ำแห่งนี้ไม่เพียงแต่ใช้กักเก็บน้ำสำหรับการชลประทานเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นวิหารสุดอลังการที่ทั่วทั้งแนวผนังทั้งเจ็ดชั้นเต็มไปด้วยงานแกะสลักแบบนูนต่ำเล่าเรื่องราวตามคัมภีร์ของอินเดีย ให้เราได้เห็นเทพเจ้าในตำนานของฮินดูมากมายไม่ว่าจะเป็นพระศิวะ พระวิษณุ พระกฤษณะ และนางอัปสรสวรรค์

𝐒𝐡𝐫𝐞𝐞 𝐒𝐰𝐚𝐦𝐢𝐧𝐚𝐫𝐚𝐲𝐚𝐧 𝐌𝐚𝐧𝐝𝐢𝐫 𝐊𝐚𝐥𝐮𝐩𝐮𝐫
เอาใจสายมูที่รักเทพฮินดูอย่างพระนารายณ์และพระแม่ลักษมี
ที่นี่คือวัดที่ประดิษฐานเทพสองพระองค์นี้ให้นั่งเคียงข้างกัน Swaminarayan Mandir วัดฮินดูแห่งแรกของเมืองสร้างขึ้นกว่า 200 ปีโดย Swaminarayan Bhagwan ผู้ก่อตั้งศาสนาฮินดู ชาวเมืองใช้สำหรับเผยแพร่และศึกษาปรัชญาคำสอน ภายในตัววัดมีความโดดเด่นแปลกตาไปด้วยเพดานและเสาโค้งแกะสลักนูนสูงนูนต่ำทั่วทั้งวัด และใช้สีโทนพาสเทลซึ่งหาชมได้ยากในบรรดาวัดอินเดียทั่วไป

𝐌𝐨𝐝𝐡𝐞𝐫𝐚 𝐒𝐮𝐧 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞
วัดแห่งนี้มีอายุกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานสำหรับนมัสการสุริยเทพของชาวฮินดู ได้รับการออกแบบในสไตล์ Maru-Gurjara โดยมีโครงสร้างสามชั้นประกอบด้วย Sabha Mandap (หอประชุม), Guda Mandap (สถานศักดิ์สิทธิ์) และ Kund (บ่อน้ำ) นอกจากตัวหินแกะสลักที่สุดแสนประณีต และบ่อน้ำที่ยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ความพิเศษของวัดแห่งนี้อีกอย่างคือ วัดได้รับการออกแบบด้วยความแม่นยำทางดาราศาสตร์ การจัดเรียงเสา ประตู หน้าต่าง ของ Guda Mandap ซึ่งเป็นห้องสำหรับบูชาพระอาทิตย์นั้นยังมีความสัมพันธ์กับพระอาทิตย์ในช่วงวิษุวัต นั่นก็คือแสงแรกจากดวงอาทิตย์ขึ้นจะส่องสว่างโดยตรงต่อรูปเคารพของพระเจ้าสุริยะในห้องศักดิ์สิทธิ์ เป็นการพิสูจน์ได้อีกอย่างหนึ่งว่า ชาวฮินดูนั้นเก่งกาจเรื่องดาราศาสตร์มาตั้งแต่สมัยพันปีมาแล้ว

𝟎𝟎𝟔 𝐔𝐝𝐚𝐢𝐩𝐮𝐫 อุดัยปูร์
มหานครสีขาวสุดโรแมนติก สมญานาม “เวนิสแห่งอินเดีย” เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของรัฐราชาสถานที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1568 โดยมหาราชาอุเด สิงห์ที่สอง เป็นเมืองเล็ก ๆ พรั่งพร้อมไปด้วยทะเลสาบมากมาย แต่ที่นิยมที่สุดคือทะเลสาบ Pichola ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์เพื่อเอาไว้ใช้กักเก็บน้ำในการบริโภคของชาวเมือง และทะเลสาบเหล่านี้แหละที่ทำให้อุดัยปูร์เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบายตลอด
ฉากหลังเป็นเมืองสีขาวและภูเขาใหญ่ สวยงามและโรแมนติก เหมาะกับการพักผ่อน และฮันนีมูน ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างพากันมาเยือนเมืองนี้ รวมไปถึงเหล่าเศรษฐีชาวอินเดียนิยมมาแต่งงาน และสร้างบ้านพักตากอากาศที่นี่ด้วยเช่นกัน

สถานที่ไฮไลท์ที่อยากแนะนำของอุดัยปูร์ ได้แก่
𝐁𝐚𝐡𝐮𝐛𝐚𝐥𝐢 𝐇𝐢𝐥𝐥𝐬 𝐔𝐝𝐚𝐢𝐩𝐮𝐫
รับพลังจากแสงแรกของวันที่จุดชมวิวทะเลสาบบนยอดเขา Bahubali Hills Udaipur ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมากันมาก สามารถมาได้ทั้งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก โดยจากจุดเริ่มต้นมาถึงตรงนี้ใช้เวลาเดินเท้าเบา ๆ ประมาณ 20 นาที ทางขึ้นค่อย ๆ ไต่ระดับเรื่อย ๆ พอได้สัก 1 เหนื่อยก็ถึงจุดหมายปลายทาง จากข้างบนสามารถเห็นวิวทะเลสาบสลับกับเทือกเขาสลับไปมา แสงสีนวลยามเช้าตกกระทบที่ผืนน้ำพร้อมกับเงาของภูเขาน้อยใหญ่ ทำให้เราได้รับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างจริงใจ

𝐂𝐢𝐭𝐲 𝐏𝐚𝐥𝐚𝐜𝐞 𝐨𝐟 𝐔𝐝𝐚𝐢𝐩𝐮𝐫
พระราชวังหลังงามโอ่อ่าตรงสุดทาง City Palace of Udaipur พระราชวังสุดยิ่งใหญ่ อายุกว่า 460 ปี ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบราชธานีและโมกุล ด้านนอกจะเน้นสีครีมแบบเรียบ ๆ แต่ด้านในมีความฉูดฉาดและซับซ้อนมาก แต่ละห้องแต่ละโซนจะแตกต่างกันออกไป เดินชมไปแต่ละชั้นบางทีก็แอบนึกว่าหรือนี่ฉันหลุดไปในอีกสถานที่หนึ่งแล้ว เพราะห้องหับเยอะและกว้างขวางมากจริง ๆ อีกทั้งเครื่องประดับตกแต่ง โคมไฟระย้า เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้ดูเก่าหรือล้าสมัยเลยแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและร่ำรวยจัดจ้านของอาญาจักรได้เป็นอย่างดี กาลเวลาไม่สามารถทำให้ความสวยงามและแข็งแกร่งของพระราชวังหม่นหมองลงได้แม้แต่น้อย

𝐆𝐚𝐧𝐠𝐚𝐮𝐫 𝐆𝐡𝐚𝐭
Gangori Ghat ท่าน้ำหลักที่ตั้งอยู่ริมน้ำของทะเลสาบ Pichola เป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ในบริเวณเดียวกันยังมีคฤหาสน์สมัยศตวรรษที่ 18 อย่าง Bagore-ki-Haveli ซึ่งนายกฯ เก่าสร้างไว้ ปัจจุบันที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์และพื้นที่จัดแสดงภาพในอดีตอันรุ่งเรืองของราชวงศ์

เราขอยกให้อินเดียคือประเทศแห่งสีสันที่ไม่เคยซ้ำ ได้แต่งแต้มแต่งเติมพลังบวกและเอเนอจี้ให้ชีวิตทุกครั้งที่ไปเยือน
ความสุดของธรรมชาติ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ศาสนา วิถีชีวิต มันตราตรึงใจเราเสมอ
นี่ยกมาเป็นน้ำจิ้มแค่ 2 เส้นทางบิน 6 เมืองเท่านั้นนะ อย่าลืมว่าแอร์เอเชียเขามีบินตรงสู่อินเดียมากที่สุด 12 เส้นทางกันเลย บินคุ้ม คุณภาพครบ ราคาดีแถมตรงเวลา แล้วคราวหน้าเราจะมาแนะนำเส้นทางอื่น ๆ ให้ได้เที่ยวตาม และอยากออกไปตกหลุมรักอินเดียมากขึ้นแน่
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่