24 ข้อที่ได้จาก “การคิดอย่างไร... ไม่ให้คิดไปเอง” ภาพที่เห็นไม่ใช่ทั้งหมดของความจริง การตัดสินจากสิ่งที่ตาเห็น คือกับดักของความเข้าใจผิด ผลลัพธ์คือปลายทาง ไม่ใช่กระบวนการ คนที่เก่งแล้ว... ก็ใช้เวลานานกว่าจะมีถึงจุดนี้ และเอาจริงก็ล้มและพลาดมาไม่น้อย “เราก็ทำได้” คือความคิดหลอกตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อยังไม่เคยลองทำจริงจัง การฝึกฝนไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา แต่คือการยอมรับความผิดพลาด คิดไปเอง = หยุดเรียนรู้ เพราะคิดว่า “พอแล้ว” ทั้งที่จริงๆ เรายังไม่เริ่มต้นด้วยซ้ำ อคติที่ซ่อนอยู่ในคำว่า “มุมมองส่วนตัว” มักจะเป็นการยืนยันความเชื่อเดิมมากกว่าจะเปิดใจฟัง เราไม่ได้โง่ที่ไม่เก่งทันที แต่ความผิดพลาดของเรื่องนี้อยู่ที่เราไม่พยายามที่จะเรียนรู้และฝึกฝน ทุกความเชื่อที่เราเห็นหรือรับรู้ คือ สิ่งที่เราควรตั้งคำถามก่อนที่จะเชื่ออย่างสนิทใจ อย่าใช้ไม้บรรทัดของตัวเองไปวัดชีวิตคนอื่น ภาพลวงตาของ “ความง่าย” มักมาจากการมองแค่ภายนอก การเปรียบเทียบที่ไม่ยุติธรรมที่สุด คือการเอาจุดเริ่มต้นของเราไปเทียบกับจุดสูงสุดของคนอื่น ความคิดที่ไม่ได้กรอง = ความคิดที่ทำให้ตรรกะของเราพัง การคิดไปเอง มักเริ่มจากข้อมูลไม่พอและความมั่นใจเกินไป การคิดแบบมีหลักฐาน ดีกว่าการคิดที่ใช้อารมณ์เป็นหลัก ความมั่นใจที่แท้จริงต้องมีพื้นฐานจากประสบการณ์และสิ่งที่เรียนรู้ ไม่ใช่แค่การใช้ความรู้สึกมาตัดสิน ความรู้สึกที่ว่า “ง่าย” มักหลอกเราเสมอ ไม่มีใครเก่งเพราะโชคหรอกนะ เราทุกคนต้องผ่านการขัดเกลาและทำซ้ำๆ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ทุกการตัดสินควรมีข้อมูลรองรับที่พิสูจน์ได้ คำว่า “ไม่ยาก” มักออกจากปากคนที่ยังไม่เคยลงมือทำ ฝึกคิดให้เหมือนนักวิทยาศาสตร์ ถ้าอยากจะลดอคติลง ทุกอคติ คือกำแพงต่อการเข้าใจคนอื่น รวมถึงการรับฟังด้วย มองให้ครบรอบด้าน อย่ามองแค่สิ่งที่อยากมอง ความล้มเหลวของเรา บางทีมาจากการคิดว่าเราทำได้ โดยไม่ฝึกให้ทำได้จริง การไม่คิดไปเอง คือการเปิดใจเรียนรู้ ก่อนจะตัดสิน... คิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง สำนักพิมพ์บิงโก Bingo (1) https://s.shopee.co.th/7KjrixAhe6 (2) https://s.lazada.co.th/s.ENP4T?cc
แสดงความคิดเห็น