บอดี้ ศพ#19 ภาพยนตร์ไทยแนว Mystery Psychological Horror-Thriller จากค่าย GTH ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ซึ่งเขียนบทโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ และ ปวีณ ภูริจิตปัญญา
นำแสดงโดย
- เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ รับบทเป็น ชลสิทธิ์
- แป้ง อรจิรา แหลมวิไล รับบทเป็น เอ๋ (พี่สาวของ ชลสิทธิ์)
- เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร รับบทเป็น หมออุษา (ภรรยาของ หมอสุธี)
- ปลาย ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบทเป็น หมอสุธี (สามีของ หมออุษา)
- เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล รับบทเป็น ดาราราย
รับชมได้ทาง NETFLIX
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ ชลสิทธิ์ นักศึกษาหนุ่มคณะวิศกรรมศาสตร์ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวชื่อ เอ๋ ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ วันหนึ่ง ชลสิทธิ์ ตื่นขึ้นมาในโรงละครที่กำลังทำการแสดงดนตรีอยู่อย่างงงๆ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไร เขาก็รีบเดินออกมาข้างนอก และเดินทางกลับบ้านทันที ตั้งแต่นั้นมา ชลสิทธิ์ มักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมฆ่าหั่นศพหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ตลอดเวลา และในฝันนั้นเขายังเห็นผีตนหนึ่งที่มักจะเอ่ยถึงชื่อ ดาราราย ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้
อาการฝันร้ายของ ชลสิทธิ์ เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงถึงขั้นที่เขาไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท จนสภาพร่างกายและจิตใจค่อยๆ แย่ลง แถมบางครั้งมันทำให้เขาเห็นภาพหลอนของผีตนนั้นที่คอยตามมาหลอกหลอนเขา จนกระทั่งเขาพลั้งมือบีบคอ เอ๋ จนเกือบตายเพราะคิดว่าเป็นผี
เอ๋ จึงขอให้เขาไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เขาจึงได้ติดต่อขอเข้ารับการรักษากับ หมออุษา ตามคำแนะนำของ หมอจิ๊บ ที่ได้แนะนำให้กับเขาในวันที่เขาได้เข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาล
แต่หลังจากเข้าพบ หมออุษา เขาก็คิดว่าการรักษาไม่น่าจะได้ผล เขาจึงพยายามสืบหาต้นตอของฝันร้ายนั้นเองว่าผีตนนั้นต้องการอะไรจากเขา แล้วชื่อ ดาราราย ที่เขาได้ยินจากผีตนนั้นคือใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุฆาตกรรมที่เขาฝันถึง
ยิ่งสืบหาความจริง ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสก็ยิ่งปรากฏ ความจริงนั้นคืออะไร ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะ ทางช่อง Netflix
ความรู้สึกหลังจากดูจบ
บทหนังดีมาก แถมพอทุกอย่างเฉลยแล้วก็สามารถคลายปมทุกอย่างได้อย่างกระจ่างแทบจะไม่มีแผลเลย หนังไทยน้อยเรื่องมากฮะที่จะทำได้แบบนี้ (เพราะที่เห็นๆ มาจากหลายๆ เรื่อง แม้บทจะดี ดำเนินเรื่องดี หรือเล่าเรื่องดี แต่พอวิเคราะห์องค์รวมแล้วก็ยังจะเห็นบาดแผลของหนังซ่อนอยู่จุดนู้นจุดนี้เต็มไปหมด)
หนังสามารถนำประเด็นของคนเป็น โรค MPD (Multiple Personality Disorder) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคหลายบุคลิก มาเล่นได้อย่างชาญฉลาดมากฮะ เห็นได้ชัดว่ามีการทำการบ้านมาอย่างดี ไม่มีจุดที่ให้จับผิดได้เลย
สิ่งเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้ที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็คือ การเดินเรื่องในช่วงต้นจนถึงกลางเรื่องที่ค่อนข้างจะอืดและเนือยไปหน่อย ทำให้บางช่วงแอบมีเบื่อๆ ไปบ้าง แต่ก็เหมือนจะรู้ เพราะทันทีที่เราเริ่มเบื่อหนังก็จะใส่อะไรที่น่าสนใจเพื่อดึงให้เรากลับมาอยู่กับหนังต่อได้