[รีวิว] Doctor Climax (ปุจฉาพาเสียว) ซีรีส์ไทยที่กล้าแตะประเด็นเรื่องเพศอย่างตรงไปตรงมา [Series]
ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ | ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ | Netflix
Doctor Climax (ปุจฉาพาเสียว) ซีรีส์ Original Series ของ Netflix จากโครงการทีไทยทีมันส์ แนว Dark Comedy Drama ที่จะพาเราย้อนกลับไปสัมผัสถึงบรรยากาศในช่วงยุค 70 ในยุคที่สังคมไทยยังไม่เปิดกว้างในเรื่องของการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเพศ
เขียนบทและกำกับโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี และ ไพรัช คุ้มวัน
นำแสดงโดย
- ฉันทวิชช์ ธนะเสวี รับบทเป็น หมอนัท
- เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค รับบทเป็น ตุ๊กตา
- อรัชพร โภคินภากร รับบทเป็น ลินดา
- ต้นหน ตันติเวชกุล รับบทเป็น เพิ่มพล
- ชัยวัฒน์ ทองแสง รับบทเป็น ทองเทียน
- สมชาย ศักดิกุล รับบทเป็น ชูศักดิ์ ใจทอง
- นิมิตร ลักษมีพงศ์ รับบทเป็น พรชัย
รับชมได้ทาง Netflix (มีจำนวนทั้งหมด 8 ตอน)
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ หมอนัท แพทย์ผิวหนังฝีมือดี ที่เรียนจบมาเพื่อเป็นหมอตามทางเดินที่ครอบครัวของเขาขีดเส้นทางไว้ให้ หมอนัท ใช้ชีวิตในแต่ละวันไปด้วยความเบื่อหน่าย แม้กระทั่งชิวิตสมรสกับ ตุ๊กตา ภรรยาสาวที่ถูกแต่งมาด้วยวิธีคลุมถุงชน ก็จืดชืดทั้งเรื่องในบ้านและเรื่องบนเตียง
โดยลึกๆ แล้ว หมอนัท ก็ไม่ได้ชอบชีวิตแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มากนัก เขาใฝ่ฝันที่จะได้ออกไปค้นหาการใช้ชีวิตแบบโลดโผนตื่นเต้น แต่ด้วยสถานะทางครอบครัวและการถูกปลูกฝังมาแบบนี้ จึงทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่อยากจะเป็นได้
ดังนั้นสิ่งเดียวที่ หมอนัท ทำให้กับตัวเองได้ คือการพยายามที่จะเป็นนักเขียนนิยายผจญภัย เขาใส่จินตนาการทุกสิ่งอย่างเท่าที่เขาจะทำได้ลงไปในนิยายที่เขาแต่งเพียงเพื่อให้มันได้เติมเต็มความฝันที่เขาไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริงและเป็นสิ่งที่ทำให้สามารถหลุดออกจากกรอบชีวิตนี้
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้มีโอกาสไปเป็นคอลัมน์นิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์ บางกอกทันข่าว ในคอลัมน์ที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและตอบคำถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศทุกประเภท และที่นั่นเองคือจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต หมอนัท และคนรอบตัวไปตลอดกาล
ความรู้สึกหลังรับชม
นี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่ให้เพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน 1 ในจดหมายเหตุของหน้าประวัติศาสตร์ไทยที่นำเสนอเรื่องราวในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศได้อย่างละเอียดและน่าสนใจมากทีเดียว เป็นการผสมผสานระหว่างความสนุกสนานและการให้ความรู้ ที่จะทำให้ผู้ชมทั้งได้รับความบันเทิงและได้ข้อคิด
งานสร้างถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ทั้งบรรยากาศ ฉาก โลเคชั่น และ คอสตูม ที่มีส่วนช่วยพาให้เราคนดูได้ย้อนกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศในยุค 70s ได้เป็นอย่างดี
ครั้งแรกที่เห็นตัวอย่าง ก็เข้าใจว่าซีรีส์จะมาในโทนคล้ายๆ กับ “Sex Education” หรือ “American Pie” ที่เล่าเรื่องราวผ่านปัญหาทางเพศในแง่มุมต่างๆ ซึ่งในช่วงต้นของซีรีส์ก็ทำท่าว่าจะมาคล้ายๆ แบบนั้นแหละฮะ มีการสอดแทรกมุกตลกสัปดนทะลึ่งตึงตังผสมผสานกันไป เพียงแต่ว่าพอนำมาเล่าผ่านมุมมองและวัฒนธรรมแบบสังคมไทย มันจึงเป็นเหมือนตลกร้ายกับเรื่องเพศศึกษาในแง่มุมต่างๆ ที่ใครๆ ก็อยากรู้ แต่ไม่มีใครกล้าถาม
แต่หลังจากที่ผ่านครึ่งทางไปและเข้าสู่ตอนที่ 6 เราคนดูก็เหมือนถูกตีหัวจนมึนตึ้บ ด้วยการหักมุมเมื่อถึงจุดเปลี่ยนของตัวละคร ตัวเรื่องก็เปลี่ยนวิธีการนำเสนอจากตลกร้ายเข้าสู่โหมดดาร์ก ดราม่าหนักๆ จัดเต็มได้แบบไม่มีความประนีประนอมกับคนดูเลย ซึ่งในจุดนี้ยอมรับเลยว่าโดนสุดๆ ฮะ เพราะถ้าเล่าเรื่องราวแบบช่วงครึ่งแรกของเรื่องไปเรื่อยๆ จนจบซีซั่น ตัวซีรีส์คงไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนัก
โดย MVP ของเรื่องนี้ต้องขอยกให้ แพรว-เฌอมาวีร์ และ ก้อย-อรัชพร เลยฮะ การแสดงคือขั้นสุดจริงๆ ฮะ มีเสน่ห์มาก
และแม้ตัวซีรีส์จะมีแอบจิกกัดสังคมแบบผ่านๆ แต่ก็พอทำให้รู้สึกเจ็บลึกๆ อยู่เหมือนกันนะฮะ ทั้งเรื่องของคนประเภทมือถือสากปากถือศีล, เรื่องของสังคมชายเป็นใหญ่และความไม่เท่าเทียมระหว่างชาย-หญิง เป็นต้น
สำหรับใครที่หวังจะเข้ามาดูฉากเซ็กซ์แบบจัดเต็ม ก็อย่าไปคาดหวังอะไรมากนะฮะ เพราะยังไงนี่ก็ยังเป็นซีรีส์ไทย ซึ่งก็คงจะทำอะไรแบบโจ่งครึ่มแบบซีรีส์ฝรั่งไม่ได้นะฮะ อาจจะมีก็เพียงแค่ฉากวับๆ แวมๆ อยู่บ้างเท่านั้น
สรุป >> ให้ไป 9 เต็ม 10 เพราะ 3 ตอนสุดท้ายเลยฮะ (หัก 1 คะแนนให้กับช่วงต้น-กลางเรื่องที่ดูยืดๆ ไปหน่อย) เชิญดูได้เลยฮะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่