JU-ON: Origins (จูออน กำเนิดโคตรผีดุ, 呪怨: 呪いの家) ทีวีซีรีส์สยองขวัญของญี่ปุ่น ที่ผลิตโดย NETFLIX Original Series มีจำนวนทั้งหมด 6 ตอน ตอนละประมาณ 30 นาที เริ่มเผยแพร่ให้รับชมกันตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2020
ดูแลงานสร้างและเขียนบทโดย Hiroshi Takahashi และ Takashige Ichise
กำกับโดย Sho Miyake
- YosiYosi Arakawa รับบทเป็น Yasuo Odajima
- Yuina Kuroshima รับบทเป็น Haruka Honjo
- Ririka รับบทเป็น Kawai Kiyomi
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
จูออน กำเนิดโคตรผีดุ ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง ของคดีฆาตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ตลอด 40 ปีที่ผ่านมาเรื่องราวของเวอร์ชั่นนี้อยู่ในช่วงปี 1988-1997 โดยจะโฟกัสไปที่ตัวละคร 3 คน ที่มีความเกี่ยวพันกับบ้านหลังหนึ่ง
- Haruka Honjo นักแสดงสาวหน้าใหม่ ที่ได้มาออกรายการทีวีในช่วงเล่าเรื่องประสบการณ์หลอนเหนือธรรมชาติ เธอเล่าว่า ในช่วงกลางดึก เธอมักจะได้ยินเสียงฝีเท้าปริศนาเดินไปบ้านในบริเวณที่อพาร์ทเม้นท์ที่เธออาศัยอยู่ ซึ่งเธอสามารถบันทึกเสียงดังกล่าวเอาไว้ได้
- Yasu Odajima นักวิจัยเหตุเหนือธรรมชาติและเป็นนักเขียนเกี่ยวกับเรื่องลึกลับต่างๆ เขาเป็นพิธีกรร่วมในรายการทีวีในช่วงเล่าเรื่องประสบการณ์หลอนเหนือธรรมชาติ และเขาเองที่เป็นคนแนะนำให้ ฮารุกะ อัดเสียงฝีเท้าที่เธอได้ยินเอาไว้
- Kawai Kiyomi นักเรียนสาวชั้นมัธยมปลาย ที่ถูกคุณแม่พาย้ายมาเข้าโรงเรียนใหม่ในช่วงกลางเทอม และเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นหลังจากที่เธอได้มาเข้าเรียน ที่ทำให้เธอได้พบเจอกับความโหดร้ายของเพื่อนมนุษย์ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล
ต้องไปติดตามกันเองนะฮะว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้ง 3 คน และพวกเขาเกี่ยวข้องกับบ้านเฮี้ยนหลังนั้นอย่างไร
สิ่งที่แตกต่างจากทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมาคือ ไม่มีตัวละคร คายาโกะ และโทชิโอะ ผี 2 แม่ลูกสุดเฮี้ยนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์ชุดนี้ไปซะแล้ว (แต่จะว่าไปก็เอียนกับผีแม่-ลูกนี่เหมือนกันนะฮะ)
และถ้าใครเป็นแฟนของหนังชุดนี้อาจจะผิดหวังกันไปบ้างก็ตรงชื่อซีรีส์ที่คำว่า Origins ที่เราคาดหวังว่าจะได้ไปพบกับจุดกำเนิดของความเฮี้ยนของผีแม่-ลูก คายาโกะ และโทชิโอะ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นก่อนที่ทั้ง 2 แม่-ลูกจะเสียชีวิตจนกลายมาเป็นผีเฮี้ยนประจำบ้านหลังนี้ แต่ไม่ใช่เลย ซีรีส์กลับพาเราไปยังจุดกำเนิดของคดีอื่นแทนซะงั้น
รวมถึงวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างไปจากเวอร์ชั่นก่อนๆ คือดำเนินเรื่องไปตามไทม์ไลน์ของเรื่องเลย แม้จะมีบ้างบางช่วงที่เป็น Flashback ของบางตัวละคร แต่ก็ไม่กระโดดไปกระโดดมาเหมือนที่ในฉบับภาพยนตร์ทำ
ซึ่งข้อดีของการเล่าเรื่องแบบนี้คือทำให้เราอินไปกับเนื้อเรื่องที่ซีรีส์พาเราไปได้ตลอดทั้งซีซั่นได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องมานั่งพะวงหรือนั่งงงกับตัวละครอะไรทั้งนั้น
แต่ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น สไตล์การดำเนินเรื่องจะไปแบบเรื่อยๆ สลับกับฉากตื่นเต้น ซึ่งถ้าใครไม่ชินหรือสมาธิสั้นอาจจะมีหาวบางในบางช่วง
โดยรวม ซีรีส์ชุดนี้เหมือนจะเป็นแนวฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนซะมากกว่า โดยมีผีเป็นส่วนประกอบเท่านั้น และก็ไม่ได้โผล่มามากมายนัก ส่วนใหญ่ความสยองของเรื่องจะให้บรรยากาศองค์รวมของซีรีส์พาไปซะมากกว่า คือความหลอนและความสยอง มันอยู่ในตัวเนื้อเรื่องอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาฉากตุ้งแช่อะไรมากมายเลย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีมาก
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของซีรีส์ชุดนี้ คือการหยิบเอาความเน่าเฟะของสังคมมาตีแผ่ทั้งในส่วนของเนื้อเรื่องหรือจากภาพข่าวที่แทรกมาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นสารสำคัญที่ทีมงานต้องการนำเสนอให้คนดูได้รับรู้ถึงผลจากการกระทำที่โหดร้ายที่เหยื่อที่ถูกกระทำจะต้องอยู่กับมันตลอดชีวิต
จูออน เคยถูกนำมาสร้างเป็นฉบับภาพยนตร์มาแล้วหลายภาค ทั้งเวอร์ชั่นที่เป็นญี่ปุ่นและเวอร์ชั่นอเมริกา ดังนี้
- Katasumi and 4444444444 (1998 – ภาพยนตร์สั้นที่ฉายทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่น)
- Ju-On: The Curse (2000 – V-Cinema เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- Ju-On 2: The Curse 2 (2000 – V-Cinema เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- Ju-On: The Grudge (2002 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- Ju-On: The Grudge 2 (2003 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- The Grudge (2004 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
- The Grudge 2 (2006 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
- The Grudge 3 (2009 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
- Ju-On: Black Ghost (2009 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
- Ju-On: White Ghost (2009 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
- Ju-On: The Beginning of the End (2014 – ฉบับรีบู๊ทของภาพยนตร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- Ju-On: The Final Curse (2015 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่น)
- Sadako vs. Kayako (2016 – โปรเจค Crossover ระหว่างภาพยนตร์ชุด The Ring กับ Ju-On)
- The Grudge (2020 – ภาพยนตร์เวอร์ชั่นอเมริกา)
สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากเพจไว้ด้วยเช่นเคย คลิกกันเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมกันได้เลยฮะ