รีวิว The Glory นี่คือนิยามของคำว่า 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย

แมวโม้รีวิว

แมวผู้รักในการดูหนัง, ซีรีส์ และอนิเมะ รวมทั้งยังชื่นชอบในการอ่านการ์ตูนอีกด้วย และหลังจากดูแล้ว อ่านแล้ว ก็อยากจะเขียนบรรยายถึงความรู้สึกหลังจากได้ดูได้อ่านไป แต่แมวไม่ใช่กูรู แมวไม่ใช่นักวิจารณ์นะฮะ คะแนนที่ให้ คำรีวิวที่เขียน ล้วนออกมาจากความรู้สึก ชอบ/ไม่ชอบล้วนๆ ฮะ

          [รีวิว] The Glory นี่คือนิยามของคำว่า 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย [Series]
          [Review] The Glory [2022 – 2023]
          The Glory (더 글로리) ทีวีซีรีส์แนว Drama Revenge Thriller Crime สัญชาติเกาหลีใต้ที่ผลิตโดย Netflix
  • เขียนบทโดย Kim Eun-sook
  • กำกับโดย Ahn Gil-ho

นำแสดงโดย

  • Song Hye-kyo (จากซีรีส์เรื่อง Autumn in My Heart และ Fullhouse) รับบทเป็น Moon Dong-eun
  • Jung Ji-so (จากภาพยนตร์เรื่อง Parasite และซีรีส์เรื่อง Hellbound) รับบทเป็น Moon Dong-eun (ช่วงวัยรุ่น)
  • Lim Ji-yeon (จากภาพยนตร์เรื่อง Obsessed, The Treacherous และซีรีส์เรื่อง Monet Heist: Korean) รับบทเป็น Park Yeon-jin
  • Shin Ye-eun รับบทเป็น Park Yeon-jin (ช่วงวัยรุ่น)
  • Park Sung-hoon รับบทเป็น Jeon Jae-joon
  • Song Byeong-geun รับบทเป็น Jeon Jae-joon (ช่วงวัยรุ่น)
  • Cha Joo-young รับบทเป็น Choi Hye-jeong
  • Song Ji-woo รับบทเป็น Choi Hye-jeong (ช่วงวัยรุ่น)
  • Kim Hieora รับบทเป็น Lee Sa-ra
  • Bae Kang-hee รับบทเป็น Lee Sa-ra (ช่วงวัยรุ่น)
  • Kim Gun-woo รับบทเป็น Son Myeong-oh
  • Seo Woo-hyuk รับบทเป็น Son Myeong-oh (ช่วงวัยรุ่น)
  • Lee Do-hyun รับบทเป็น Joo Yeo-jeong
  • Yeom Hye-ran (จากซีรีส์เรื่อง The Uncanny Counter) รับบทเป็น Kang Hyeon-nam
  • Jung Sung-il (จากภาพยนตร์เรื่อง A Frozen Flower) รับบทเป็น Ha Do-yeong
          รับชมได้ทาง Netflix มีจำนวนทั้งหมด 16 ตอน
รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

          เรื่องราวของ มุนดงอึน เด็กสาวชั้นมัธยมปลายปีที่ 5 ที่เป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ทั้งจากเพื่อนนักเรียนและครูประจำชั้น โดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเธอได้เลย เนื่องจากอิทธิพลของครอบครัวเด็กนักเรียนที่รุมรังแกเธอ จนในที่สุดเธอจึงต้องลาออกจากโรงเรียน

          แต่ด้วยความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ยังหลอกหลอนเธออยู่ตลอดเวลา จนเธอไม่สามารถที่จะแบกรับความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนใจเธอให้กลับมาสู้กับชะตากรรมต่อไป
          และตั้งแต่วันนั้นเองที่เธอได้ตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จะกลับมาล้างแค้นกับทุกคนที่เคยทำร้ายเธอ ไม่ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม
          18 ปีผ่านไป ในที่สุดเธอก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนการล้างแค้น
รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

ความรู้สึกหลังดูจบ

          ยอมรับว่าผิดจากที่คิดไว้พอสมควรเลยฮะคือตอนแรกรู้จักซีรีส์เรื่องนี้ว่าเป็นซีรีส์ที่เกี่ยวกับการตามล้างแค้นของตัวละครเอก ก็เข้าใจว่าจะมาในโทนบู๊แอ็คชั่นแก้แค้นซัดกันนัวเหมือนหนังตระกูล John Wick หรือซีรีส์เรื่อง My Name
          แต่พอได้เริ่มดูถึงได้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวนั้น ซีรีส์มาในแนววางแผนที่จะเล่นงานคนที่นางเอกต้องการล้างแค้นโดยที่มือตัวเองไม่เปื้อนเลือด โดยเป้าหมายแต่ละคนที่นางเอกหมายหัวไว้เปรียบเสมือนเป็นตัวหมากในกระดาน ที่จะเดินไปตามเกมที่นางเอกได้วางเอาไว้
          ในซีรีส์ไม่มีฉากแอ็คชั่นใดๆ เลย (นอกจากซีนการทำร้ายร่างกาย ซึ่งไม่น่าจะเรียกว่าเป็นซีนแอ็คชั่นได้นะฮะ) การเดินเรื่องเต็มไปด้วยบทพูดและการเชือดเฉือนคารมกันของตัวละคร ซึ่งทำออกมาได้สนุกเกินคาดมากฮะ ดูไม่เบื่อเลย แม้จะมีบางช่วงที่ดูจะยืดๆ ไปบ้างก็ตาม
          สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากซีรีส์แนวล้างแค้นเรื่องอื่นๆ คือในซีรีส์แนวล้างแค้นทั่วๆ ไป โดยปรกติตัวละครที่วางแผนจะแก้แค้นนั้น มักจะปิดบังตัวเองไม่ให้เป้าหมายรู้ตัวเลยว่าฉันกำลังวางแผนจัดการแกอยู่นะ คือกว่าจะรู้ตัวอีกทีตัวเป้าหมายก็โดนจัดการไปเรียบร้อยแล้ว
รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

          แต่กับเรื่องนี้ นางเอกเปิดหน้าชนและประกาศให้เป้าหมายได้รู้เลยว่า “เฮ้ย มึง กูกลับมาแล้วนะ เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย กูจะเอานรกมาส่งให้ถึงมึงกับมือกูเองเลย มึงเคยทำอะไรกับกูไว้บ้าง จำให้ได้ด้วยนะ” เออ เนี่ย มันเลยดูแล้วรู้สึกสะใจดีฮะ

          และที่ชอบที่สุดเลยก็คือนักแสดงทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ตัวเองสวมบทอยู่ออกมาได้เป็นอย่างดีเลยฮะ เคมีทุกคนเข้ากันดีมาก
          เป็นซีรีส์อีก 1 เรื่องที่สะท้อนสังคมถึงปัญหาการบูลลี่และการใช้ความรุนแรงทั้งในโรงเรียนและในครอบครัวออกมาได้เป็นอย่างดี ที่เชื่อว่ายังคงเกิดขึ้นอยู่ในสังคมทุกประเทศบนโลกใบนี้ และยังมองไม่เห็นหนทางที่จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้เลย หนำซ้ำยังมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นทุกวัน จนกระทั่งลุกลามไปถึงขั้นก่ออาชญากรรมกันได้เลย
          รวมถึงการเสียดสีสังคมทุนนิยมที่คนรวยจะทำอะไรก็ได้ไม่เคยได้รับโทษในความผิดที่ตัวเองก่อไว้ เพียงแค่ใช้เงินและอิทธิพลในการแก้ปัญหา ทุกอย่างก็เคลียร์จบ (กว่าที่เหยื่อจะได้รับความยุติธรรม ก็อาจจะต้องใช้เวลาอย่างยาวนานหลายสิบปี หรือบางเคสก็อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมเลย)
รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

รีวิวซีรีส์

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

          สรุป >> ให้ไปเลยฮะ 9 เต็ม 10 สนุกและตื่นเต้นแม้จะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นใดๆ เลยก็ตาม เป็นอีก 1 ซีรีส์คุณภาพที่สะท้อนปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดี ไม่ควรพลาดเลยฮะ
รีวิวซีรีส์

ขอบคุณภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix, เฟซบุ๊ก Netflix
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ แมวโม้รีวิว
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว The Glory นี่คือนิยามของคำว่า 10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย อัปเดตล่าสุด 23 มิถุนายน 2566 เวลา 16:05:18 6,689 อ่าน
TOP