รีวิว Signal ซีรีส์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซีรีส์สืบสวนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง

แมวโม้รีวิว

แมวผู้รักในการดูหนัง, ซีรีส์ และอนิเมะ รวมทั้งยังชื่นชอบในการอ่านการ์ตูนอีกด้วย และหลังจากดูแล้ว อ่านแล้ว ก็อยากจะเขียนบรรยายถึงความรู้สึกหลังจากได้ดูได้อ่านไป แต่แมวไม่ใช่กูรู แมวไม่ใช่นักวิจารณ์นะฮะ คะแนนที่ให้ คำรีวิวที่เขียน ล้วนออกมาจากความรู้สึก ชอบ/ไม่ชอบล้วนๆ ฮะ

          [รีวิว] Signal (สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา) ซีรีส์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซีรีส์สืบสวนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง [Series]

[Review] Signal (สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา) [2016]

          Signal (시그널, สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา) ซีรีส์แนว Suspense Crime สัญชาติเกาหลีใต้ ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เรื่อง Frequency (เจาะเวลาผ่าความถี่ฆ่า) ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2000 (นำแสดงโดย Dennis Quaid และ Jim Caviezel) โดยแต่ละคดีที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้น ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากคดีที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลีใต้
          ซีรีส์ชุดนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์สืบสวนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของเกาหลีใต้เลย ซึ่งการันตีด้วยรางวัลบทประพันธ์ยอดเยี่ยม, ซีรีส์ยอดเยี่ยมจาก 52nd Baeksang Arts Awards 2016 และรางวัลนักเขียนยอดเยี่ยมจาก 5th APAN Star Awards 2016
  • เขียนบทโดย Kim Eun-hee
  • กำกับโดย Kim Won-seok

นำแสดงโดย

  • Lee Je-hoon รับบทเป็น Park Hae-young
  • Kim Hye-soo รับบทเป็น Cha Soo-hyun
  • Cho Jin-woong รับบทเป็น Lee Jae-han
  • Jang Hyun-sung รับบทเป็น Kim Bum-joo
  • Jung Hae-kyun รับบทเป็น Ahn Chi-soo
  • Kim Won-hae รับบทเป็น Kim Gye-chul
  • Lee Yoo-jun รับบทเป็น Jung Han-ki
  • Kang Chan-hee รับบทเป็น Park Sun-woo
รับชมได้ทาง Netflix และ Disney+ Hotstar มีจำนวนท้งหมด 16 ตอน
รีวิว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Viu Thailand

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

          เรื่องราวของ ผู้หมวดพัคฮเยยอง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร ที่สูญสิ้นศรัทธาในการทำงานของตำรวจเนื่องจากปมเหตุในสมัยเด็กของเขา เมื่อ พัคซุนอู พี่ชายของเขาต้องกลายเป็นแพะรับบาปในคดีรุมโทรมเด็กนักเรียนหญิงเขตอินจู และหลังจากพ้นโทษออกมาพี่ชายของเขาก็มาเสียชีวิตไปจากการฆ่าตัวตาย โดยที่เขาเองเป็นผู้พบศพของพี่ชายภายในบ้าน
          วันหนึ่งหลังจากที่ พัคฮเยยอง ย้ายมาประจำการอยู่ที่สถานีตำรวจจินยังนั้น เขาได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากวิทยุสื่อสารเก่าๆ เครื่องหนึ่งอยู่ในถุงขยะที่กำลังจะนำไปทิ้ง โดยปลายสายของวิทยุสื่อสารนั้นคือ ตำรวจสายสืบอีแจฮัน ที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้ว โดย อีแจฮัน ได้พูดถึงเบาะแสสำคัญอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน และกำลังจะหมดอายุความ พวกเขาจึงต้องพยายามช่วยกันสืบหาตัวคนร้ายตัวจริงให้ได้ก่อนที่คดีนี้จะหมดอายุความในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
          และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของชะตากรรมที่ผูกโยงระหว่าง พัคฮเยยอง และ อีแจฮัน ที่มีชีวิตอยู่กันคนละช่วงเวลา
รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

รีวิว

ภาพจาก : tvN

ความรู้สึกหลังดูจบ

          โอ้โห!!! สมคำร่ำลือจริงๆ ฮะ ดำเนินเรื่องได้ดีมากๆ บทดี เดินเรื่องไว ตื่นเต้น และสนุกมากๆ แต่ละตอนชวนให้ติดตามเรื่อยๆ เลยฮะ (คำว่า “ขออีกตอนพอ จะนอนแระ” ใช้ไม่ได้กับเรื่องนี้ฮะ)
          ซีรีส์เล่าเรื่องราว 2 ช่วงเวลา ผ่านตัวละครหลัก 2 ตัวคือ พัคฮเยยอง และ อีแจฮัน ซึ่งจุดนี้เองที่อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบหนัง/ซีรีส์ที่เล่าสลับช่วงเวลาไปมาแบบนี้ และที่สำคัญคือ สำหรับตัวละคร อีแจฮัน นั้น ก็ไม่ได้อยู่แค่ในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น เพราะเรื่องราวของเขานั้น จะย้อนไปเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ในช่วงปี 1989-2000 เลยทีเดียว (ในขณะที่ตัว พัคฮเยยอง นั้นจะอยู่แค่ในช่วงปี 2015 เท่านั้น)
          ซึ่งช่วงแรกๆ ที่ดู ก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าซีรีส์จะมองข้ามเรื่องของกฎการเปลี่ยนแปลงอดีต ประเภท Butterfly Effect หรือเปล่านะ แต่สรุปคือไม่หลุดฮะ เก็บรายละเอียดในส่วนนี้ได้ดีพอสมควร
          สิ่งหนึ่งที่ชอบเลยสำหรับเรื่องนี้ (รวมถึงซีรีส์เกาหลีแนวนี้อีกหลายๆ เรื่อง) ก็คือ การกล้าเล่นเกี่ยวกับเรื่องของการคอรัปชั่น การใช้อำนาจในทางที่ผิดของผู้ที่มีตำแหน่งระดับสูง ซึ่งถ้าเป็นบ้านเรา ไอเรื่องทำนองนี้คงไม่มีมาให้เห็นแน่นอน หรือถ้าใครทำออกมาก็คงจะโดนแบนไปตามระเบียบ ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเรื่องที่เราๆ ท่านๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ามันมีเรื่องแบบนี้ในสังคมเราจริงๆ แต่มันพูดไม่ได้
          แต่สำหรับจุดที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก ก็จะมีอยู่ 2 จุดคือ ในช่วงประมาณ 4 EP สุดท้ายที่ค่อนข้างจะยืดไปหน่อย แทนที่อารมณ์หนังมันใกล้จะถึงจุดไคลแมกซ์แล้ว แต่กลับไปยืดและอัดซีนดราม่ามากเกินไปจนรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด อีกจุดหนึ่งก็คือตอนจบที่มันให้ความรู้สึกว่ามันยังไม่จบอ่ะ ไม่ใช่ว่าอารมณ์เราไม่จบแบบประมาณว่า Move On ไม่ได้นะฮะ แต่คือมันจบแบบยังไม่จบอ่ะฮะ มันค้างคามากกว่า จนอยากจะตะโกนบอกผู้กำกับว่าขอต่ออีกสักตอนให้มันเคลียร์ๆ หน่อยได้มั้ยฟระ
รีวิว

          สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 นะฮะ เดินเรื่องไว บทแข็งแรงมาก ดูสนุกและชวนให้ติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Viu Thailand, tvN
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ แมวโม้รีวิว
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว Signal ซีรีส์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซีรีส์สืบสวนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง อัปเดตล่าสุด 12 เมษายน 2566 เวลา 16:32:12 7,097 อ่าน
TOP