รีวิว Hunger คนหิวเกมกระหาย หนังดีจริงหรือเป็นแค่กระแส

แมวโม้รีวิว

แมวผู้รักในการดูหนัง, ซีรีส์ และอนิเมะ รวมทั้งยังชื่นชอบในการอ่านการ์ตูนอีกด้วย และหลังจากดูแล้ว อ่านแล้ว ก็อยากจะเขียนบรรยายถึงความรู้สึกหลังจากได้ดูได้อ่านไป แต่แมวไม่ใช่กูรู แมวไม่ใช่นักวิจารณ์นะฮะ คะแนนที่ให้ คำรีวิวที่เขียน ล้วนออกมาจากความรู้สึก ชอบ/ไม่ชอบล้วนๆ ฮะ

          [รีวิว] HUNGER (คนหิว เกมกระหาย) หนังดีจริงหรือเป็นแค่กระแส [Movie]

[Review] HUNGER (คนหิว เกมกระหาย) [2023]

          HUNGER (คนหิว เกมกระหาย) อีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่เป็น Original Netflix ซึ่งผลิตโดย ซองซาวด์ โปรดักชั่น
  • เขียนบทโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี และ สิทธิศิริ มงคลศิริ
  • กำกับโดย สิทธิศิริ มงคลศิริ
  • อำนวยการสร้างโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี และ โสฬส สุขุม

นำแสดงโดย

  • ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง รับบทเป็น ออย
  • นพชัย ชัยนาม รับบทเป็น เชฟพอล
  • กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา รับบทเป็น โตน
  • ภูมิภัทร ถาวรศิริ รับบทเป็น อู๋
  • วฤธ ลีสวรรค์ รับบทเป็น ทศ
          รับชมได้ทาง Netflix
hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

hunger

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

hunger

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

          เรื่องราวของ ออย หญิงสาวที่จำเป็นต้องสานต่อธุรกิจร้านขายราดหน้า-ผัดซีอิ๊วของครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อเริ่มแก่ตัวและยังต้องส่งเสียน้องสาวเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
          แต่แล้ววันหนึ่ง ออย ก็ได้พบกับ โตน เชฟหนุ่มที่เป็น 1 ในทีม ฮังเกอร์ ที่นำทีมโดย เชฟพอล เชฟชื่อดังอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่ง โตน รู้สึกประทับใจในรสชาติผัดซีอิ๊วของ ออย เขาจึงได้ชักชวน ออย ให้มาเข้าร่วมทีม ฮังเกอร์ แทนคนเก่าที่เพิ่งออกจากทีมไป
          ด้วยความที่อยากจะดิ้นรนออกจากชีวิตและสังคมที่ลำบากยากแค้น และอยากเป็นคนพิเศษเป็นที่ยอมรับของทุกคน ออย จึงตัดสินใจไปตามคำชักชวนของ โดน
          และการตัดสินใจในครั้งนั้นนั่นเองที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตและมุมมองของ ออย ไปตลอดกาล
hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

hunger

ภาพจาก : เว็บไซต์ Netflix

ความรู้สึกหลังดูจบ

          ความรู้สึกแรกที่แว๊บเข้ามาเลยตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรกของหนังคือ “ทำไมหนังมันดูประดิษฐ์จังวะ” มันรู้สึกถึงความไม่ธรรมชาติของทั้งไดอะลอคและตัวละครทั้งตัวละครหลักและตัวประกอบทั้งหมดเลย
          และไม่ใช่เพียงแค่ 10 นาทีแรกเท่านั้น เพราะความรู้สึกนี้มันก็ยังตามมาตลอดทั้งเรื่องจนหนังจบเลยฮะ โดยเฉพาะไดอะลอคที่เต็มไปด้วยภาษาที่เหมือนภาษาเขียนมากกว่าที่จะเป็นภาษาพูด และเต็มไปด้วยไดอะลอคการกระทบกระเทียบ แอบแซะ และจิกกัดวิถีชีวิต-ความเหลื่อมล้ำของสังคมในยุคนี้ โดยการยัดใส่ปากตัวละครให้พ่นออกมา ซึ่งมันมากเสียจนรู้สึกว่ามันขาดชั้นเชิงในการนำเสนอไปเลย
          เหมือนคนสร้างตั้งใจจะสื่อสารกับคนดูว่า “นี่พวกคุณ เราจะทำหนังที่ประชดประชันสังคมความเหลื่อมล้ำนะ นี่ๆ ฉากนี้ เราจะพูดกันเรื่องนี้นะ ฉากนั้น เราจะด่าเรื่องนี้นะ” คือมันเปิดออกมาโต้งๆ เลย โดยที่คนดูไม่จำเป็นต้องคิดตามหรือตีความอะไรมากมายก็รับรู้ได้ว่าคุณกำลังด่าใครอยู่
          และพอเราไม่ต้องคิดหรือตีความอะไรมากกับสารที่คนทำหนังต้องการสื่อ เราจึงหันไปโฟกัสกับแผล, กับพลอตโฮล และความไม่สมจริงที่มีอยู่เต็มไปหมดตลอดทั้งเรื่องแทน และมันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าหนังขาดการทำการบ้านเกี่ยวกับการนำเสนออาชีพเชฟหรือคนทำอาหารไปเยอะพอสมควร (ซึ่งแม้ส่วนตัวจะไม่ใช่คนที่ทำอาหารเป็น แต่ก็ผ่านการดูรายการสอนทำอาหาร และการแข่งขันทำอาหารทั้งของไทยและต่างชาติมาหลายรายการอยู่ ก็พอจะทำให้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับวิถีของการทำอาหารอยู่บ้างนะฮะ)
          อีกทั้งตัวละครในทีม ฮังเกอร์ คนอื่นๆ ที่มีคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจมากๆ อยู่หลายตัว ก็ไม่ได้ถูกหยิบมาใช้งานอะไรเลย ถูกเขี่ยทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่ตอนแนะนำตัวละครเหล่านี้ ก็เหมือนจะมีอะไรให้เล่นอยู่เยอะ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่ตัวประกอบที่ใส่มาเพื่อให้ทีมมีจำนวนคนครบๆ เท่านั้นเอง
          แล้วตามธรรมเนียมของหนังแนวนี้ ที่ว่าด้วยเรื่องการออกเดินทางตามหาความฝัน, การดิ้นรนหาเส้นทางของตัวเอง หรือหาแสงมาประดับตัวเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ เป็น Somebody ในสังคม ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม สุดท้ายหนังก็มักจะลงเอยในทำนองว่า “สูงสุดกลับคืนสู่สามัญ” แต่กับตอนจบของ ฮังเกอร์ คนหิว เกมกระหาย กลับให้ความรู้สึกเหมือนดูละครอย่าง “ฟ้ามีตา” ไปได้ซะงั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องที่ไม่สามารถผลักดันอารมณ์และภาพรวมของเรื่องให้พีคพอที่จะส่งออกมาให้ถึงคนดูได้ สิ่งที่ต้องการนำเสนอ, สารที่ต้องการจะสื่อ, บทเรียนสุดท้ายที่ต้องการจะสอน มันจึงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
          การดำเนินเรื่องโดยรวม จริงๆ แล้วก็เริ่มต้นมาได้อย่างน่าสนใจและชวนให้ติดตามมากๆ เลยนะฮะ แต่แล้วความน่าสนใจกลับค่อยๆ แผ่วลงจนสุดท้ายในฉากไคลแมกซ์ก็ไม่ได้พีคอย่างที่กล่าวไปข้างต้น มันจึงทำให้รู้สึกว่าหนังมันยาวไปนะ ถ้าลดเหลือสักชั่วโมงครึ่งหรือเกือบๆ 2 ชั่วโมง แล้วเล่นกับแก่นของเรื่องให้กระชับกว่านี้ ก็น่าดีนะ
hunger

          สรุป >> ให้ไป 6.5 เต็ม 10 ละกันฮะ กับความพยายามที่จะยกระดับหนังไทยให้แตกต่างจากหนังตลาดทั่วๆ ไป เพียงแต่ถ้าคนทำหนังให้ความสำคัญกับองค์รวมของหนังและทำการบ้านในส่วนของสายอาชีพที่ตัวเองต้องการนำเสนอให้มากกว่านี้ แทนที่จะไปให้ความสำคัญกับการพยายามประชดประชันเสียดสีจิกกัดสังคมมากจนเกินไป ก็น่าจะทำให้หนังออกมาได้น่าประทับใจกว่านี้ และมีแผลน้อยกว่านี้นะฮะ
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix, เว็บไซต์ Netflix
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ แมวโม้รีวิว
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว Hunger คนหิวเกมกระหาย หนังดีจริงหรือเป็นแค่กระแส อัปเดตล่าสุด 18 เมษายน 2566 เวลา 14:29:16 6,265 อ่าน
TOP