รีวิว Yu Yu Hakusho คนเก่งฟ้าประทาน ดัดแปลงจากมังงะยุค 90

แมวโม้รีวิว

แมวผู้รักในการดูหนัง, ซีรีส์ และอนิเมะ รวมทั้งยังชื่นชอบในการอ่านการ์ตูนอีกด้วย และหลังจากดูแล้ว อ่านแล้ว ก็อยากจะเขียนบรรยายถึงความรู้สึกหลังจากได้ดูได้อ่านไป แต่แมวไม่ใช่กูรู แมวไม่ใช่นักวิจารณ์นะฮะ คะแนนที่ให้ คำรีวิวที่เขียน ล้วนออกมาจากความรู้สึก ชอบ/ไม่ชอบล้วนๆ ฮะ

          [รีวิว] Yu Yu Hakusho (คนเก่งฟ้าประทาน) งานดัดแปลงจากมังงะที่โดนใจเด็กหนวดยุค 90 [Series]

[Review] Yu Yu Hakusho (คนเก่งฟ้าประทาน) [2023]

          Yu Yu Hakusho (คนเก่งฟ้าประทาน) ฉบับคนแสดงที่เป็น Original Netflix Series โดยดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเรื่องเดียวกันของอาจารย์ Yoshihiro Togashi ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1990 – 1994 โดยมังงะเรื่องนี้จัดว่าเป็น 1 ในมังงะดังแห่งยุค 90 เลยทีเดียว ซึ่งในบ้านเราก็เคยมีพิมพ์เป็นฉบับแปลไทยออกมามากมายตั้งแต่ยุคสำนักพิมพ์เถื่อนจนมาถึงยุคลิขสิทธิ์ที่ถือลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์ Siam Inter Comics (ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันลิขสิทธิ์ยังอยู่กับสำนักพิมพ์นี้หรือเปล่านะฮะ) และด้วยความที่มีพิมพ์ฉบับแปลไทยออกมามากมาย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงมีชื่อเรื่องภาษาไทยหลากหลายชื่อเลยทั้ง คนเก่งฟ้าประทาน, คนเก่งทะลุโลก และ ผีไม่ใช่ผี เป็นต้น

          นอกจากนี้ก่อนที่จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงนี้ การ์ตูนเรื่องนี้ยังเคยถูกดัดแปลงเป็นทั้งวิดีโอเกมและอนิเมะด้วย โดยตอนนี้สามารถเข้าไปรับชมฉบับอนิเมะกันได้ทาง Netflix นะฮะ
  • ดูแลงานสร้างโดย Akira Morii, Kazutaka Sakamoto
  • เขียนบทโดย Tatsurō Mishima (เคยฝากผลงานการเขียนบท Live Action อย่าง ZOM 100: Bucket List of the Dead มาก่อนหน้านี้)
  • กำกับโดย Shō Tsukikawa (เคยฝากผลงานกำกับเรื่อง Let Me Eat Your Pancreas (ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ) มาก่อนหน้านี้)

นำแสดงโดย

  • Takumi Kitamura (จากภาพยนตร์เรื่อง Let Me Eat Your Pancreas และ Tokyo Revengers) รับบทเป็น Yusuke Urameshi
  • Shuhei Uesugi (จากภาพยนตร์เรื่อง Shin Kamen Rider) รับบทเป็น Kazuma Kuwabara
  • Jun Shison (จากซีรีส์เรื่อง Ressha Sentai ToQger และภาพยนตร์เรื่อง High & Low: The Worst) รับบทเป็น Kurama
  • Kanata Hongō (จากภาพยนตร์เรื่อง Gantz, Attack on Titan, Inuyashiki และ Kingdom) รับบทเป็น Hiei
  • Sei Shiraishi (จากซีรีส์เรื่อง I"s และ Fermat’s Cuisine) รับบทเป็น Keiko Yukimura
  • Kotone Furukawa (จากซีรีส์เรื่อง Dou Suru Ieyasu และ Pending Train) รับบทเป็น Botan
  • Ai Mikami (จากซีรีส์เรื่อง Liar และ Is Love Sustainable?) รับบทเป็น Yukina
  • Hiroya Shimizu (จากภาพยนตร์เรื่อง Sadako และ Tokyo Revengers) รับบทเป็น Karasu
  • Keita Machida (จากซีรีส์เรื่อง Alice in Borderland และภาพยนตร์เรื่อง High & Low) รับบทเป็น Koenma
  • Meiko Kaji (จากซีรีส์เรื่อง What Did You Eat Yesterday?) รับบทเป็น Genkai
  • Ayumi Ito (จากภาพยนตร์เรื่อง Gantz) รับบทเป็น Atsuko Urameshi
  • Kenichi Takitō (จากภาพยนตร์เรื่อง Rurouni Kenshin และ Terra Formars) รับบทเป็น Older Toguro
  • Go Ayano (จากภาพยนตร์เรื่อง Gantz, Rurouni Kenshin และ Ajin: Demi-Human) รับบทเป็น Younger Toguro
  • Goro Inagaki (จากภาพยนตร์เรื่อง 13 Assassins) รับบทเป็น Sakyo
          รับชมได้ทาง Netflix มีจำนวนทั้งหมด 5 ตอน
คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

          เรื่องราวของ อุราเมชิ ยูสุเกะ นักเรียนนักเลงที่ใครๆ ในโรงเรียนต่างก็เกรงกลัว มีเพียงแค่ เคโกะ เพื่อนสาวตั้งแต่วัยเด็กเพียงคนเดียวที่รู้ว่าภายในจิตใจลึกๆ ของ ยูสุเกะ มีความอ่อนโยน, รักความถูกต้องและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆ คิด

          วันหนึ่ง ยูสุเกะ ต้องเสียชีวิตลงจากการเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยคนหนึ่งจากอุบัติเหตุรถชน แต่ ยูสุเกะ ก็ได้รับการติดต่อจาก โบตั๋น สาวน้อยยมทูตผู้นำทางวิญญาณสู่ปรโลก ว่าตัวเขานั้นได้รับโอกาสจาก ท่านโคเอ็นม่า ลูกชายของพญามัจจุราชให้ฟื้นคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยแลกกับการที่เขาต้องเป็นนักสืบโลกวิญญาณเพื่อทำหน้าที่คอยดูแลและแก้ไขคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของเหล่าปีศาจร้ายที่หลุดรอดหนีออกมาจากโลกปีศาจมายังโลกมนุษย์ได้

          ยูสุเกะ จึงตัดสินใจที่จะรับเงื่อนไขนี้ พร้อมกับการที่จะต้องฝึกฝนการควบคุมพลังวิญญาณเพื่อใช้ในการต่อสู้และจับกุมเหล่าปีศาจร้ายกลับคืนสู่โลกปีศาจ

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

ความรู้สึกหลังดูจบ

          เป็นการเติมเต็มความฝันให้กับเหล่าเด็กหนวดยุค 90 ที่โตมากับการ์ตูนเรื่องนี้จริงๆ ฮะ อะไรที่เป็นไฮไลท์สำคัญๆ เค้าจัดมาให้เราได้เห็นกันแบบเต็มๆ เลยทั้ง ท่ากระสุนวิญญาณ, ดาบพลังวิญญาณ, ร่างปีศาจจิ้งจอกของ คุรามะ, คลื่นเพลิงมังกรทมิฬ และร่างปีศาจระดับ 100% ของ โทงุโร่คนน้อง

          แอ็คชั่นอย่างเดือด หนักแน่นและรุนแรงมาก ดูแล้วนึกถึงฉากแอ็คชั่นแบบในเรื่อง Rurouni Kenshin (ซามูไรพเนจร) เลย (ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะคิวบู๊ของเรื่องนี้ได้ Ôuchi Takahito ที่เคยฝากผลงานกำกับคิวบู๊ไว้ในเรื่อง Rurouni Kenshin มาเป็นผู้ดูแล) แถมมุมกล้องในช่วงฉากแอ็คชั่นทั้งหลายก็ยังดีงามอีกต่างหาก
          โลเคชั่นดูแปลกตาดีฮะ ไม่เคยเห็นหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นที่ใช้โลเคชั่นแนวนี้เลย (แม้แต่ในซีรีส์คาเมนไรเดอร์ก็ไม่เคยเห็น) จะว่าไปก็คล้ายๆ โลเคชั่นแบบที่หนังฝรั่งเลือกใช้เวลามาถ่ายหนังในบ้านเราอ่ะฮะ
          ตอนเห็นดาบพลังวิญญาณของ คุวาบาร่า ปรากฏครั้งแรกนี่ถึงกับขนลุกเลยฮะ ซีนนี่ทรงพลังมาก และตอนที่เห็นกระสุนคลื่นวิญญาณของ ยูสุเกะ นี่ก็ทำให้นึกอยากเห็นพลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้าขึ้นมาเลย (อยากให้ Netflix เอา ดรากอนบอล มาทำมั่งจัง)
          ด้วยความที่ต้นฉบับมังงะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ภาค ซึ่งฉบับคนแสดงนี้มีการดัดแปลงโดยการหยิบเอาโครงเรื่องหลักจากภาค 1 (ภาคนักสืบโลกวิญญาณ) มายำกับโครงเรื่องหลักของภาค 3 (ภาคโลกมืด) อีกนิดหน่อย แล้วย่อยให้เหลือเพียงแค่ 5 ตอน (เฉลี่ยตอนละ 1 ชั่วโมง) แต่แม้ว่าโครงเรื่องหลักจะหยิบมาจากภาค 1 และ 3 แต่ในรายละเอียดอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นก็ได้หยิบเอาองค์ประกอบหลายๆ อย่าง รวมถึงตอนจบของซีซั่นนี้มาจากมังงะภาค 2 (ภาคงานประลองแห่งโลกมืด) มาใช้งาน
คนเก่งฟ้าประทาน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix

          ดังนั้นสิ่งที่ไม่อาจจะเลี่ยงได้เลยก็คือ ทีมผู้สร้างต้องตัดรายละเอียดเรื่องราวในหลายๆ ช่วงออกไปรวมถึงการยำใหญ่เนื้อเรื่องทั้งหมดให้จบลงภายในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และนั่นจึงกลายเป็นเหมือนจุดด้อยของซีรีส์ชุดนี้ เพราะมันทำให้เราไม่ได้เห็นถึงพัฒนาการและความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ที่เป็นเหมือนสาระสำคัญของเรื่องนี้ เช่น การตัดรายละเอียดในช่วงการเข้าไปฝึกวิชากับ อาจารย์เก็นไค ของ ยูสุเกะ และ คุวาบาร่า ไป ก็ทำให้เราไม่ได้เห็นการพัฒนาของทั้งพลังและความสัมพันธ์ของ 2 ตัวละครนี้ เป็นต้น
          เชื่อว่าหากทำซีรีส์เรื่องนี้ออกมาเป็นจำนวน 8 – 10 ตอนเหมือนซีรีส์เรื่องอื่นๆ รวมถึงเลือกตอนจบแบบที่ควรจะเป็นในมังงะภาค 1 แล้วเอาตอนจบนี้ไปว่ากันต่อในซีซั่น 2 น่าจะช่วยให้ได้อรรถรสมากกว่านี้นะฮะ
          และด้วยความที่เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนต้นยุค 90 ฉะนั้น จึงมีเรื่องราวในหลายๆ จุดที่ดูแล้วอาจจะดูเชยๆ ไปหน่อย อย่างเช่น พลังแห่งมิตรภาพ เป็นต้น ดังนั้นหากคนยุคหลังปี 2000 มาดู ก็อาจจะไม่ค่อยอินกับอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับเด็กหนวดยุค 80-90 นี่พูดได้เต็มปากเลยว่าสนุกมาก (โดยเฉพาะกับคนที่เป็นแฟนฉบับมังงะหรือดูอนิเมะมาก่อนตั้งแต่ในวัยเด็ก)
          สำหรับสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดเลยก็เห็นจะเป็นเรื่องของแคสนักแสดงนี่แหละฮะ ที่ดูแปลกๆ ไปหน่อย ไม่ใช่ว่านักแสดงแสดงไม่ดีนะฮะ นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้ดีเลย เพียงแต่ว่าคอสตูมและการเมคอัพต่างๆ มันดูแปลกๆ คือคงตั้งใจให้ใกล้เคียงกับในการ์ตูนแหละ มันก็เลยดูแปลก แต่ก็ใช่ว่าจะแย่ไปซะหมดนะฮะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วที่ชอบมากเป็นพิเศษเลยสำหรับเรื่องนี้ก็คือ Shuhei Uesugi ที่ทำให้ตัวละคร คุวาบาร่า ดูหล่อและเท่ห์กว่าในต้นฉบับมากและ Kotone Furukawa ที่ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของ โบตั๋น ออกมาได้น่ารักและมีเสน่ห์มากๆ
          งาน CG โดนรวมก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว จะมีที่ไม่ชอบก็ตรงจุดเดียวคือ ร่างอัพพลัง 30% ของ โทงุโร่คนน้อง ดูแปลกๆ ปลอมๆ ไปหน่อย
คนเก่งฟ้าประทาน

          สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 ละกันฮะ เป็นงาน Live Action ที่ทำออกมาค่อนข้างถูกใจคอการ์ตูนยุค 90 โดยเฉพาะกับแฟนการ์ตูนเรื่องนี้เลยฮะ งานแอ็คชั่นดุเด็ดเผ็ดมันส์มาก แต่เพราะการยุบรวมเนื้อหาจากมังงะ 3 ภาคออกมาเป็นซีรีส์ 5 ตอนจึงทำให้สูญเสียสาระสำคัญและตัวละครเท่ห์ๆ อีกหลายตัวไปอย่างน่าเสียดาย

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ แมวโม้รีวิว
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีวิว Yu Yu Hakusho คนเก่งฟ้าประทาน ดัดแปลงจากมังงะยุค 90 อัปเดตล่าสุด 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 17:44:19 4,577 อ่าน
TOP