[รีวิว] Berlin: Money Heist ซีรีส์ภาคแยกที่เล่าเรื่องราวของตัวละคร เบอร์ลิน [Series]
เบอร์ลิน (BERLIN) | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ | Netflix
Berlin: Money Heist (La casa de papel: Berlín, เบอร์ลิน: ทรชนคนปล้นโลก) ซีรีส์แนว Crime Romantic Comedy ที่เป็นภาคแยกของตัวละคร เบอร์ลิน จากซีรีส์ดังเรื่อง Money Heist (ทรชนคนปล้นโลก) โดยจะเล่าเรื่องราวในช่วงก่อนที่เขาจะไปเข้าร่วมทีมกับ ศาสตราจารย์ ในการปล้นโรงกษาปณ์ (ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคหลัก)
ดูแลงานสร้างโดย Álex Pina และ Esther Martínez Lobato
นำแสดงโดย
- Pedro Alonso (จากภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Marsh) รับบทเป็น Berlin (Andrés de Fonollosa)
- Tristán Ulloa (จากภาพยนตร์เรื่อง Terminator: Dark Fate) รับบทเป็น Damián
- Michelle Jenner (จากซีรีส์เรื่อง Tú también lo harías) รับบทเป็น Keila
- Begoña Vargas (จากซีรีส์เรื่อง Paraíso) รับบทเป็น Cameron
- Julio Peña Fernández (จากซีรีส์เรื่อง Acacias 38) รับบทเป็น Roi
- Joel Sánchez รับบทเป็น Bruce
- Samantha Siqueiros (จากซีรีส์เรื่อง El Secreto de la Familia Greco) รับบทเป็น Camille
- Itziar Ituño (จากซีรีส์เรื่อง Intimacy) รับบทเป็น Raquel Murillo
- Najwa Nimri (จากซีรีส์เรื่อง Sagrada familia) รับบทเป็น Alicia Sierra Montes
สามารถรับชมได้ทาง Netflix (มีจำนวนทั้งหมด 8 ตอน)
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ เบอร์ลิน ในช่วงก่อนที่เขาจะร่วมทีมกับ ศาสตราจารย์ ในการปล้นโรงกษาปณ์ โดยปฏิบัติการในครั้งนี้จะเป็นการโจรกรรมอัญมณีมูลค่า 44 ล้านยูโร จากสถาบันการประมูลชั้นนำแห่งปารีส โดยสมาชิกในทีมปล้นครั้งนี้ประกอบไปด้วย
- เคย์ล่า – วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ แฮกเกอร์สาวสุดเนิร์ด
- รอย – ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดล็อก
- ดาเมียน – อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย ที่มีเบื้องหลังเป็นจอมวางแผนการโจรกรรม
- บรูซ – ผู้ที่มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ งานยกของหนัก หรืองานตัดเจาะ เป็นต้น
- คาเมรอน – สาวนักซิ่งที่ใช้ชีวิตสุดขีด แต่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไรเป็นพิเศษ (เหมือนมาเป็นเด็กฝึกงานที่ เบอร์ลิน พาเข้ามาเพื่อให้หาประสบการณ์)
ความรู้สึกหลังดูจบ
สำหรับใครที่ติดอกติดใจเนื้อหาเข้มๆ เกี่ยวกับแผนการปล้นจากซีรีส์ภาคหลักมาอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก เพราะสำหรับซีรีส์ภาคนี้แม้ธีมเรื่องจะเกี่ยวกับการโจรกรรมก็ตาม แต่จริงๆ แล้วโดยภาพรวมเหมือนเป็นซีรีส์แนว Romantic Comedy ที่มีเรื่องราวของการโจรกรรมเป็นฉากหลังซะมากกว่า รวมถึงฉากแอ็คชั่นเดือดที่แทบจะพูดได้ว่าถูกตัดออกจนหมดเลยนะฮะ
ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวละครหัวหน้าทีมอย่าง เบอร์ลิน ที่เล่นกับประเด็นคนคลั่งรักแอบรักเมียของเป้าหมาย หรือ รองหัวหน้าอย่าง ดาเมียน ที่ถูกเมียบอกเลิกทางโทรศัพท์ รวมถึงลูกทีมคนอื่นๆ ที่ต่างก็มีปูมหลังเกี่ยวกับความรักที่ไม่ค่อยจะดีนักทั้งนั้น
ซึ่งความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ก็อยู่ตรงนี้แหละฮะ เมื่อทุกคนในทีมต่างก็เหมือนระเบิดเวลา เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้และมักจะทำตามอารมณ์ของตัวเองก่อนเสมอ ดังนั้น เราจะได้มาคอยลุ้นกันว่า ไอแผนการต่างๆ ที่วางไว้ตั้งแต่แรก มันจะดำเนินการไปได้สำเร็จอย่างลุล่วงตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แล้วถ้าหากมีใครที่ทำอะไรผิดพลาดหรือมีอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทีมจะร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างไร
และต้องยอมรับตามตรงเลยว่าในช่วงต้นของซีรีส์ ค่อนข้างที่จะน่าเบื่อไปหน่อย พูดเยอะ ตัวละครเวิ่นเว้อ และแผนปฏิบัติการปล้นที่ดูจะง่ายดายเกินไป แต่พอเริ่มเข้า EP3 ก็เริ่มทวีความสนุกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะว่าไปกราฟความสนุกมันก็ค่อยๆ เริ่มไต่ขึ้นตั้งแต่ EP1 นั่นแหละฮะ เพียงแต่ว่าอาจจะไต่ขึ้นช้าไปสักหน่อย จนกระทั่งเข้า EP6 นี่แหละฮะ ความมันส์จึงได้บังเกิด คือไล่ล่ากันสนุกมาก โดยเฉพาะตอนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสเปนอย่าง อลิเซีย และ มูริลโญ่ เข้ามาร่วมทีมสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของฝรั่งเศสนี่แหละ ที่ยิ่งทำให้เรื่องราวเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
หลังดูจบก็รู้สึกอยากให้ทำภาคแยกของตัวละคร รอย เลยฮะ เพราะโดยส่วนตัวมองว่าปูมหลังของตัวละครตัวนี้มีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะเลยฮะ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พูดถึงในตอนซีนแข่งรถ น่าจะเดือดและให้อารมณ์เหมือนภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious ภาคแรกได้เหมือนกันนะฮะ
สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 นะฮะ ซีรีส์ยังพอดูได้สนุกแบบดูเพลินๆ ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์ แต่ขาดฉากแอ็คชั่นเดือดๆ และการเชือดเฉือนชิงไหวชิงพริบแบบซีรีส์หลักแทบจะไม่มีเลย
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix, เว็บไซต์ Netflix
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่