ไหว้พระกฤษณะ ขอพรเรื่องเนื้อคู่และความรัก ที่โบสถ์เทพมณเฑียร เสาชิงช้า กรุงเทพฯ

          ขอพร พระวิษณุ (พระนารายณ์) พระแม่ลักษมี พระกฤษณะ และเทพฮินดูองค์อื่น ๆ ที่โบสถ์เทพมณเฑียร พิกัดสุดศักดิ์สิทธิ์สำหรับสายมูที่อยากขอเรื่องเนื้อคู่และความรักดี ๆ 

          สวัสดี ! นี่เจ้าหนูรถตู้เอง จากคราวที่แล้วที่เจ้าหนูพาสายมูไปเที่ยวที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ แถว ๆ เสาชิงช้ากันแล้ว ใกล้ ๆ กันนั้นยังมี โบสถ์เทพมณเฑียร เทวสถานที่เป็นแหล่งรวมองค์เทพและเทพีต่าง ๆ ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่คนทั่วไปต่างยกย่องศรัทธาไว้มากมาย แถมที่นี่ยังขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องการมาขอพรเรื่องความรักจาก พระกฤษณะ ทั้งขอเนื้อคู่ ขอสละโสด และขอให้มีความรักที่ดี มั่นคง และซื่อสัตย์อีกด้วย เอาล่ะ อย่ารอช้าเลย ตามเจ้าหนูไปไหว้องค์เทพหลากหลายพระองค์ที่โบสถ์เทพมณเฑียรกันเลย 

          โบสถ์เทพมณเฑียร ถูกสร้างขึ้นโดย ศาสนิกชนชาวฮินดู ชาวภารตะ (ชาวอินเดีย) ในประเทศไทย เพื่อเป็นการรวมใจชาวภารตะให้เป็นหนึ่ง ณ อาคารเล็ก ๆ หลังหนึ่งในย่านหลังวังบูรพา (ใกล้โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า) ในนาม ฮินดูสภา ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น สมาคมฮินดูสมาช จนถึงปัจจุบัน แต่เวลาผ่านไปสมาคมได้มีการขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น ตลอดจนทางสมาคมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้สร้างโรงเรียนขึ้นมาด้วยในบริเวณตรงนั้น คือ โรงเรียนภารตวิทยาลัย จึงได้ทำการก่อสร้าง โบสถ์เทพมณเฑียร ขึ้น และได้อัญเชิญเทวปฏิมาและเทพยดา มาจากประเทศอินเดีย รวมทั้งได้นำดินศักดิ์สิทธิ์จากพุทธสังเวชนียสถานสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ลุมพินี (สถานที่ประสูติ) พุทธคยา (สถานที่ตรัสรู้) สารนาถ (สถานที่แสดงปฐมเทศนา) และกุสินารา (สถานที่ปรินิพพาน) พร้อมกับอัญเชิญน้ำจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอินเดียมารวมกันเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคล เพื่อให้ศาสนิกชนได้มาสักการะด้วย

          เมื่อเดินทางถึงโรงเรียนภารตวิทยาลัย ให้แจ้งความประสงค์แก่ รปภ. หน้าโรงเรียนว่าต้องการมาไหว้พระ จากนั้นขึ้นลิฟต์หรือบันไดด้านในไปยังชั้น 3 จะพบห้องขนาดใหญ่ เป็นเทวสถาน มีรูปปั้นเหล่าเทพทั้งหลาย สามารถเข้าไปไหว้เทพได้ทุกพระองค์ ไม่ว่าจะเป็น พระวิษณุ พระแม่ลักษมี พระพรหม พระแม่ทุรคา พระกฤษณะ หนุมาน พระพิฆเนศ ฯลฯ มีชาวไทยไปสักการะเทพและนั่งสมาธิทุกวัน โดยมีพราหมณ์และเจ้าหน้าที่ภายในยินดีเบิกเนตรเจิมองค์พระให้ แนะนำให้ถวายเงินตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยบำรุงโบสถ์

          ในโบสถ์วัดเทพมณเฑียรแห่งนี้ มีเทวรูปหินอ่อนประดิษฐานอยู่หลายองค์ด้วยกัน โดยมี พระวิษณุ (พระนารายณ์) และ พระแม่ลักษมี เป็นองค์ประธาน

• พระพิฆเนศ (พระคเณศ) โอรสของพระอิศวรและพระแม่อุมา
• พระหนุมาน อวตารของพระศิวะ มีกายสีขาว เป็นทหารเอกของพระราม เป็นเทพแห่งปัญญา มีความแข็งแกร่ง กล้าหาญ จงรักภักดี และมีวินัยในตนเอง
• พระพรหม ผู้สร้างโลก ดูงดงามอ่อนช้อยในศิลปะแบบอินเดียเหนือ นิยมขอพรให้มีพลังอันยิ่งใหญ่ ขอให้ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ

• พระแม่ทุรคา สัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและความมีอำนาจ นิยมไหว้ขอพรในเรื่องอำนาจบารมี และความเข้มแข็ง

• พระพุทธเจ้า ชาวพราหมณ์ฮินดูถือว่าเป็นอวตารปางที่เก้าของพระนารายณ์ สัญลักษณ์แห่งความไม่เบียดเบียน (อหิงสา) นิยมขอพรให้หลุดพ้นจากความทุกข์ มีความสุข ไม่มีอะไรมาเบียดเบียน
• พระราม และ ภควดีสีดา (พระแม่สีดา) พระรามเป็นอวตารปางที่เจ็ดของพระวิษณุ นิยมขอพรให้เป็นคู่รักคู่ครองที่สวยงามเหมาะสมและอยู่เป็นคู่เคียงข้างกันตลอดไป

• พระกฤษณะและ พระแม่ราธาเทวี อีกอวตารหนึ่งของพระวิษณุนารายณ์

• พระศิวะ มหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล พระองค์จะทรงประทานพรวิเศษให้แก่คนผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรมเท่านั้น มีความเชื่อกันว่าพระศิวะนั้นสามารถช่วยปัดเป่ารักษาเยียวยาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่าง ๆ ได้อย่างมหัศจรรย์นัก หากผู้ใดที่เจ็บป่วยหรือต้องการขอพรให้คนในครอบครัวหายเจ็บไข้ได้ป่วย หากบวงสรวงบูชาและขอพรจากพระศิวะ ก็มักปรากฏว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นจะถูกปัดเป่าให้หายไปได้โดยสิ้นในเร็ววัน ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ได้เช่นกัน

          การไหว้ขอพรและคาถาบูชาพระวิษณุ (พระนารายณ์) และพระแม่ลักษมี

          ส่วนใหญ่ เป็นการไหว้ให้ทำกิจการใดให้สำเร็จ และไหว้ขอพรเรื่องเนื้อคู่และความรัก ให้มีความรักที่มั่นคง เช่นเดียวกับพระวิษณุ (พระนารายณ์) และพระแม่ลักษมี ซึ่งพระแม่ลักษมีเป็นมหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความงาม การรักษาความดี การจงรักภักดี และความมั่งคั่ง ใช้พวงมาลัยดอกดาวเรือง หรือดอกบัวสีชมพู และผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี องุ่น แก้วมังกร สาลี่ เป็นต้น

          บทสวดบูชา แบบฮินดู (ที่วัดจะมีเอกสารแจกให้)

          ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมศุเรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะกฤษศัม เมฆะวรรนัมสุภางคัม

          ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภิรัคยา นะคัมยัม วันเดวิษนณุม ภะวะภะยะหะรัม สรรวะโกกัย กะนาถัม

          การไหว้ขอพรและคาถาบูชาพระพิฆเนศ

          พระพิฆเนศ เป็นเทพแห่งความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะขอในเรื่องหน้าที่การงาน ความรัก การค้าขาย กิจการเจริญก้าวหน้า การเรียน การสอบแข่งขัน ฯลฯ ใช้พวงมาลัยดอกดาวเรือง นม น้ำสะอาด ธัญพืช เครื่องเทศ เกลือ และผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย อ้อย สับปะรด เป็นต้น

          คาถาบูชาพระพิฆเนศ

          โอม ศรีคะเนศา ยะ นะ มะ

          ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ

          เทวา มาตา ชากี ปะระ วะตี ปิตามะหา เทวา ละฑุวัน

          กา โกคะ ละเค สันตะ กะเร เสวา เอก ทันตะ

          ทะยาวันดะ จาระ ภุชา ธารี มาเถ สินทูระ เสเห

          มูเส กี อะสะวารี อันธะนะ โก อางขะ เทตะ

          โก กายา พามณะนะ โก กุตรร เทตะ

          โกทินะ นิระทะนะ มายาฯ

          บทสวดแบบฮินดู (ที่วัดจะมีเอกสารแจกให้) 

          โอม คะชานะนัมภู ตะคะนาธิเสวิตัม กะปิถะยัมภู พะละจารุภักษะนัม อุมาสุตัมโส กะวินาศะการะกัม มะมามิวิฆเณศ ศะระปาทะปังกะยัม

          การไหว้ขอพรและคาถาบูชา พระกฤษณะและพระแม่ราธาเทวี

          พระแม่ราธาเทวี ถือว่าเป็นรักแรกและรักเดียวของพระกฤษณะ ถึงแม้พระนางจะเป็นหญิงเลี้ยงวัว แต่ก็เป็นรักเดียวที่ฝังใจจนตลอดชีวิต ส่วนใหญ่จะมีศาสนิกชนมาไหว้ขอพรเรื่องความรัก ขอให้เป็นความรักที่ดี มีเนื้อคู่ที่ดี มีรักเดียวใจเดียว และมีความสุขตลอดชีวิตเช่นเดียวกับพระองค์ การถวายของบูชาจะใช้เป็นชุดเดียวกับที่จัดมาไหว้เทพองค์อื่น ๆ ก็ได้ตามสะดวก หรือผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย อ้อย สับปะรด แอปเปิล แก้วมังกร สาลี่ สตรอว์เบอร์รี องุ่น เป็นต้น

          บทสวดบูชาแบบฮินดู (ที่วัดจะมีเอกสารแจกให้)

          วันศรี วิภูษิตากะราน นะวะนีระดาภา ปิตามบะราดะรุณาบิม บะพะลาธะโรษฐา ปุณเณทุสุนดะระมุคา ดะระวินทะเนตร กฤษณาปะรัม กิมะปิตา วะมะหัมนะญาเน

• แต่งกายสุภาพ และเตรียมของไหว้ เช่น ดอกไม้หรือพวงมาลัย มาเอง
• ห้ามนำเนื้อสัตว์ ของคาว สุรา บุหรี่ เข้ามาในวัดโดยเด็ดขาด
• ของที่ควรนำมาถวาย ได้แก่ นม น้ำ น้ำหวาน ธัญพืช และผลไม้ต่าง ๆ ได้แก่ กล้วย อ้อย สับปะรด แก้วมังกร แอปเปิล สาลี่ องุ่น หรือสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น
• ห้ามผู้ที่เข้ามาสักการะทำการจุดธูปเทียนภายในบริเวณเทพมณเฑียรอย่างเด็ดขาด (ยกเว้นพราหมณ์ที่จะจุดในขณะประกอบพิธีบูชาเท่านั้น)
• การไหว้และการถวายของบูชา ให้ทำทุกวัน หรือ ทำทุกวันเพ็ญขึ้น 8 ค่ำ 15 ค่ำ หรือจะทำในวันเกิดของตนเอง เช่น เกิดวันจันทร์ก็ให้ทำในวันจันทร์ หรือทำในวันประจำขององค์เทพนั้น ๆ เช่น วันจันทร์เป็นวันของพระศิวะ วันอังคารเป็นวันของพระพิฆเนศและหนุมาน วันพฤหัสบดีเป็นวันของพระนารายณ์ และวันศุกร์เป็นวันของพระแม่อุมาเทวี เป็นต้น
• พิธีกรรมภายในวัดเทพมณเฑียรในแต่ละวัน เรียกว่า พิธีอารตี คือ การถวายไฟแก่ทวยเทพ มีขึ้นทุกวันตั้งแต่ 06.00-08.00 น. (ในวันอาทิตย์ มีจนถึง 10.00 น. หรือ 11.30 น.) และตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-19.30 น. ผู้ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

          สำหรับใครที่อยากมากราบไหว้บูชาองค์เทพ สามารถมาขอพรได้ตามวันและเวลาดังนี้

• วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. และช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00-17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน
• วันศุกร์ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น. โดยในระหว่างเวลา 12.00-17.00 น. ทางเทพมณเฑียรจะปิดงดให้เข้าไปสักการะภายใน
• วันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดต่าง ๆ เปิดให้เข้าได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-20.30 น.

          การเดินทางมาที่โบสถ์เทพมณเฑียร สังเกตง่าย ๆ ว่าจะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีรถประจำทางผ่านหลายสายดังนี้ สาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96 และรถปรับอากาศสาย 42 หรือถ้าใครอยากนั่งรถไฟฟ้ามา ก็สามารถใช้บริการ MRT ลงสถานีสามยอด ทางออกประตู 3 เดินมาตามถนนอุณากรรณ ถนนศิริพงษ์ ผ่านหน้าสวนรมณีนาถ และวัดเทพมณเฑียร จะอยู่ทางขวามือ

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Hindu Samaj Bangkok วัดเทพมณเทียร สมาคมฮินดูสมาช โทรศัพท์ 0-2223-8494

          สำหรับใครที่อยากสมหวังเรื่องความรักลองไปขอพรกับพระกฤษณะที่โบสถ์เทพมณเฑียรได้เลย หรือถ้าใครที่สมหวังในความรักแล้ว อยากจะไปกราบไหว้บูชาขอพรเทพองค์อื่น ๆ ก็สามารถไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้นะ

#โบสถ์เทพมณเฑียร #สมาคมฮินดูสมาช #โรงเรียนภารตวิทยาลัย #โบสถ์เทพมณเฑียรเสาชิงช้า #เสาชิงช้า #สายมูเตลู #พิกัดสายมู #เที่ยวกรุงเทพ #เที่ยวทั่วไทยไปกับเจ้าหนูรถตู้

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Hindu Samaj Bangkok วัดเทพมณเทียร สมาคมฮินดูสมาช

รูปประกอบทั้งหมดในเนื้อหา : เจ้าหนูรถตู้ (ผู้เขียน)