รีวิว 15 ที่กินใน Tokyo

โตเกียวนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสีสันของเมืองใหญ่ แต่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักชิม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับมิชลิน ร้านลับในตรอกซอกซอย หรือร้านคาเฟ่สุดน่ารักที่เสิร์ฟขนมและเครื่องดื่มแสนอร่อย แต่ละแห่งล้วนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้มื้ออาหารในโตเกียวเป็นมากกว่าการกิน แต่เป็นการสัมผัสวัฒนธรรมอาหารในแบบที่ไม่เหมือนใคร
โพสนี้เราเลยอยากมาแชร์ 15 ที่กินที่เราได้มีโอกาสไปลองชิมมา เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยว Tokyo เร็วๆนี้
1. Jumbo Yakiniku Hongo

ร้านเนื้อย่างชื่อดังของโตเกียวมี 3 สาขาด้วยกัน แต่สาขาที่เราจองมากินกันคือ สาขา Hongo แนะนำว่าควรจองผ่าน Tablecheck มาก่อน เพราะถ้าไม่จองจะไม่ได้กิน โดยที่นี่จะเสิร์ฟเนื้อ Wagyu A5 เป็นหลักซึ่งเมื่อกินไปเรื่อยๆจะมีความเลี่ยนนิดนึง และรวมๆราคาก็ค่อนข้างสูง สำหรับพวกเราโดนไป ¥20,110 แต่ถ้าใครมีงบและได้มาเที่ยวโตเกียวแนะนำว่ามาเถอะ มาลองให้รู้ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน

- นัดหมาย : จองโต๊ะได้ที่นี่ (ใครยังไม่มีเมนูในใจ ก็จองเป็น Seat only reservation ไปก่อนได้นะ)
- เวลา : ทุกวัน 17.00-23.00
- สถานี : Subway Hongo Sanchome stataion (Exit.2)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/z21uD55vNfoTgDoM7?g_st=ic
2. Sushi Midori

ร้านซูชิชื่อดังในโตเกียวที่ต้องต่อคิวรอหลายชม.กว่าจะได้กิน ร้านนี้มีหลายสาขา แต่สาขาที่เราได้ไปกินมา คือ สาขา Shibuya ตั้งอยู่ที่ตึก Mark City ชั้น 4 โชคดีมากๆที่วันนั้นเราไปตอนร้านใกล้ปิดแล้ว ทำให้ไม่ต้องรอคิวเลย มีเมนูให้เลือกเยอะ ทั้งแบบเป็นเซตและแบบสั่งได้เป็นคำๆ ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบร้านนี้มากเพราะอาหารสดทุกคำ ไม่คาวเลย อย่างโอโทโระที่เราสั่งมาก็ให้ชิ้นหนามาก หวานมาก ฟินสุดๆ อีกทั้งราคาก็ไม่แพงเลย ค่าเสียหายสำหรับร้านนี้พวกเราโดนกันไปประมาณ ¥8,000

- เวลา : Mon - Fri 11.00-15.00, 17.00-21.00 / Sat - Sun 11.00-21.00
- สถานี : Subway Shibuya station
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yMWCgfd4PwqgfWQk6?g_st=ic
3. Nihonbashi Kaisen Don Taujihan สาขา Tokyo Midtown

ร้านอาหารชื่อดังในโตเกียวที่เชี่ยวชาญด้านข้าวหน้าอาหารทะเล (ไคเซ็นด้ง) เมนูเด่นของร้านคือ “Zeitaku-don” ซึ่งประกอบด้วยข้าวสวยร้อน ๆ ท็อปด้วยปลาดิบสดใหม่ เช่น ทูน่า หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอน ราคาของเมนูนี้เริ่มต้นที่ ¥1,250-3,600 ขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของท็อปปิ้งที่เลือก
ส่วนวิธีการกิน ซึ่งทางร้านเขาจะมีคู่มือแนะนำให้ระหว่างที่เราต่อคิวสั่งอาหาร โดยเริ่มต้นด้วยซาชิมิราดซอสงาที่ทางร้านจะเสิร์ฟมาทั้งหมด 4 ชิ้น เขาแนะนำให้เรากินไปก่อน 2 ชิ้น ส่วนอีก 2 ชิ้นที่เหลือ เก็บไว้รับประทานพร้อมกับซุปปลาไทในภายหลัง หลังจากนั้น ทางร้านก็จะเสิร์ฟข้าวหน้าปลาดิบ และพอเราทานข้าวไปได้ระดับหนึ่ง ก็สามารถขอให้เขาใส่ซุปหัวปลาเพื่อเปลี่ยนเป็นเหมือนข้าวต้มให้ซดคล่องๆคอ ซึ่งซาชิมิที่เหลือ 2 ชิ้นก็จะมาใส่ในส่วนนี้นั่นเอง (ซอสงาในซาชิมิ อาจจะเค็มหน่อยนะ ใครที่ไม่ชอบเค็ม คีบแต่เนื้อปลาไปใส่ก็ได้)

สาขาที่เราไปคือ Tokyo Midtown ซึ่งมีประมาณ 9 ที่นั่ง ใช้เวลารอคิวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทรหดมากๆ เห็นบางคนบอกสาขา Ark hills น่าจะรอไม่นานเท่า แต่ไม่รู้จริงไหม
- เวลา : 11.00-20.30
- สถานี : Subway Ropoggi station (Exit.
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yMWCgfd4PwqgfWQk6?g_st=ic
4. Gyukatsu Motomura สาขา Shibuya

ร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้าน “กิวคัตสึ” หรือเนื้อวัวชุบแป้งทอดกรอบ เมนูหลักของร้านคือเนื้อวัวคุณภาพดีที่ทอดจนกรอบนอกแต่นุ่มฉ่ำด้านใน เสิร์ฟคู่กับข้าว ซุปมิโสะ กะหล่ำปลีฝอย และน้ำจิ้มหลากหลายแบบ จุดเด่นคือการเสิร์ฟเนื้อในระดับ rare เพื่อให้เราสามารถนำไปย่างบนเตาหินร้อนที่เตรียมไว้บนโต๊ะ เพื่อปรับระดับความสุกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น Medium Rare, Medium หรือสุกมากขึ้นตามต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมรสชาติและสัมผัสของเนื้อได้เอง เพิ่มประสบการณ์การรับประทานที่สนุกและเป็นเอกลักษณ์ของร้าน

สาขาที่เราไปคือ Shibuya ซึ่งมีประมาณ 9 ที่นั่ง ใช้เวลารอคิวประมาณ 30 นาที ที่ไม่นานก็เพราะเราไปต่อคิวก่อนร้านจะเปิด
- เวลา : 11.00-22.00
- สถานี : Subway Shibuya station (Exit.C2)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yMWCgfd4PwqgfWQk6?g_st=ic
5. Kaiten Sushi Ginza Onodera

ร้านซูชิแบบสายพานที่ตั้งอยู่ในย่านกินซ่าของโตเกียว โดยสาขาหลักของเครือ Onodera Group ที่มีชื่อเสียงในการนำเข้าทูน่าสีน้ำเงินคุณภาพสูงจากตลาดปลา Toyosu นอกจากคุณภาพของซูชิที่พรีเมี่ยมแล้ว ร้านยังมีบรรยากาศที่ทันสมัย โดยเราสามารถนั่งที่เคาน์เตอร์เพื่อชมเชฟทำซูชิสด ๆเลย

- เวลา : 10.30-22.30 (ปิดวันอาทิตย์)
- สถานี : Subway Omote-Sando station (Exit.A1)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yMWCgfd4PwqgfWQk6?g_st=ic
6. Tonkatsu Hajime

ร้านทงคัตสึชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องหมูทอดกรอบนอกนุ่มใน ทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูคุณภาพสูง เช่น Hoei Buta ซึ่งมีรสชาติหวานมัน และผ่านการทอดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้สัมผัสที่กรอบเบาแต่ยังคงความฉ่ำของเนื้อหมู ด้านในร้านเป็นครัวแบบเปิด ทำให้ลูกค้าสามารถชมขั้นตอนการทำอาหารอย่างใกล้ชิด

เราไปลองชิมที่สาขา Nihonbashi นะ มาถึงร้านประมาณ 16.30 ไม่เกิน 10-15 นาทีได้เข้าแล้ว แต่เสียเวลารออาหารเกือบ 30 นาที กว่าจะได้กิน เพราะเขาทอดกันด้วยมือแบบชิ้นต่อชิ้น แต่ถ้าใครไปแล้วสาขานี้คนเยอะ ก็ลองเดินไปสาขาใหม่ Nihonbashi Tonkatsu Hajime Hanare ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 2 นาทีจากสาขา Nihonbashi
- เวลา : 10.00/11.00-21.00 (ปิดวันจันทร์)
- สถานี : Subway Mitsukoshimae station (Exit.A4)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yMWCgfd4PwqgfWQk6?g_st=ic
7. ตลาดปลา Tsukiji

หนึ่งในจุดหมายของสายกินที่ถ้าได้มาโตเกียวต้องลองแวะมาสักครั้ง ที่นี่มีร้านอาหารและร้านค้ามากมายให้เราได้ชิมตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยเลย จะมีร้านอาหาร และของกินอะไรบ้างที่เราไปลองชิมในตลาดปลา Tsukiji ไปดูกันเล้ยยย

- ร้าน Tamagoyaki- เราสั่งมาจะเป็นไข่หวานที่มาพร้อมกับ unagi ที่มีซอสหวานๆราดอยู่บนตัว unagi แต่ส่วนตัวก็เฉยๆนะ อร่อยดีแต่ก็ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น ราคาไม้ละ ¥800
- ร้านไข่หวาน Yamacho - ร้านนี้คือร้านที่เราปักหมุดว่าต้องมาโดนตั้งแต่ตอนทำแพลน เป็นร้านไข่หวานชื่อดังในตลาดปลานี้ เมื่อได้ชิมก็ไม่แปลกใจที่เป็นร้านยอดฮิตคนต่อคิวเยอะ เพราะว่าอร่อยมาก! ส่วนตัวเป็นไข่หวานที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา เราว่าเค้ามีความหอม หวานกำลังดีไม่มากจนเกินไป ราคาก็ย่อมเยาไม้ละ ¥150 เท่านั้น
- ร้านหอยยืนกิน - สำหรับร้านนี้ต้องขอโทษจริงๆที่ไม่ทราบชื่อร้าน แต่เมื่อเดินเข้ามาจากถนนใหญ่จะอยู่ซอยแรกทางซ้ายมือเลย เป็นร้านที่ชอบมาก ในสไตล์ความเป็น local คือจะขายพวกหอยต่างๆ และซาชิมิแบบยืนกินข้างทางเลย เราลองสั่ง Hotate มาลองชิม คือมันฟินมากๆๆๆๆ หอยตัวใหญ่ และหวานมาก ไม่คาวเลย และที่สำคัญราคาถูกสุดๆ ได้มา 5 ชิ้น ¥500 ไปลองกันนะทุกคนคุ้มค่ามากๆ
- ร้าน Kouragumi Kani - เราสุ่มเลือกร้านนี้เพราะมีข้าวด้งหลายหน้าให้เลือก มีของย่างหลายอย่าง และที่สำคัญคือไม่ต้องต่อคิว! คือทางร้านจะให้เราลงชื่อไว้ แล้วเราสามารถไปเดินเล่นที่บริเวณอื่น แล้วค่อยกลับมาเอาโต๊ะนั่งกินได้ โดยเราสั่งข้าวด้งมา 2 ชาม ไซส์เล็กชามละ ¥2000 ชามแรก คือ อูนิ & อิคุระ & ทูน่าบด ชามนี้อร่อยเลยทุกอย่างคือหวานและสดมากๆ ส่วนชามที่สอง คือ แซลมอน & ทูน่า & อิคุระ อันนี้ก็อร่อย สด แล่ปลาได้ชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ ส่วนอีกอย่างที่เราสั่ง คือ มันปูย่าง อันนี้คือฟินมากกกก นัวสุดๆ คลุกกับข้าวคือที่สุดเลย พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป
- ร้าน Matcha stand - ร้านชาเขียวชื่อดังที่มีคนมายืนต่อแถวตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน และพวกเราก็เป็น 1 ในนั้น โดยเราสั่ง Iced Matcha Latte (single shot) ¥650 ส่วนตัวเราว่าอร่อยดีนะ ชาเขียวหอมอ่อนๆ ไม่เข้มข้น เข้ากับนมเย็นๆนัวๆ ก็ฟินดี แต่ถ้าใครชอบแบบเข้มข้น เราแนะนำสั่งเป็น double shot ดีกว่า น่าจะฟินกว่านี้


- เวลา : เปิดทุกวัน ยกเว้น วันพุธ / ส่วนวันอาทิตย์ที่เราไปเหมือนร้านจะเปิดแค่บางส่วน
- สถานี : Tsukiji (H12) ถ้าจำไม่ผิดออก exit.1 และเดินต่ออีก 450 m
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/CAXFzShKHYeRvQP4A?g_st=ic
8. ตลาดปลา Toyosu

ตลาดปลาแห่งใหม่ที่ร้านค้าส่วนหนึ่งย้ายมาจากตลาดปลา Tsukiji ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018
ถ้าเทียบกันระหว่างตลาดปลา Tsukiji (ตลาดเดิม) กับ Toyosu (ตลาดใหม่ที่มีร้านค้าบางส่วนจาก Tsukiji ย้ายไป) เราชอบตลาด Tsukiji มากกว่านะ มันดู local กว่า vibe ดีกว่า ส่วนตลาด Toyosu แนวนั่งกินในร้านอาหารมากกว่า

- เวลา : 6.30-14.30 (ปิดวันพุธและวันอาทิตย์)
- สถานี : Shijo-mae station (Exit.1A) สาย Yurikamome
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SKfY8zKuzT6DfTUU8?g_st=ic
9. Sidewalk coffee stand

ร้าน coffee stand เล็กๆ ย่าน Nakameguro ที่เราได้มีโอกาสแวะตอนไปเดินดูซากุระ เป็นร้านที่ตอนเดินผ่านแล้วค่อนข้างสะดุดตาตั้งอยู่หัวมุมถนนเลย ตัวร้านตกแต่งสไตล์ loft มีความดิบๆเท่ๆ เหมาะกับการจิบกาแฟพร้อมชมซากุระ กาแฟและชาของร้านนี้ก็อร่อยมากด้วย แต่เสียดายร้านเค้าค่อนข้างเล็กมาก มีเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งได้ 2-3 ที่ ส่วนมากคนจึงมักซื้อแบบ take away เมนูที่เราสั่งกันมา เช่น Hot latte (¥550) และ Hot chai tea (¥680)

- เวลา : ทุกวัน 9.00-19.00
- สถานี : Subway Nakameguro station (Exit.1)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/rFddTJ2F6Aa1hDXa9?g_st=ic
10. Fuglen Asakusa

คาเฟ่สไตล์นอร์ดิกชื่อดังจากนอร์เวย์มีหลายสาขา ร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจแบบสแกนดิเนเวีย ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยสาขาที่พวกเราไปกัน คือ สาขา Asakusa เมนูที่เราสั่งเป็น ลาเต้ร้อน (¥690) เป็นกาแฟนมที่หอม นุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนเยอะทุกสาขา
- เวลา : ทุกวัน 8.00-22.00
- สถานี : Subway Asakusa Station (Exit.A4)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/94gEJEd2ZrvHX5iE7?g_st=ic
11. Suzukien

ไอติมชาเขียว 7 ระดับในตำนานที่ว่ากันว่าเข้มข้นที่สุดในโลกแห่งย่าน Asakusa เมื่อได้ไปทั้งทีเราเลยลองสั่งชาเขียว No.7 (¥650) ที่เข้มข้นที่สุดมาชิม ซึ่งพอได้ชิมก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมาก หอมชาเขียวและเข้มข้นมาก แต่ไม่ขมเลย ใครไปแนะนำมากๆว่าให้ลองชาเขียว No.7

ในส่วนเรื่องของการต่อคิวเราแนะนำว่าถ้าใครอยากมากิน ให้มารับบัตรคิวไว้ก่อน แล้วค่อยไปเดินเล่นแถววัดอาซากุสะ และค่อยกลับมาต่อคิวตามช่วงเวลาที่เราได้รับตามคิวอีกทีนึง
- เวลา : ทุกวัน 11.00-17.00
- สถานี : Subway Asakusa Station (Exit.A5)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Zp6ovxyyVZLuQpZy8?g_st=ic
12. Kagatsudo since 1945

เมลอนปังเจ้าดังแห่งย่าน Asakusa ที่ฮิตมาก บอกตามตรงว่าจริงๆแล้วร้านนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนที่เราตั้งใจจะมาชิม แต่ตอนเดินผ่านร้านคือโดนตกด้วยกลิ่นขนมปังที่หอมมากๆ เลยทำให้อดใจไม่ไหวต้องไปต่อคิวลองชิม เมนูที่เราสั่งเป็น เมลอนปังสอดไส้ vanilla (¥650) รสชาติดีอร่อย ตัวขนมปังข้างนอกจะมีความกรอบและหอม ส่วนตัวไส้ก็ไม่หวานจนเกินไป

- เวลา : Mon - Fri 10.00-16.00 / Sat - Sun 16.00-17.00
- สถานี : Subway Asakusa Station (Exit.A4)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/3NqhXCP54Fxxne
13. I'm donut

ร้านโดนัทที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ร้านนี้มีชื่อเสียงในการทำโดนัทสดใหม่ทุกชิ้น เนื้อโดนัทนุ่ม ไส้ทะลัก มีให้เลือกหลายรสชาติ ร้านนี้มีหลายสาขา โดยเราไปสาขา Omote-sando เป็นร้านเล็กๆไม่ใหญ่มาก เป็นแบบ takeway จะเห็นคิวต่ออยู่หน้าร้าน เรารอคิวประมาณ 15-20 นาที

- เวลา : 11.00-20.00
- สถานี : Subway Omote-sando Station (Exit.A3)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/v9iwrukQZGRdSd5i8...
14. CAFÉ Mori no Terrace CAFÉ 杜のテラス

ร้านกาแฟที่ให้บรรยากาศร่มรื่นและสงบท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่แถวศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) โดยมีการตกแต่งภายในที่ใช้ไม้จากแหล่งไม้ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงไม้จากต้นไม้ที่เคยบริจาคในการสร้างศาลเจ้า เมนูของร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและมีความหลากหลาย เช่น ไอศกรีมมัทฉะ, ช็อกโกแลตดิบ และเค้กสตรอว์เบอร์รี

- เวลา : 9.00-16.20
- สถานี : Subway Meiji-jingumae 'Harajuku' Station (Exit.2)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/v9iwrukQZGRdSd5i8...
15. Blue bottle

ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันที่มีแนวคิดในการคั่วกาแฟสดใหม่ในปริมาณน้อยเพื่อรักษาความสดและรสชาติที่ดีที่สุด Blue Bottle มีสาขาในหลายประเทศ โดยเราเคยมีโอกาสได้ชิมที่ฮ่องกง แล้วรู้สึกชอบ กาแฟอร่อย ละมุนลิ้น ก็เลยมาหาชิมต่อที่โตเกียว โดยสาขาที่เราไปเป็นสาขา ebisu เราสั่งมาเป็น latte เมล็ด blend (¥480)+ Matcha latte (¥860)

- เวลา : 8.00-21.00
- สถานี : Subway Ebisu Station (Exit.1)
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/v9iwrukQZGRdSd5i8...
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่