Our Memories of Tokyo
โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลาย ทั้งอาหารรสเลิศ สถานที่ท่องเที่ยวสุดตื่นตา และที่พักสุดชิคที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่การลิ้มลองซูชิระดับพรีเมียม เดินเล่นในย่านช้อปปิ้งสุดฮิต ไปจนถึงการพักผ่อนในโรงแรมบรรยากาศดี
วันนี้พวกเราจะมารวบรวม 37 ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ในโตเกียว เผื่อมาเป็นไอเดียให้เพื่อนๆที่กำลังแพลนจะเดินทางไปเที่ยว จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยยยย
Landmarks
Nakameguro (sakura)
ต้นซากุระหลายร้อยต้นที่ขนาบข้างแม่น้ำ Meguro ที่ค่อนข้างเล็กและแคบ จนทำให้เกิดเป็นเหมือนอุโมงซากุระที่ทอดยาวกว่า 2 kms ไล่ตั้งแต่สถานี Naka-meguro ไปจนถึงสถานี Meguro
ถ้ามาถึงแล้วก็ต้องลองดื่ม Sparkling wine ที่จะใส่ cherry blossom syrupt พร้อมกับ strawberry สด ให้ความหอมหวานและสดชื่น (ตัว Sparking wine มีให้เลือกทั้งแบบ alc/non-alc) ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ ¥800+
- Subway H01 Naka-mekuro station (Exit.1)
- Meguro, Meguro City, Tokyo 153-0063, Japan
Chidorigafuchi park (sakura)
อีกหนึ่งในสถานที่ขมซากุระที่มีชื่อเสียงในโตเกียว ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ พระราชวังอิมพิเรียล (Imperial Palace)
นอกจากการชมซากุระแล้ว ที่นี่ก็มีเรือเป็ด เรือพายให้บริการด้วย ใครมากับแฟน มากับเพื่อน หรือมากับครอบครัว ก็สามารถไป enjoy เสพบรรยากาศดีๆได้
ตอนเราไปเห็นเขียนป้ายว่าปิด 17.00-17.30 แต่แนะนำให้ไปก่อน เพราะถ้าคนเยอะเขาอาจจะปิดรับคิวเร็ว ส่วนราคาเห็นว่าประมาณ ¥800+/ ลำ (30 นาที นั่งได้สูงสุด 3 คน)
- Subway Z06 / S05 / T06 Kundanshita (Exit.2) + เดินต่อ 700 m
- Subway Z05 Hanzomon (Exit.5) + เดินต่อ 750 m
- Japan, 〒100-0001 Tokyo, Chiyoda City, Kojimachi, 1 Chome−２
Sumida (sakura)
สวนสาธารณะริมแม่น้ำ Sumida ที่อยู่ไม่ไกลจากย่าน Asakusa โดยจุดนี้เราจะเห็นหอคอย Tokyo Skytree เป็นฉากหลัง รวมถึงเราจะเห็นคนญี่ปุ่นที่มากันเป็นครอบครัวมาปูเสื่อนั่งปิคนิคทานอาหารกัน เป็นบรรยากาศที่ดูอบอุ่นมากๆ
- Subway G19 / A18 Asakusa (Exit.5)
- 1 Chome Hanakawado, Taito City, Tokyo 111-0033, Japan
Teamlabs planet
อีก 1 นิทรรศการดิจิตอลอาร์ตยอดฮิตที่หากใครมาเที่ยวโตเกียวไม่ควรพลาด ซึ่งตอนแรกที่วางแพลนเที่ยวกัน พวกเราก็มีปรึกษากันว่าจะมาดีมั้ย กลัวไม่คุ้ม เพราะด้วยราคาบัตรที่ก็แอบแรง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมากัน และรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ เป็นอีก 1 นิทรรศการที่คุ้มค่าสนุก และไม่เสียดายเงินแม้แต่บาทเดียว
- เราไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนนะ ปัจจุบันรูปแบบอาจเปลี่ยนไป
- เวลาเปิด-ปิด : 9.00-21.00 (เปิดทุกวัน)
- สถานี Shintoysu (สัญลักษณ์ตัว U) โดยบัตร Tokyo Subway Ticket จะไม่ cover ดังนั้นต้องใช้บัตร Suica จ่ายเพิ่มประมาณ ¥189 หรือ ถ้าใครไม่อยากเสียเงินเพิ่ม สามารถลงที่สถานี Toyosu แล้วเดินต่อประมาณ 850 เมตร
- 6 Chome-1-16 Toyosu, Koto City, Tokyo 135-0061, Japan
Tokyo Disneyland
ถ้าพูดถึง Tokyo disneyland ก็คงจะเป็นสวนสนุกที่มาเติมเต็มความสุขให้กับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กน้อย หรือวัยผู้ใหญ่แบบเราๆ เป็นอีกสถานที่ที่เรามองไปทางนั้นก็จะเห็นแต่รอยยิ้มของทุกคนๆ
โตเกียวดิสนีย์แลนด์แบ่งออกเป็น 7 โซนหลัก แต่ละโซนมีธีมและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่
- World Bazaar โซนแรกที่พบเมื่อเข้าสู่สวนสนุก เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารในสไตล์อเมริกันย้อนยุค
- Adventureland ดินแดนแห่งการผจญภัย ผสมผสานบรรยากาศของป่าเขตร้อนและวัฒนธรรมแคริบเบียน
- Westernland โซนที่ถ่ายทอดบรรยากาศยุคคาวบอยตะวันตก พร้อมเครื่องเล่นสุดคลาสสิกอย่าง Big Thunder Mountain
- Critter Country โซนขนาดเล็กที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและตัวละครสัตว์ป่าน่ารัก
- Fantasyland ดินแดนแห่งเทพนิยายดิสนีย์ อัดแน่นไปด้วยเครื่องเล่นจากการ์ตูนดัง เช่น ปราสาทซินเดอเรลล่า และ “It’s a Small World”
- Toontown เมืองแสนสนุกของตัวการ์ตูนดิสนีย์ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว
- Tomorrowland โลกแห่งอนาคต ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและเครื่องเล่นสุดล้ำ เช่น Space Mountain
คนที่ซื้อตั๋ว Tokyo subway ticket ถ้านั่งสายสีเทา ⚪️Hibiya ให้ลงที่สถานี Hatchobori แล้วใช้บัตร Suica หรืออื่นๆ จ่ายตังค์เพิ่ม ¥230 เพื่อเปลี่ยนไปขึ้น Keiyo Line (JE) ไปยัง JE07 Maihama sta. (Local Soga)
- เวลาเปิด-ปิด : 8.00-22.00 (เปิดทุกวัน)
- 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba 279-0031, Japan
Tokyo Disneysea
สวนสนุกแห่งเดียวในโลกที่ใช้ธีมเกี่ยวกับทะเล ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งบรรยากาศ การออกแบบ และเครื่องเล่นที่อลังการสุดๆ เราได้มีโอกาสมาเยือน Tokyo Disneyland มาแล้ว ทำให้ Tokyo Disneysea ถือเป็น 1 ใน bucket lists ที่เราอยากไปเมื่อมาถึงโตเกียว
Tokyo tower
หอคอยสีแดงอันโดดเด่น สัญลักษณ์แห่งความเจริญภายหลังสงครามที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่น และสูงกว่าหอไอเฟลต้นแบบของมันอยู่ 13 เมตร
- รถไฟใต้ดิน : Kamiyacho Station (H05 Hibiya line) or Akabanebashi (E21Oedo line)
- 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato City, Tokyo 105-0011, Japan
Tokyo sky tree
หอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงเป็นเท่าตัวของ Tokyo Tower โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ส่งสัญญาณคลื่นสัญญาณให้ครอบคลุมแทนที่ Tokyo Tower
- รถไฟใต้ดิน : Oshiage station (A20 Asakusa line / Z14 Hanzomon line)
- 1 Chome-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045, Japan
Asakusa Temple (Senjoji)
วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซ็นโจจิ เป็นวัดที่มีจุดเด่นคือประตูและโคมแดงขนาดยักษ์ที่หนักถึง 700 kg ซึ่งเป็นจุกถ่ายรูปยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด
รอบๆวัดก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนมต่างๆมากมาย โดยที่เราอยากแนะนำมากๆคือ ร้าน Kagatsudo since 1945 เมลอนปังเจ้าดังแห่งย่าน Asakusa ที่ฮิตมาก บอกตามตรงว่าจริงๆแล้วร้านนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนที่เราตั้งใจจะมาชิม แต่ตอนเดินผ่านร้านคือโดนตกด้วยกลิ่นขนมปังที่หอมมากๆ เลยทำให้อดใจไม่ไหวต้องไปต่อคิวลองชิม เมนูที่เราสั่งเป็น เมล่อนปังสอดไส้ cookies and cream (¥650) รสชาติดีอร่อย ตัวหนมปังข้างนอกจะมีความกรอบและหอม ส่วนตัวไส้ก็ไม่หวานจนเกินไป
- เปิด-ปิด : ทุกวัน 6.00-17.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Asakusa
- พิกัด : 2 Chome-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
Meiji Jingu
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่เงียบสงบกลางกรุงโตเกียว ล้อมรอบด้วยป่าธรรมชาติอันร่มรื่น แม้จะตั้งอยู่ใกล้ย่านชิบูย่าอันพลุกพล่าน แต่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านเสาโทริอิขนาดใหญ่และเพลิดเพลินกับเส้นทางเดินที่เต็มไปด้วยต้นไม้อายุนับร้อยปี
- รถไฟใต้ดิน : Harajuku (JR Yamanote Line) หรือ Meiji-Jingumae (Tokyo Metro Chiyoda Line, Fukutoshin Line)
- พิกัด : 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-8557, Japan
Meji Jingu Gaien (ใบไม้เปลี่ยนสี)
หนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามของโตเกียว โดยเฉพาะอุโมงค์ต้นแปะก๊วย (Ginkgo Avenue) ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยที่เรียงรายอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้บรรยากาศโรแมนติกและเหมาะกับการถ่ายรูป
- รถไฟใต้ดิน : Aoyama-Itchome (Tokyo Metro Ginza Line, Hanzomon Line, Toei Oedo Line) หรือ Gaienmae (Tokyo Metro Ginza Line)
- พิกัด : 1-1 Kasumigaokamachi, Shinjuku City, Tokyo 160-0013, Japan
Shopping street
Shinjuku
เป็นโซนที่มีครบทุกอย่าง อยากได้อะไรหาได้หมด เหมาะสำหรับเดินได้ทุกคน มีโซนขายกล้องมือหนึ่งมือสอง เครื่องใช้ไฟฟ้า Game center ผับบาร์ เสื้อผ้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกแบรนด์เนม
ปล.ที่นี่มีจอ LED ขนาดยักษ์ "Cross Shinjuku Vision" ที่เป็นภาพแมวยักษ์ 3 มิติ ด้วยนะ เปื่อใครอยากไปทำ content
- รถไฟใต้ดิน : Subway Shinjuku station
Shibuya
มีของหลากหลายแนว เป็นห้างๆ มีหลายตึก พวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมก็มีเพียบเช่นกัน ส่วนถ้าเป็นแบรนด์ local ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งอาจจะแตกต่างจากโซนฮาราจูกุ ที่แนวเสื้อผ้าเหมือนจะเป็นแบบรับมา อารมณ์แพลตินั่มบ้านเรา เลยจะมีเสื้อผ้าซ้ำกันหลายร้านในราคาที่แตกต่างกันอยู่
ปล.ที่นี่มีโรงหนัง ผับ บาร์ ก็มีเยอะเช่นกัน รวมถึง 5 แยกชิบูย่าที่โด่งดัง
- รถไฟใต้ดิน : Subway Shibuya station
Harajuku
เป็นแหล่งวัยรุ่น ขายเสื้อผ้าแนวๆ ตรงถนน"Takeshita" ถนนเล็กๆ ระยะทางประมาณ 400 m จะขายเสื้อผ้าออกแนวผู้หญิงๆหน่อย ถ้าถัดไปอีกหน่อยแถว Omotesando จะเป็นแนว flagship store เต็มไปด้วยพวกของ Brandname
- รถไฟใต้ดิน : JR Harajuku station / Subway Meiji-Jingumae “Harajuku” Station or Omotesando Station
Omotesando
ถนนสายช้อปปิ้งสุดหรูที่มีบรรยากาศคล้ายถนน Champs-Élysées ของปารีส เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก คาเฟ่เก๋ ๆ และสถาปัตยกรรมสุดล้ำ นอกจากการช้อปปิ้งแล้ว ย่านนี้ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปะและการออกแบบ โดยมีร้านหนังสือ Tsutaya และ Omotesando Hills ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ
- รถไฟใต้ดิน : Omotesando (Tokyo Metro Ginza Line, Chiyoda Line, Hanzomon Line)
Daikanyamacho
ย่านที่มีเสน่ห์แบบซ่อนเร้น เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่ที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร บรรยากาศเงียบสงบและมีความเป็นท้องถิ่นมากกว่าย่านช้อปปิ้งหลัก เช่น ชิบุย่าหรือฮาราจูกุ ไฮไลต์ของที่นี่คือ Tsutaya Books Daikanyama ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม พร้อมทั้งร้านกาแฟและพื้นที่ให้นั่งพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีร้านแฟชั่นและร้านขายของแต่งบ้านที่เน้นดีไซน์มินิมอลและคุณภาพเยี่ยม
- รถไฟใต้ดิน : Daikanyama (Tokyu Toyoko Line)
อาหารและของหวาน
Jumbo Yakiniku Hongo
ร้านเนื้อย่างชื่อดังของโตเกียวมี 3 สาขาด้วยกัน แต่สาขาที่เราจองมากินกันคือ สาขา Hongo แนะนำว่าควรจองผ่าน Tablecheck มาก่อน เพราะถ้าไม่จองจะไม่ได้กิน โดยที่นี่จะเสริฟเนื้อ Wagyu A5 เป็นหลักซึ่งเมื่อกินไปเรื่อยๆจะมีความเลี่ยนนิดนึง และรวมๆราคาก็ค่อนข้างสูง สำหรับพวกเราโดนไป ¥20,110 แต่ถ้าใครมีงบและได้มาเที่ยวโตเกียวแนะนำว่ามาเถอะ มาลองให้รู้ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน
เมนูที่พวกเราขอแนะนำ
- Nohara Yaki
- Wagyu sushi
- Chateaubriand
- จองโต๊ะได้ที่ https://www.tablecheck.com/.../yakiniku-jambo-hongou/reserve (ใครยังไม่มีเมนูในใจ ก็จองเป็น Seat only reservation ไปก่อนได้นะ)
- เปิด-ปิด : ทุกวัน 17.00-23.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Hongo Sanchome stataion (Exit.2)
- พิกัด : Japan, 〒113-0033 Tokyo, Bunkyo City, Hongo, 3 Chome−38−1 イワシタビル 1F
Sushi Midori
ร้านซูชิชื่อดังในโตเกียวที่ต้องต่อคิวรอหลายชม.กว่าจะได้กิน ร้านนี้มีหลายสาขา แต่สาขาที่เราได้ไปกินมา คือ สาขา Shibuya ตั้งอยู่ที่ตึก Mark City ชั้น 4 โชคดีมากๆที่วันนั้นเราไปตอนร้านใกล้ปิดแล้ว ทำให้ไม่ต้องรอคิวเลย มีเมนูให้เลือกเยอะ ทั้งแบบเป็นเซตและแบบสั่งได้เป็นคำๆ ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบร้านนี้มากเพราะอาหารสดทุกคำ ไม่คาวเลย อย่างโอโทโระที่เราสั่งมาก็ให้ชิ้นหนามาก หวานมาก ฟินสุดๆ อีกทั้งราคาก็ไม่แพงเลย ค่าเสียหายสำหรับร้านนี้พวกเราโดนกันไปประมาณ ¥8,000
- เปิด-ปิด : Mon - Fri 11.00-15.00, 17.00-21.00 / Sat - Sun 11.00 - 21.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Shibuya station
- พิกัด : Japan, 〒150-0043 Tokyo, Shibuya, Dogenzaka, 1 Chome−12−3 マークシティイースト ４Ｆ
Nihonbashi Kaisen Don Taujihan
ร้านอาหารชื่อดังในโตเกียวที่เชี่ยวชาญด้านข้าวหน้าอาหารทะเล (ไคเซ็นด้ง) เมนูเด่นของร้านคือ “Zeitaku-don” ซึ่งประกอบด้วยข้าวสวยร้อน ๆ ท็อปด้วยปลาดิบสดใหม่ เช่น ทูน่า หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอน ราคาของเมนูนี้เริ่มต้นที่ ¥1,250-3,600 ขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของท็อปปิ้งที่เลือก
ส่วนวิธีการกิน ซึ่งทางร้านเขาจะมีคู่มือแนะนำให้ระหว่างที่เราต่อคิวสั่งอาหาร โดยเริ่มต้นด้วยซาซิมิราดซอสงาที่ทางร้านจะเสิร์ฟมาทั้งหมด 4 ชิ้น เขาแนะนำให้เรากินไปก่อน 2 ชิ้น ส่วนอีก 2 ชิ้นที่เหลือ เก็บไว้รับประทานพร้อมกับซุปปลาไทในภายหลัง หลังจากนั้น ทางร้านก็จะเสิร์ฟข้าวหน้าปลาดิบ และพอเราทานข้าวไปได้ระดับหนึ่ง ก็สามารถขอให้เขาใส่ซุปหัวปลาเพื่อเปลี่ยนเป็นเหมือนข้าวต้มให้ซดคล่องๆคอ ซึ่งซาซิมิที่เหลือ 2 ชิ้นก็จะมาใส่ในส่วนนี้นั้นเอง (ซอสงานในซาซิมิ อาจจะเค็มหน่อยนะ ใครที่ไม่ชอบเค็ม คีบแต่เนื้อปลาไปใส่ก็ได้)
สาขาที่เราไปคือ Tokyo Midtown ซึ่งมีประมาณ 9 ที่นั่ง ใช้เวลารอคิวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทรหดมากๆ เห็นบางคนบอกสาขา Ark hills น่าจะรอไม่นานเท่า แต่ไม่รู้จริงไหม
- เปิด-ปิด : 11.00-20.30
- รถไฟใต้ดิน : Subway Ropoggi station (Exit.8)
- พิกัด : Japan, 〒107-0052 Tokyo, Minato City, Akasaka, 9 Chome−7−1 東京ミッドタウン ガレリア B1F
Gyukatsu Motomura
ร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้าน “กิวคัตสึ” หรือเนื้อวัวชุบแป้งทอดกรอบ เมนูหลักของร้านคือเนื้อวัวคุณภาพดีที่ทอดจนกรอบนอกแต่นุ่มฉ่ำด้านใน เสิร์ฟคู่กับข้าว ซุปมิโสะ กะหล่ำปลีฝอย และน้ำจิ้มหลากหลายแบบ จุดเด่นคือการเสิร์ฟเนื้อในระดับ rare เพื่อให้เราสามารถนำไปย่างบนเตาหินร้อนที่เตรียมไว้บนโต๊ะ เพื่อปรับระดับความสุกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น Medium Rare, Medium หรือสุกมากขึ้นตามต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมรสชาติและสัมผัสของเนื้อได้เอง เพิ่มประสบการณ์การรับประทานที่สนุกและเป็นเอกลักษณ์ของร้าน
สาขาที่เราไปคือ Shibuya ซึ่งมีประมาณ 9 ที่นั่ง ใช้เวลารอคิวประมาณ 30 นาที ที่ไม่นานก็เพราะเราไปต่อคิวก่อนร้าจะเปิด
- เปิด-ปิด : 11.00-22.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Shibuya station (Exit.C2)
- พิกัด : Japan, 〒150-0002 Tokyo, Shibuya, 3 Chome−18−10 大野ビル
Kaiten sushi ginza
ร้านซูชิแบบสายพานที่ตั้งอยู่ในย่านกินซ่าของโตเกียว โดยสาขาหลักของเครือ Onodera Group ที่มีชื่อเสียงในการนำเข้าทูน่าสีน้ำเงินคุณภาพสูงจากตลาดปลา Toyosu นอกจากคุณภาพของซูชิที่พรีเมี่ยมแล้ว ร้านยังมีบรรยากาศที่ทันสมัย โดยเราสามารถนั่งที่เคาน์เตอร์เพื่อชมเชฟทำซูชิสด ๆเลย
- เปิด-ปิด : 10.30-22.30 (ปิดวันอาทิตย์)
- รถไฟใต้ดิน : Subway Omote-Sando station (Exit.A1)
- พิกัด : Japan, 〒150-0001 Tokyo, Shibuya, Jingumae, 5 Chome−1−6 イルパラッツィーノ表参道 １階
Tonkatsu Hajime
ร้านทงคัตสึชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องหมูทอดกรอบนอกนุ่มใน ทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูคุณภาพสูง เช่น Hoei Buta ซึ่งมีรสชาติหวานมัน และผ่านการทอดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้สัมผัสที่กรอบเบาแต่ยังคงความฉ่ำของเนื้อหมู ด้านในร้านเป็นครัวแบบเปิด ทำให้ลูกค้าสามารถชมขั้นตอนการทำอาหารอย่างใกล้ชิด
เราไปลองชิมที่สาขา Nihonbashi นะ มาถึงร้านประมาณ 16.30 ไม่เกิน 10-15 นาทีได้เข้าแล้ว แต่เสียเวลารออาหารเกือบ 30 นาที กว่าจะได้กิน เพราะเขาทอดกันด้วยมือแบบชิ้นต่อขิ้น แต่ถ้าใครไปแล้วสาขานี้คนเยอะ ก็ลองเดินไปสาขาใหม่ Nihonbashi Tonkatsu Hajime Hanare ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 2 นาทีจากสาขา Nihonbashi
- เปิด-ปิด : 10.00/11.00-21.00 (ปิดวันจันทร์)
- รถไฟใต้ดิน : Subway Mitsukoshimae station (Exit.A4)
- พิกัด : Japan, 〒150-0001 Tokyo, Shibuya, Jingumae, 5 Chome−1−6 イルパラッツィーノ表参道 １階
ตลาดปลา Tsukiji
ร้านอาหาร และของกิน ในตลาดปลา Tsukiji ที่เราไปลองชิมมาก็เช่น
ร้าน Tamagoyaki - เราสั่งมาจะเป็นไข่หวานที่มาพร้อมกับ unagi ที่มีซอสหวานๆราดอยู่บนตัว unagi แต่ส่วนตัวก็เฉยๆนะ อร่อยดีแต่ก็ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น ราคาไม้ละ ¥800
ร้านไข่หวาน Yamacho - ร้านนี้คือร้านที่เราปักหมุดว่าต้องมาโดนตั้งแต่ตอนทำแพลน เป็นร้านไข่หวานชื่อดังในตลาดปลานี้ เมื่อได้ชิมก็ไม่แปลกใจที่เป็นร้านยอดฮิตคนต่อคิวเยอะ เพราะว่าอร่อยมาก! ส่วนตัวเป็นไข่หวานที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา เราว่าเค้ามีความหอม หวานกำลังดีไม่มากจนเกินไป ราคาก็ย่อมเยาว์ไม้ละ ¥150 เท่านั้น
ร้าน Kouragumi Kani - เราสุ่มเลือกร้านนี้เพราะมีข้าวด้งหลายหน้าให้เลือก มีของย่างหลายอย่าง และที่สำคัญคือไม่ต้องต่อคิว! คือทางร้านจะให้เราลงชื่อไว้ แล้วเราสามารถไปเดินเล่นที่บริเวณอื่น แล้วค่อยกลับมาเอาโต๊ะนั่งกินได้ โดยเราสั่งข้าวด้งมา 2 ชาม ไซส์เล็กชามละ ¥2000 ชามแรก คือ อูนิ & อิคุระ & ทูน่าบด ชามนี้อร่อยเลยมุกอย่างคือหวานและสดมากๆ ส่วนชามที่สอง คือ แซลมอน & ทูน่า & อิคุระ อันนี้ก็อร่อย สด แร่ปลาได้ชิ้มใหญ่เต็มปลาเต็มคำ ส่วนอีกอย่างที่เราสั่ง คือ มันปูย่าง อันนี้คือฟินมากกกก นัวสุดๆ คลุกกับข้าวคือที่สุดเลย พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป
ร้านหอยยืนกิน - สำหรับร้านนี้ต้องขอโทษจริงๆที่ไม่ทราบชื่อร้าน แต่เมื่อเดินเข้ามาจากถนนใหญ่จะอยู่ซอยแรกทางซ้ายมือเลย เป็นร้านที่ชอบมาก ในสไตล์ความเป็น local คือจะขายพวกหอยต่าง และซาชิมิแบบยืนกินข้างทางเลย เราลองสั่ง Hotate มาลองชิม คือมันฟินมากๆๆๆๆ หอยตัวใหญ่ และหวานมาก ไม่คาวเลย และที่สำคัญราคาถูกสุดๆ ได้มา 5 ชิ้น ¥500 ไปลองกันนะทุกคนคุ้มค่ามากๆ
ร้าน Matcha stand - ร้านชาเขียวชื่อดังที่มีคนมายืนต่อแถวตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน และพวกเราก็เป็น 1 ในนั้น โดยเราสั่ง Iced Matcha Latte (single shot) ¥650 ส่วนตัวเราว่าอร่อยดีนะ ชาเขียวหอมอ่อนๆ ไม่เข้มข้น เข้ากับนมเย็นๆนัวๆ ก็ฟินดี แต่ถ้าใครชอบแบบเข้มข้น เราแนะนำสั่งเป็น double shot ดีกว่า น่าจะฟินกว่านี้
- เปิด-ปิด เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ยกเว้น วันพุธ / ส่วนวันอาทิตย์ที่เราไปเหมือนร้านจะเปิดแค่บางส่วน
- รถไฟใต้ดิน Tsukiji (H12) ถ้าจำไม่ผิดออก exit.1 และเดินต่ออีก 450 m
- พิกัดJapan, 〒104-0045 Tokyo, Chuo City, Tsukiji, 4 Chome および６丁目一部
ตลาดปลา Toyosu
ตลาดปลาแห่งใหม่ที่ร้านค้าส่วนหนึ่งย้ายมาจากตลาดปลา Tsukiji ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018
ถ้าเทียบกันระหว่างตลาดปลา Tsukiji (ตลาดเดิม) กับ Toyosu (ตลาดใหม่ที่มีร้านค้าบางส่วนจาก Tsukiji ย้ายไป) เราชอบตลาด Tsukiji มากกว่านะ มันดู local กว่า vibe ดีกว่า ส่วนตลาด Toyosu แนวนั่งกินในร้านอาหารมากกว่า
- เปิด-ปิด : 6.30 - 14.30 (ปิดวันพุธและวันอาทิตย์)
- รถไฟใต้ดิน : Shijo-mae station (Exit.1A) สาย Yurikamome
- พิกัด : 6 Chome-6-1 Toyosu, Koto City, Tokyo 135-0061, Japan
Sidewalk coffee stand
ร้าน coffee stand เล็กๆ ย่าน Nakameguro ที่เราได้มีโอกาสแวะตอนไปเดินดูซากุระ เป็นร้านที่ตอนเดินผ่านแล้วค่อนข้างสะดุดตาตั้งอยู่หัวมุมถนนเลย ตัวร้านตกแต่งสไตล์ loft มีความดิบๆเท่ๆ เหมาะกับการจิบกาแฟพร้อมชมซากุระ กาแฟและชาของร้านนี้ก็อร่อยมากด้วย แต่เสียดายร้านเค้าค่อนข้างเล็กมาก มีเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งได้ 2-3 ที่ ส่วนมากคนจึงมักซื้อแบบ take away
เมนูที่เราสั่งกันมา
- Hot latte (¥550+)
- Hot chai tea (¥680+)
- เปิด-ปิด : ทุกวัน 9.00-19.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Nakameguro station (Exit.1)
- พิกัด : Japan, 〒153-0042 Tokyo, Meguro City, Aobadai, 1 Chome−23−14 斎藤ビル 1F
Fuglen Tokyo
คาเฟ่สไตล์นอร์ดิกชื่อดังจากนอร์เวย์มีหลายสาขาร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจแบบสแกนดิเนเวีย ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยสาขาที่พวกเราไปกัน คือ สาขา Asakusa
เมนูที่เราสั่งเป็น ลาเต้ร้อน (¥690) เป็นกาแฟนมที่หอม นุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่คนเยอะทุกสาขา
- เปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 - 22.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Asakusa Station (Exit.A4)
- พิกัด : 2 Chome-6-15 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
Suzukien
ไอติมชาเขียว 7 ระดับในตำนานที่ว่ากันว่าเข้มข้นที่สุดในโลกแห่งย่าน Asakusa เมื่อได้ไปทั้งทีเราเลยลองสั่งชาเขียว No.7 (¥650) ที่เข้มข้นที่สุดมาชิม ซึ่งพอได้ชิมก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมาก หอมชาเขียวและเข้มข้นมาก แต่ไม่ขมเลย ใครไปแนะนำมากๆว่าให้ลองชาเขียว No.7
ในส่วนเรื่องของการต่อคิวเราแนะนำว่าถ้าใครอยากมากิน ให้มารับบัตรคิวไว้ก่อน แล้วค่อยไปเดินเล่นแถววัดอาซากุสะ และค่อยกลับมาต่อคิวตามช่วงเวลาที่เราได้รับตามคิวอีกทีนึง
- เปิด-ปิด : ทุกวัน 11.00 - 17.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Asakusa Station (Exit.A5)
- พิกัด : 3 Chome-4-3 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
Kagatsudo since 1945
เมลอนปังเจ้าดังแห่งย่าน Asakusa ที่ฮิตมาก บอกตามตรงว่าจริงๆแล้วร้านนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนที่เราตั้งใจจะมาชิม แต่ตอนเดินผ่านร้านคือโดนตกด้วยกลิ่นขนมปังที่หอมมากๆ เลยทำให้อดใจไม่ไหวต้องไปต่อคิวลองชิม เมนูที่เราสั่งเป็น เมล่อนปังสอดไส้ vanilla (¥650) รสชาติดีอร่อย ตัวหนมปังข้างนอกจะมีความกรอบและหอม ส่วนตัวไส้ก็ไม่หวานจนเกินไป
- เปิด-ปิด : Mon - Fri 10.00 - 16.00 / Sat - Sun 16.00 - 17.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Asakusa Station (Exit.A4)
- พิกัด : 2 Chome-7-13 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
I'm donut
ร้านโดนัทที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ร้านนี้มีชื่อเสียงในการทำโดนัทสดใหม่ทุกชิ้น เนื้อโดนัทนุ่ม ไส้ทะลัก มีให้เลือกหลายรสชาติ ร้านนี้มีหลายสาขา โดยเราไปสาขา Omote-sando เป็นร้านเล็กๆไม่ใหญ่มาก เป็นแบบ takeway จะเห็นคิวต่ออยู่หน้าร้าน เรารอคิวประมาณ 15-20 นาที
- เปิด-ปิด : 11.00-20.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Omote-sando Station (Exit.A3)
- พิกัด : Japan, 〒107-0061 Tokyo, Minato City, Kita-Aoyama, 3 Chome−5−18 第一吉田ビル
CAFÉ Mori no Terrace
ร้านกาแฟที่ให้บรรยากาศร่มรื่นและสงบท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่แถวศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) โดยมีการตกแต่งภายในที่ใช้ไม้จากแหล่งไม้ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงไม้จากต้นไม้ที่เคยบริจาคในการสร้างศาลเจ้า เมนูของร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและมีความหลากหลาย เช่น ไอศกรีมมัทฉะ, ช็อกโกแลตดิบ, และเค้กสตรอว์เบอร์รี
- เปิด-ปิด : 9.00-16.20
- รถไฟใต้ดิน : Subway Meiji-jingumae 'Harajuku' Station (Exit.2)
- พิกัด : 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-0052, Japan
Blue bottle Ebisu
ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันที่มีแนวคิดในการคั่วกาแฟสดใหม่ในปริมาณน้อยเพื่อรักษาความสดและรสชาติที่ดีที่สุด Blue Bottle มีสาขาในหลายประเทศ โดยเราเคยมีโอกาสได้ชิมที่ฮ่องกง แล้วรู้สึกชอบ กาแฟอร่อย ละมุนลิ้น ก็เลยมาหาชิมต่อที่โตเกียว โดยสาขาที่เราไปเป็นสาขา ebisu เราสั่งมาเป็น latte เมล็ด blend (¥480)+ Matcha latte (¥860)
- เปิด-ปิด : 8.00-21.00
- รถไฟใต้ดิน : Subway Ebisu Station (Exit.1)
- พิกัด : Japan, 〒150-0022 Tokyo, Shibuya, Ebisuminami, 1 Chome−5−5 アトレ恵比寿本館 １階
ที่พัก
Ginza Capital Hotel Akane
ไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ ตำแหน่งที่ตั้งที่สะดวกสบาย โดยใช้เวลาเดินเท้าจากสถานีรถไฟใต้ดินไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น เท่านั้นยังไม่พอ เราสามารถเดินเท้าจากที่พักไปตลาดปลา Tsukiji เพียงแค่ 10 นาที เท่านั้น
- ห้องพัก : แน่นอนว่าในใจเมืองโตเกียว ถ้าอยากได้ที่พักราคาไม่แรง แต่ทำเลดี เราก็ต้องแลกมาด้วยขนาดห้องพักที่ไซด์มินิมากๆ น่าจะประมาณ 11-15 ตารางเมตรเท่านั้นเอง คือ กางกระเป๋าเดินทางขนาด 30 นิ้วได้ไม่สุดอ่ะ
- สำหรับ Facility อื่นๆ เขาก็มีให้ครบครัน ทั้ง ทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม อ่างอาบน้ำ เครื่องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว รวมถึงบริการฝากสัมภาระ
- อาหารเช้า : ทางโรงแรมมีร้านอาหารของตัวเองชื่อ Akane Kuriya ซึ่งจะเป็นอาหารประเภทบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบอมเริกันและญี่ปุ่น โดยจะเปิดตั้งแต่ 7.00-10.00 หรือใครอยากหาของทานเล่นที่ร้านสะดวกซื้อ แถวนี้ก็มี Family mart อยู่ข้างๆเลย
- Check-in : 15.00-02.00 (วันถัดไป) / Check-out : untill 10.00
- รถไฟใต้ดิน : Y20 Shintomicho Station + เดินต่อประมาณ 160 เมตร OR H11 Tsukiji Station + เดินต่อ 230 เมตร
- พิกัด : 3 Chome-1-5 Tsukiji, Chuo City, Tokyo 104-0045, Japan
APA Hotel Ueno Inaricho-Eki-Kita
ไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ ตำแหน่งที่ตั้งที่สะดวกสบาย โดยใช้เวลาเดินเท้าจากสถานีรถไฟ Uneo Sation และ สถานีรถไฟใต้ดิน Inaricho เพียงแค่ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้เห็นว่าทุกห้องในนี้จะเป็นแบบปลอดบุหรี่ทั้งหมด แล้วก็บางห้องเห็นวิว Tokyo Skytree ด้วย
- ห้องพัก : แน่นอนว่าในใจเมืองโตเกียว ถ้าอยากได้ที่พักราคาไม่แรง แต่ทำเลดี เราก็ต้องแลกมาด้วยขนาดห้องพักที่ไซด์มินิมากๆ โดยห้องที่เราจองไปมีขนาด 11 ตารางเมตรเท่านั้นเอง คือ กางกระเป๋าเดินทางขนาด 30 นิ้วได้ไม่สุดอ่ะ
- สำหรับ Facility อื่นๆ เขาก็มีให้ครบครัน ทั้ง ทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม อ่างอาบน้ำ เครื่องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว รวมถึงบริการฝากสัมภาระ จำได้ว่า wifi ที่นี่เสถียรและเน็ตแรงอยู่นะ
- อาหารเช้า : ไม่มีให้บริการ แต่สามารถหาทานได้จากร้านบริเวณรอบๆ หรือจะเป็นร้านสะดวกซื้ออย่าง 7/11 ก็เดินประมาณ 130 เมตรเท่านั้น
- Check-in : 15.00-00.00 / Check-out : untill 10.00
- รถไฟใต้ดิน : G17 Inaricho + เดินต่อประมาณ 230 เมตร ตึกสีส้มสังเกตไม่ยาก
- พิกัด : 5 Chome-10-8 Higashiueno, Taito City, Tokyo 110-0015, Japan
Remm Roppongi
โรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านรปปงหงิ เดินทางสะดวกเพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน จุดเด่นของโรงแรมคือห้องพักที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ทันสมัย พร้อมเตียงนอนที่นุ่มสบายและเก้าอี้นวดไฟฟ้าเพื่อความผ่อนคลาย ตัวโรงแรมอยู่ใกล้แหล่งบันเทิงและร้านอาหารชื่อดังมากมาย เช่น Roppongi Hills และ Tokyo Midtown เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการที่พักสะอาด สะดวก และอยู่ในทำเลที่ดี
- Check-in : 14.00+ / Check-out : untill 12.00
- รถไฟใต้ดิน : Roppongi (Tokyo Metro Hibiya Line, Toei Oedo Line)
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SKfY8zKuzT6DfTUU8?g_st=ic
Christmas event ช่วง winter
(เป็น event ที่เราไปช่วงปี 2024 นะ)
(เป็น event ที่เราไปช่วงปี 2024 นะ)
Tokyo Christams Market (winter)
ตลาดคริสต์มาสที่จำลองมาจากตลาดคริสต์มาสแบบดั้งเดิมที่จัดขึ้นในเมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี มาตั้งไว้กลางเมืองโตเกียว พร้อมบรรยากาศสุด festive
งานนี้จัดเต็มไปด้วย ร้านอาหาร 35 ร้าน ร้านขายของเบ็ดเตล็ด 22 ร้าน และเวิร์กช็อป 4 แห่ง ให้เราได้เลือกช็อปเลือกชิมกันแบบจุใจ ทั้ง Currywurst (ไส้กรอกเยอรมันที่ราดด้วยซอสแกงกระหรี่), Churros, ไวน์ร้อนเบียร์ร้อน และอื่นๆอีกมากมาย
Gimmick อีกอย่างของร้านค้าที่นี่ ก็คือ หลังคาที่เรียกว่า Hutte ซึ่งถูกตกแต่งด้วยลวดลายคริสต์มาส เช่น ตุ๊กตาหิมะ ซานต้า และกวางเรนเดียร์ อีกทั้งยังมี ปิรามิดคริสต์มาสที่สูงกว่า 14 เมตร ภายใต้ concept "เทพนิยายของกริมม์" ซึ่งเป็นการรวบรวมนิทานพื้นบ้านจากประเทศเยอรมนีและบริเวณโดยรอบ เช่น หนูน้อยหมวกแดง ที่เราเคยอ่านกันแต่เด็ก
- ช่วงเวลาจัดงาน: 19 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2024
- เปิด-ปิดเวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 11.00-21.30 (รอบสุดท้ายเข้าตอน 20.00)
- รถไฟใต้ดินรถไฟใต้ดิน: สถานี Aoyama-Itchome / Gaiemmae แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
- ค่าเข้า: จองล่วงหน้า (Trip.com) ¥1,000 - 1,500 รับฟรีแก้วมัค / Walk-in ซื้อหน้างาน ¥2,000
- พิกัด : Meiji Jingū Gaien Rubber Baseball Field
MIDTOWN CHRISTMAS at Midtown garden (winter)
งานประดับย่าน Roppongi ที่ว่ากันว่า ปังปุริเย่ ที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆในโตเกียว โดยที่นี่จัดเต็มไปด้วยไฟ LED หลายแสนดวงที่ประดับประดาอยู่เต็มไปหมดบนต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทาง พร้อมการแสดงแสง สี เสียง effect พิเศษต่างๆ และดนตรีประกอบ เอาจริงๆ คือ โรแมนติกมากๆ ถ้าไม่มีเวลา แล้วจำเป็นต้องเลือกงานไฟในโตเกียวแค่ 1 ที่ๆจะต้องไป ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ควรเป็นตัวเลือกนั้น
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งด้วยนะ ใครสนใจก็ไปเล่นกันได้
- ช่วงเวลาจัดงาน: 14 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2024
- เปิด-ปิดเวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 17.00-23.00
- รถไฟใต้ดินรถไฟใต้ดิน: สถานี Roppongi / Nogizaka
- พิกัด : Midtown Garden
Keyakizaka illumination in Roppongi (winter)
อีกหนึ่งงานประดับไฟชื่อดังในย่าน Roppongi โดยจัดขึ้นบนถนนสาย Keyakizaka Street ที่ทอดยาวขนานกับตึก Roppongi Hills ถนนทั้งสายจะถูกตกแต่งด้วยไฟ LED สีขาวและน้ำเงิน ซึ่งให้ความรู้สึกสงบและหรูหราเหมือน "Crystal Snow" ที่กำลังโปรยปรายในฤดูหนาว โดยไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาถ่ายก็คือ มุมไฟประดับตลอดแนวต้นไม้สองข้างทาง โดยมี Tokyo Tower เป็นฉากหลัง
จุดถ่ายรูปให้สังเกตุตรงทางม้าลายที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยกั้นรถกั้นคน ตรงที่วุ่นวายๆ เดินไปจุดนั้นเลย กับ อีกตรงหนึ่งจะเป็นเหมือนสะพานเชื่อม ต้องเดินขึ้นชั้น 2 ของตึก Roppongi Hills ที่อยู่ซ้ายมือตอนหันหา Tokyo Tower
- ช่วงเวลาจัดงาน: 7 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2024
- เปิด-ปิดเวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 17.00-23.00
- รถไฟใต้ดินรถไฟใต้ดิน: สถานี Roppongi
- พิกัด: ถนนสาย Keyakizaka Street
หมายเหตุ: บางสถานที่ เราไปเมื่อ 2-3 ปี ก่อนนะ ปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าข้อมูลผิดพลาด หรือ ไม่ up to date ต้องขออภัย
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
