เกร็ดความรู้สงครามโลกครั้งที่ 2 มีประเทศไหนบ้างที่ย้ายข้างจากฝ่ายอักษะ มาอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร

Histofun Deluxe

Histofun Deluxe เพจที่นำเสนอเรื่องราวของประวัติศาสตร์ทั้งไทยและเทศ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สนุกสนาน

          ย้ายข้างสลับฝั่ง มีประเทศไหนบ้าง ที่ย้ายข้างจากฝ่ายอักษะมาอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร
          อย่างที่เรารู้ สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสงครามที่ต่อสู้กันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับฝ่ายอักษะ
          แต่มีประเด็นน่าสนใจคือ บางประเทศที่เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะนั้น ภายหลังได้เกิดย้ายข้างมาอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตรแทน ซึ่งประเทศเหล่านี้ประกอบไปด้วย
1. โรมาเนีย
สงครามโลกครั้งที่ 2

          ในช่วงต้นของสงครามโลก โรมาเนียหรือที่ในตอนนั้นคือ ราชอาณาจักรโรมาเนีย ได้ประกาศตัวเป็นประเทศเป็นกลาง อย่างไรก็ตามในปี 1940 ด้วยอิทธิพลของสหภาพโซเวียตในยุโรปตะวันออก รวมถึงการที่กลุ่มฟาสซิสต์ที่เรียกว่า 'Iron Guard' เฟื่องฟูภายในประเทศ
          ทำให้รัฐบาลโรมาเนียตัดสินใจลงนามสนธิสัญญาไตรภาคี (Tripartite Pact) ในเดือนพฤศจิกายน 1940 เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ
          เมื่อนาซีเยอรมันเปิดศึกกับสหภาพโซเวียต โรมาเนียก็ได้ให้การสนับสนุนกับทางนาซีเยอรมัน
          ในช่วงปี 1943 ถึง 1944 โรมาเนียถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดโจมตี รวมถึงกองทัพโซเวียตยังรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของโรมาเนีย กระแสความนิยมในรัฐบาลจึงตกต่ำ ส่งผลให้ในเดือนสิงหาคม 1944 พระเจ้าไมเคิลที่ 1 (หรือมิไฮ ตามสำเนียงภาษาโรมาเนีย) ได้ทรงก่อการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลที่สนับสนุนฝ่ายอักษะ
          หลังจากนั้น โรมาเนียก็ย้ายข้างอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตรจนจบสงคราม
2. บัลแกเรีย
สงครามโลกครั้งที่ 2

          เช่นเดียวกับโรมาเนีย ในช่วงแรกของสงคราม บัลแกเรียหรือราชอาณาจักรบัลแกเรียในตอนนั้น ก็ได้ประกาศตัวเป็นประเทศเป็นกลาง
          อย่างไรก็ตาม บัลแกเรียมีความสัมพันธ์อันดีกับทางนาซีเยอรมันตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ส่วนหนึ่งที่ทำให้บัลแกเรียผูกมิตรกับเยอรมัน ก็เพราะเยอรมันเคยให้สัญญาว่า จะสนับสนุนบัลแกเรียในการยึดครองมาซิโดเนีย (Macedonia) และเทรซ (Thrace) ซึ่งเคยเป็นดินแดนของบัลแกเรียมาก่อน
          ในเดือนมีนาคม 1941 บัลแกเรียลงนามสนธิสัญญาไตรภาคีเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ บัลแกเรียเข้าร่วมกับนาซีเยอรมันในการรุกรานยูโกสลาเวียกับกรีซ
          สุดท้ายในปี 1944 ความอ่อนแอของนาซีเยอรมัน และการถูกกองทัพโซเวียตรุกราน ทำให้บัลแกเรียประกาศตัวเป็นกลางอีกครั้ง มีการขับไล่กองกำลังเยอรมัน ก่อนที่บัลแกเรียจะย้ายข้างอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตรและประกาศสงครามต่อนาซีเยอรมัน
3. ฟินแลนด์
สงครามโลกครั้งที่ 2

          ในปี 1939 นาซีเยอรมันกับสหภาพโซเวียตได้ลงนามในสนธิสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพ (Molotov–Ribbentrop Pact) เพื่อแบ่งเขตอิทธิพลของตนในยุโรป และให้สัญญาว่าจะไม่รุกรานระหว่างกัน (แต่สุดท้ายนาซีเยอรมันจะเป็นฝ่ายหักหลัง)
          ผลพวงของสนธิสัญญา ทำให้สหภาพโซเวียตส่งกองทัพบุกฟินแลนด์ เพื่อยึดครองฟินแลนด์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของรัสเซียมาก่อน นำไปสู่สงครามฤดูหนาว (Winter War)
          สงครามฤดูหนาวจบลงในปี 1940 โซเวียตเป็นฝ่ายชนะ ฟินแลนด์เสียดินแดนบางส่วนให้กับโซเวียต ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ทำให้ฟินแลนด์ตัดสินใจจับมือเป็นพันธมิตรกับนาซีเยอรมันเพื่อต่อต้านสหภาพโซเวียต และทวงคืนดินแดนที่เสียไป
          ฟินแลนด์ไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาไตรภาคีเพื่อเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะอย่างเป็นทางการ แต่ฟินแลนด์ลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลในปี 1941 แทน (Anti-Comintern Pact) ซึ่งชาติที่ลงนามในสนธิสัญญานี้ ส่วนใหญ่ก็คือชาติที่อยู่กับฝ่ายอักษะ
          ในช่วงปี 1941 ถึง 1944 ฟินแลนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากนาซีเยอรมันและอิตาลี ต่อสู้กับสหภาพโซเวียตในสงครามต่อเนื่อง (Continuation War) แต่ฟินแลนด์ก็แพ้ในสงครามนี้
          ในเดือนสิงหาคม 1944 รัฐบาลใหม่ของฟินแลนด์ได้เจรจาลับกับสหภาพโซเวียต ก่อนที่ในเดือนถัดมา ฟินแลนด์จะยุติสงครามและทำข้อตกลงสันติภาพกับสหภาพโซเวียต ฟินแลนด์ที่ตอนนี้ย้ายข้างอยู่กับโซเวียต ได้ทำสงครามแลปแลนด์ (Lapland War) ขับไล่นาซีเยอรมันออกจากฟินแลนด์ ซึ่งสุดท้ายฟินแลนด์ก็เป็นฝ่ายชนะ
4. อิตาลี
สงครามโลกครั้งที่ 2

          อิตาลีหรือราชอาณาจักรอิตาลี ภายใต้เผด็จการฟาสซิสต์ เบนิโต มุสโสลินี (Benito Mussolini) คือหนึ่งในแกนหลักสำคัญของฝ่ายอักษะ 
          ตลอดช่วงสงครามโลก อิตาลีดำเนินสงครามทั้งในภาคพื้นยุโรปและแอฟริกาเหนือ อย่างไรก็ตามความไร้ประสิทธิภาพของกองทัพอิตาลี และการพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง ได้ทำให้อำนาจของมุสโสลินีต้องสั่นคลอน 
          ในเดือนกรกฎาคม 1943 ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ฝ่ายสัมพันธมิตรบุกเข้าถึงดินแดนอิตาลี มุสโสลินีได้ถูกพระเจ้าวิกเตอร์ เอมมานูเอลที่ 3 (Victor Emmanuel III) สั่งปลดจากตำแหน่งผู้นำประเทศ และถูกจับกุม อิตาลีมีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่ย้ายข้างมาอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตร 
          อย่างไรก็ตาม มุสโสลินีก็หลบหนีออกมาได้ และได้ไปตั้งสาธารณรัฐซาโล (Republic of Salo) รัฐหุ่นเชิดของนาซีเยอรมันอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี แต่สุดท้ายชีวิตของมุสโสลินีกับสาธารณรัฐซาโลก็ต้องจบลง ในเดือนเมษายน 1945 
5. ไทย 
สงครามโลกครั้งที่ 2

          สำหรับประเทศไทยของเรา ก็อาจจะจัดอยู่ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้เช่นกัน ในช่วงแรกของสงคราม ไทยประกาศตัวเป็นกลาง จนกระทั่งในเดือนธันวาคม 1941 เมื่อญี่ปุ่นส่งกองทัพบุกไทย รัฐบาลไทยที่ตอนนั้นนำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ตัดสินใจนำไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น และประกาศสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตร
          สุดท้ายเมื่อสงครามจบลง ไทยกลับรอดพ้นจากสถานะประเทศที่แพ้สงคราม ทั้งนี้ก็มาจากการดำเนินงานของขบวนการเสรีไทย (Free Thai Movement) และรัฐบาลใหม่ของไทย ที่ได้ประกาศว่า การเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ไม่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ จึงถือว่าการประกาศสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นโมฆะ 

Reference

Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ Histofun Deluxe
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เกร็ดความรู้สงครามโลกครั้งที่ 2 มีประเทศไหนบ้างที่ย้ายข้างจากฝ่ายอักษะ มาอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร อัปเดตล่าสุด 26 มิถุนายน 2566 เวลา 14:25:52 9,094 อ่าน
TOP