ทำไมลาวเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดทางอากาศมากที่สุดในโลก
ประเทศลาวได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในปี 1954 จากผลพวงของสนธิสัญญาเจนีวา (Geneva Accords) ลาวถูกปกครองโดยระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญในชื่อ ‘พระราชอาณาจักรลาว’
อย่างไรก็ตามความขัดแย้งในสงครามเย็น ก็ทำให้ลาวหนีไม่พ้นไฟแห่งสงคราม รัฐบาลของพระราชอาณาจักรลาวเกิดความขัดแย้งกับขบวนการ ‘ปะเทดลาว’ ที่เป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์ในประเทศ
แม้ทั้งสองฝ่ายรวมถึงกลุ่มที่เป็นกลาง จะพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อสลายความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ นั่นจึงนำไปสู่สงครามกลางเมืองลาวหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘สงครามลับในลาว’
ในสงครามครั้งนั้น สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวในการต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์ ที่สำคัญก็คือสงครามเวียดนามก็ได้เกิดขึ้นในตอนนั้น โดยเวียดนามเหนือก็ได้ใช้ลาวเป็นเส้นทางผ่านไปยังเวียดนามใต้ หรือที่รู้จักในชื่อเส้นทางโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Trail)
ในการทำลายฐานที่มั่นของคอมมิวนิสต์และเส้นทางโฮจิมินห์ในลาว สหรัฐอเมริกาก็ได้ใช้ยุทธวิธีทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศ
ระหว่างปี 1964 ถึง 1973 ในช่วงสงครามกลางเมืองลาว สหรัฐอเมริกาได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดในลาวมากถึง 580,000 ครั้ง ด้วยจำนวนระเบิดมากถึง 270,000,000 ลูก น้ำหนักรวมกัน 2,000,000 ตัน
แต่สุดท้ายปฏิบัติการทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาก็ล้มเหลว สงครามกลางเมืองลาวจบลงในปี 1975 ด้วยชัยชนะของขบวนการปะเทดลาว นำไปสู่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในที่สุด
และด้วยจำนวนระเบิดที่มหาศาลนี้ จึงทำให้ลาวกลายเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดทางอากาศมากที่สุดในโลก โดยจำนวนระเบิดในลาวมีมากกว่าระเบิดทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
และหากเปรียบเทียบแบบง่าย ๆ จะเท่ากับมีการทิ้งระเบิดทุก ๆ 8 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 9 ปีเต็ม หรือประชากรลาว 1 คน มีสัดส่วนเท่ากับระเบิด 1 ตัน
ในปัจจุบันยังมีระเบิดที่หลงเหลืออยู่ในลาวมากถึง 80,000,000 ลูก ที่ยังพร้อมระเบิดได้อยู่ และตั้งแต่ปี 1975 มีประชากรลาวมากกว่า 20,000 คน ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากระเบิดที่หลงเหลืออยู่นี้
References
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
