Gladiator (2000) กับความวุ่นวายเบื้องหลังกองถ่าย

Vintage Motion

เพจหนังที่บอกเล่าเกร็ดภาพยนตร์ ความเป็นมา รวมถึงชีวิตนักแสดง ทีมงาน เพื่อให้เห็นว่ากระบวนการสร้างสรรค์บ่มเพาะใดๆ ล้วนแล้วผ่านอุปสรรค

          ก่อนจะเป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้ง เดิมที Gladiator (2000) มีเบื้องหลังยุ่งเหยิงเละเทะมาก จนบางครั้ง รัสเซลล์ โครว์ กับ ริดลีย์ สก็อตต์ คุยกันขำๆ ว่าพวกเขารอดตายจากงานนี้อย่างเหลือเชื่อ แล้วรอดไม่พอ หนังดันออกมาโคตรดี แถมชนะออสการ์ -- มันเกิดอะไรขึ้นบ้างมาดูกัน
gladiator

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Gladiator

          โครว์เผยว่าตอนเริ่มถ่ายทำ สคริปต์มีอยู่เพียง 21-22 หน้า (เคยมีบทดราฟต์เก่าที่สมบูรณ์แต่ถูกโละ) องก์สามก็ไม่มี ยังไม่รู้เลยว่าหนังจะจบยังไง โครว์บอก “นี่แหละวิธีที่โง่เง่าที่สุดในการทำหนัง” กระนั้น สิ่งที่มีคือแผนถ่ายทำซีนใหญ่ๆ ซึ่งเตรียมโลเคชั่นและเซ็ทฉากไว้พร้อม เช่น ฉากรบกับคนเถื่อนในตอนต้น หรือฉากสู้ในลานประลอง
          กระบวนการดำเนินแบบถ่ายไปด้วยเขียนบทไปด้วย มีการระดมมือเขียนบทหลายคนมาช่วยกันคิดเนื้อเรื่องไปต่อ แล้วริดลีย์, โครว์ กับพวกโปรดิวเซอร์ต้องคัดเลือกอีกทีเพื่อหาไอเดียที่ใช้ได้ กระบวนการจึงออกมั่วๆ มึนๆ เนื่องจากสคริปต์ถูกแก้ไขอยู่ตลอด หลายครั้งนักแสดงต้องด้นสดเอง หรือบางวันก็ไม่ได้ถ่ายอะไรเลย (เพราะไม่รู้จะถ่ายอะไร)
          อุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำ โครว์บาดเจ็บบ่อยครั้ง ช่วงนั้นเลือดนักสู้ ชอบอาสาเล่นฉากสุ่มเสี่ยงเอง มีตั้งแต่แผลฟกช้ำไปจนถึงซี่โครงร้าว กระดูกเท้าแตก เอ็นร้อยหวายฉีก ส่วนฉากที่มีเสือก็เคยเกือบผิดคิว คนคุมปล่อยโซ่เร็วเกินไป เสือวิ่งขึ้นจากหลุมขณะที่โครว์ยืนขวางทางอยู่ เจ้าตัวกลิ้งหลบแทบไม่ทัน
gladiator

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Gladiator

          โอลิเวอร์ รี้ด นักแสดงอาวุโสผู้รับบท พร็อกซิโม ครูฝึกแกลดิเอเตอร์ มักมีปัญหากินเหล้าเมาระหว่างถ่าย ชอบเล่นนอกบท หนหนึ่งเคยบีบไข่นักแสดงร่วมฉาก แต่หนักสุดคือวันดีคืนดี รี้ดไปแข่งกินเหล้ากับกะลาสีในบาร์ ว่ากันว่าเขาซัดเบียร์ไป 8 ไพน์, รัม 10 ช็อต และวิสกี้อีกครึ่งขวด จนเกิดหัวใจวายตายกะทันหัน (หนังเพิ่งถ่ายไปครึ่งเรื่อง) เดิมทีพร็อกซิโมถูกวางให้รอดถึงตอนท้าย จึงต้องเปลี่ยนเป็นฆ่าตัวละครนี้ไป ฉากที่เหลืออาศัยฟุตเทจเก่า ตัวแสดงแทน ซีจีแต่ง และดันบทของ ไจม่อน ฮอนซู (จูบา) ให้เด่นขึ้นมาแทนในฉากจบ
          วาคีน ฟีนิกซ์ ระหว่างสวมบท คอมโมดัส มีความติสต์แตก เริ่มด้วยอาการประหม่าที่เพิ่งเคยเล่นหนังใหญ่ เล่นไม่ออก เข้าไม่ถึง จนโครว์ต้องพาไปก๊งเพื่อให้ผ่อนคลาย ส่วนริดลีย์จับให้เล่นซีนเดิมซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ ถึงจุดหนึ่งวาคีนปรับตัวสำเร็จ แต่ก็ยังคงติสต์ บางวันมีคิวถ่ายแต่มู้ดไม่ได้ก็ไม่ยอมเล่นดื้อๆ เลยโดนโครว์กับริดลีย์ด่าเป็นประจำ (จนได้ดี)
          เมื่อหนังถ่ายทำเครียด อารมณ์คนก็ตึง โครว์เองมักมีเรื่องกับโปรดิวเซอร์ มีครั้งหนึ่งขู่กันเลยว่า “เดี๋ยวกูจะฆ่ามึงด้วยมือเปล่านี่แหละ” ส่วนเวลาอื่นก็เอาไปทะเลาะกับริดลีย์ในแง่ไอเดีย ความเห็นไม่ตรง มีไดอะล็อกบางท่อนที่ไม่อยากเล่น บางครั้งโครว์ที่เห็นในหนังกำลังเดือดดาลอยู่จริงๆ (เช่น ฉากแม็กซิมัสถอดหน้ากากต่อหน้าคอมโมดัสและลั่นวาจาจะล้างแค้น)
gladiator

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Gladiator

          สุดท้าย โครว์ยอมรับว่าที่หนังรอดจากความพินาศมาได้เป็นเพราะประสบการณ์ผู้กำกับอย่างริดลีย์ ความเก๋า ความนิ่ง รู้วิธีจัดการปัญหา รับมือคนในกอง ไม่ใจร้อนตาม จากที่ด่ากันฉ่ำ ภายหลังโครว์เล่นหนังของริดลีย์อีกถึง 4 เรื่อง
          ฉากทุ่งข้าวสาลีในจินตนาการของแม็กซิมัส คือสิ่งที่ริดลีย์บังเอิญนึกออกตอนกำลังจะปิดกล้อง เหมือนพบจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายเพื่อนำเสนอมุมความสงบภายในโศกนาฏกรรมของพระเอกแกลดิเอเตอร์ จึงรีบจัดแจงพาทีมงานชุดเล็กๆ ไปถ่ายทำเป็นฉากท้ายสุดของกระบวนการ ส่วนมือที่ลู่รวงข้าวคือสตันท์ของโครว์ (นี่สิพลังแห่งเดดไลน์)
          จากที่หลายคนเผื่อใจเอาไว้หนักมาก ปรากฏว่า Gladiator ทำรายรับทั่วโลกได้กว่า 465 ล้านดอลลาร์ (ทุนสร้าง 103 ล้าน) พร้อมทะยานชิงออสการ์มากถึง 12 สาขาและชนะ 5 สาขา (เบสต์พิคเจอร์, นำชาย, คอสตูม, ซาวด์, เอฟเฟกต์) กลายเป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งที่ปลุกกระแสให้แนว “Sword-and-Sandal” กลับมาบูมในทศวรรษ 2000 (เช่น Troy, 300)
gladiator

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Gladiator

          ไงล่ะ “Are you not entertained?”
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Gladiator
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ Vintage Motion
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Gladiator (2000) กับความวุ่นวายเบื้องหลังกองถ่าย อัปเดตล่าสุด 4 ธันวาคม 2567 เวลา 15:21:36
TOP