1) คิดซะว่า ป่านนี้เขาไปนั่งกินไอติมสบายใจเฉิบแล้ว
2) กลัวการตกข่าวให้น้อยลง
3) คิดกับตัวเองว่า จะจ่ายค่าเช่าบ้านเพื่อกองขยะเหรอ
หลายคนจมอยู่กับความรู้สึกแย่ ๆ เป็นเวลานาน เพราะเวลาคิดถึงเรื่องแย่ ๆ เวลาก็มักจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ต่างจากช่วงเวลาแห่งความสุข นี่จึงเป็นสาเหตุให้หลายคนเราเสียเวลาไปกับเรื่องไร้ค่าอย่างสูญเปล่า พอกลับมาคิดแล้วก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง มันจะดีกว่าถ้าเราควบคุมตัวเอง และหาทางออกจากช่วงเวลาดังกล่าวให้เร็วที่สุด
วิธีหนึ่งที่จะทำให้เราช่วยควบคุมความคิดได้คือ การบอกตัวเองว่า “เราจะจ่ายค่าเช่าบ้านเพื่อให้กองขยะอยู่ในบ้านเหรอ” โดยเปรียบเรื่องแย่ ๆ และคนที่ทำกับเราเหล่านั้น เป็นกองขยะที่มาอาศัยบ้านเราอยู่ แม้คำเตือนข้างต้นจะดูเหมือนเป็นคำเตือนของคนที่ไม่ค่อยทำความสะอาดบ้าน แต่การทำความสะอาดใจของเราก็อาจไม่ต่างกัน เราควรจะเลือกเก็บแต่สิ่งดี ๆ ไว้ในใจ อย่าปล่อยให้คนแย่ ๆ มาครอบครองพื้นที่ภายในใจเรา อย่าให้เราต้องไปจ่ายค่าเช่าบ้านให้คนพวกนั้นมาอาศัยอยู่ฟรี ๆ และทำให้บ้านโดยรวมดูสกปรกไปด้วย จงหมั่นเก็บกวาดใจเราให้สะอาด ปราศจากกองขยะของคนที่ทำตัวแย่ ๆ
4) เราเลือกได้ว่าจะดูสิ่งที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดบนโลกโซเชียลรึเปล่า
ดังนั้นถ้าไม่ชอบเราก็เลื่อนผ่านโพสต์ประเภทนั้นไป หรือจะปิด notification ของโพสต์จากคนที่เราไม่ชอบก็ได้ เราต้องไม่ลืมว่า คนแต่ละคนมีสิทธิโพสต์อะไรก็ได้ตามความพอใจ แต่เราเองก็มีสิทธิเลือกดูได้ตามความต้องการของเราเองเช่นกัน
5) ลองลบใบหน้าและชื่อของอีกฝ่าย แล้วดูเฉพาะคำพูดและการกระทำ
คนเรามักมีอคติตามสิ่งที่เราคิด และตัดสินคนจากความรู้สึกของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเจอลักษณะบางอย่างที่เราไม่ชอบในตัวคนคนหนึ่ง เราก็อาจตัดสินว่าคนคนนั้นเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องไปเสียทั้งหมด ดังนั้นถ้าเราสามารถลบอคตินี้ได้ เราก็อาจมองเห็นอีกฟากหนึ่งของคนที่เรากำลังตัดสิน วิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้อคติ คือการลองลบหน้า ลบชื่อของอีกฝ่าย และทำเหมือนว่าอีกฝ่ายคือคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกัน
เราคงจะไม่รีบตัดสินคนแปลกหน้าว่าเป็นคนไม่ได้เรื่องเมื่อเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก และทำให้เราได้มองเห็นคำพูดและการกระทำของเขาจริง ๆ ไม่ใช่ภาพมายาที่เกิดจากอคติของตัวเราเอง
ผู้แปล: กัลปพฤกษ์ คงศัต
จำนวนหน้า: 184 หน้า
สำนักพิมพ์: Welearn