"เขาบอกว่าอย่าอุ้มมาก เดี๋ยวติดมือ"
วันนี้ไปเยี่ยมรุ่นน้องที่เพิ่งคลอดไม่กี่วันค่ะ สิ่งที่คุยกันก็ไม่พ้นเรื่องของการดูแลลูกและการรับมือกับความกังวลต่างๆ ที่บางทีก็ไม่ได้เกิดจากลูก แต่ถูกสุมเพิ่มเข้ามาจาก "ความหวังดี" ของบรรดาคนรอบข้าง
คำถามนึงที่น้องถามมาก็คือหัวข้อที่เกริ่นไว้ค่ะ
ทำให้หมอนึกถึงบทความหนึ่งที่ได้อ่านไม่กี่วันก่อน มันเป็นข้อความของคุณแม่คนนึงที่โพสรูปของตัวเอง เข้าไปนอนกอดลูกในเตียงเด็กซึ่งค่อนข้างจะแปลกในวัฒนธรรมตะวันตก ที่จะฝึกให้เด็กนอนแยกห้องและหลับยาวตั้งแต่เล็กๆ
เธอเล่าว่าที่เธอทำแบบนั้นเพราะเธอได้ฟังเรื่องของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนึงที่แม้ว่าจะมีเด็กอ่อนอยู่เป็นร้อย แต่กลับไม่มีเสียงเด็กร้องเลย
เมื่อถามว่า ทำไมเด็กพวกนี้ถึงไม่ร้อง คำตอบของผู้ดูแลก็คือ "เด็กพวกนี้จะร้องอยู่สักอาทิตย์นึง สุดท้ายพอรู้ว่า ...ต่อให้ร้องไปแค่ไหน ..ก็ไม่มีใครมา..ก็จะหยุดร้องไปเองในที่สุด"
น่าสงสารใช่ไหมคะเด็กทารกแรกเกิด ที่โหยหาความรักและอ้อมกอดของแม่แต่เมื่อไม่มีแม่มาอุ้ม และไม่มีคนดูแลที่มากพอเด็กเหล่านี้จึงเรียนรู้ว่า สิ่งที่เค้าโหยหานั้น ร้องไปเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันได้มา
หลังจากได้ฟังเรื่องนี้คุณแม่คนนั้น จึงสัญญากับตัวเองและลูกว่าเธอจะไม่ทำเช่นนั้นกับลูกตัวเองเด็ดขาด
หมอนึกถึงสิ่งที่อ่านจากเพจ อ.ประเสริฐ ที่ว่าช่วงขวบปีแรก คือการสร้าง "ความไว้วางใจ" ของลูก ที่จะมีต่อแม่ ต่อโลกใบนี้ว่ามันเป็นที่ที่ปลอดภัย ที่ที่เขาจะได้รับการดูแลที่ดี ที่อบอุ่นที่เขาจะได้รับการตอบสนองอย่างทันทีเมื่อเขาร้องขอ
วัยทารกไม่ใช่เวลามาฝึกความอดทนหรือวินัย อุ้มไปเถอะค่ะ เพื่อใจลูก และใจเราเอง ใครมาทักก็ตอบไปเลย
หมอบาส
อ่านบทความที่พูดถึงได้จากลิงค์นะคะ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่