ความเจ็บปวดของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย: บทบาทของ Living Will และการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นเรื่องที่ท้าทายทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จริยธรรมและกฎหมาย หลายครอบครัวในสังคมไทยยังไม่คุ้นเคยกับแนวทางที่ช่วยลดความทุกข์ของผู้ป่วย เช่น Living Will หรือการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในช่วงสุดท้าย
ซีรีส์ “การุณยฆาต” ทางช่องวัน 31 ที่กำลังออกอากาศ ได้ช่วยเปิดประเด็นสำคัญเหล่านี้ให้สังคมตระหนักถึงความซับซ้อนของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยเน้นบทบาทของ Living Will และการดูแลแบบ Palliative Care ผ่านตัวละครและสถานการณ์ที่สะท้อนชีวิตจริง
Living Will: การวางแผนเพื่อชีวิตระยะสุดท้าย
Living Will คือเอกสารที่ระบุความประสงค์ของผู้ป่วยเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในกรณีที่ไม่สามารถตัดสินใจได้เอง เช่น การปฏิเสธการยื้อชีวิตด้วยเครื่องมือแพทย์ในช่วงสุดท้ายของชีวิต การทำ Living Will ช่วยลดภาระทางใจของญาติและทีมแพทย์ เนื่องจากเป็นแนวทางที่ชัดเจนและตรงกับความต้องการของผู้ป่วย
ซึ่งถือเป็นสิทธิผู้ป่วยอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 12 ของพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2550 แม้ว่าสิ่งนี้จะมีมานานแล้ว แต่น้อยคนมากที่จะรู้จัก ซึ่งจริงๆ แล้วทุกคนควรได้รู้จัก เพราะจะช่วยให้เราสามารถวางแผนและมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในร่างกายของเราได้เองเมื่อเวลานั้นมาถึง
ตัวอย่างในซีรีส์ “การุณยฆาต” ep5 แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ Living Will ผ่านตัวละคร “คุณอุไร” ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายที่ระบุความต้องการชัดเจน เช่น ปฏิเสธการยื้อชีวิต แต่ขอรับการรักษาที่เพียงพอเพื่อรอเข้าพิธีแต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกันก่อนเสียชีวิต การพูดคุยเปิดใจกับญาติและทีมแพทย์จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ทุกฝ่ายทำตามเจตจำนงของผู้ป่วยได้อย่างเคารพและไม่ลังเล
การมี Living Will ยังช่วยลดความรู้สึกผิดและความเครียดของญาติในการตัดสินใจเรื่องยาก เช่น การเลือกยุติการรักษา เมื่อมีเจตจำนงของผู้ป่วยเป็นแนวทาง ครอบครัวสามารถดำเนินการได้โดยรู้ว่าทำในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการ
Palliative Care: การดูแลเพื่อคุณภาพชีวิต
การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) เป็นแนวทางที่มุ่งเน้นคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะสุดท้าย ไม่ใช่เพื่อยื้อชีวิตหรือเร่งความตาย แต่เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทางกายและใจ รวมถึงสนับสนุนจิตใจของญาติ
ในซีรีส์ ep1 ตัวละคร “ลุงนิพนธ์” ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายที่ ญาติเลือกที่จะย้ายลุงไปอยู่ในเถียงนาเพื่อลดผลกระทบต่อสมาชิกครอบครัว จากการร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด สะท้อนความยากลำบากของครอบครัวที่ไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและการสนับสนุนที่เพียงพอ
Palliative Care สามารถช่วยลดภาระเหล่านี้ผ่านการให้คำแนะนำและการดูแลจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความเจ็บปวดทางกาย หรือการสร้างความเข้าใจในครอบครัว
สิ่งสำคัญของการดูแลแบบ Palliative Care คือการเคารพศักดิ์ศรีและความต้องการของผู้ป่วย เช่น การพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการในช่วงสุดท้าย และการช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
Living Will และ Palliative Care: ทางออกที่สังคมควรตระหนัก
Living Will และ Palliative Care ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอให้ป่วยถึงจะทำหรือใช้ หลายคนสามารถทำ Living Will ได้ล่วงหน้าเพื่อช่วยลดความกดดันของครอบครัวในอนาคต ในขณะเดียวกัน การสนับสนุน Palliative Care ที่ดีในระบบสุขภาพ และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้การมีอยู่เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง
คำถามสำคัญที่ซีรีส์ทิ้งไว้ให้เราคิดคือ หากการดูแลแบบ Palliative Care มีคุณภาพเพียงพอ การุณยฆาตยังจำเป็นอยู่หรือไม่? เมื่อมีการดูแลที่เคารพความต้องการของผู้ป่วย และสนับสนุนจิตใจของครอบครัว อาจทำให้การเผชิญหน้ากับความตายกลายเป็นเรื่องที่สงบและมีความหมาย
สรุป
บทบาทของ Living Will และ Palliative Care เป็นสิ่งที่ควรได้รับการส่งเสริมในสังคมไทย เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นไปอย่างมีศักดิ์ศรี เคารพในคุณค่าความเป็นมนุษย์ และลดความทุกข์ของทั้งผู้ป่วยและครอบครัว ซีรีส์ “การุณยฆาต” ไม่เพียงกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลในช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่ยังชี้ให้เห็นว่าความเข้าใจและการสนับสนุนเชิงระบบ สามารถทำให้ทุกชีวิตจบลงอย่างสงบและมีคุณค่า อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้มีโอกาสมาดู ซีรีส์การุณยฆาต เพื่อเข้าใจและส่งต่อความเข้าใจในบทบาท ของ Living will และ Palliative care มากขึ้นในวงกว้างครับ รับรองว่าไม่ได้มีดีแค่ความสนุกแต่ยังได้สาระประโยชน์อีกด้วย
ดูออนไลน์ได้ฟรีที่แอป oneD
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก ใกล้มิตรชิดหมอ, ซีรีส์การุณยฆาต ช่องone
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่