10 วิธีเปลี่ยนความกลัวที่มีอยู่ในใจ จากหนังสือ Feel the Fear and Do It Anyway

หลังอ่าน

Create and Share Inspiration from Reading

          สรุป 10 บทเรียนจากหนังสือ Feel the Fear and Do It Anyway วิธีเปลี่ยน ความกลัวที่มีอยู่ในใจ เพื่อรับมือกับปัญหา และกล้าเปลี่ยนแปลงตนเอง
วิธีพัฒนาตนเอง

1. ความกลัวมี 2 แบบคือ ความกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น กับ ความกลัวเมื่อต้องทำบางอย่าง

          ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ระดับดังนี้
          ระดับที่ 1 : เป็นเหตุการณ์รอบตัวเราที่บอกเล่าได้ด้วยคำพูด เราทุกคนต่างเคยกลัวเรื่องเหล่านี้ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ไม่มากก็น้อย 
ตัวอย่าง ความกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น
  • การเปลี่ยนแปลง
  • ความแก่ชรา
  • การอยู่คนเดียว
  • ความเจ็บป่วย
  • ความตาย
  • ความไม่มั่นคงทางการเงิน
  • การสูญเสียคนรัก
ตัวอย่าง ความกลัวเมื่อต้องทำบางอย่าง เช่น
  • การเปลี่ยนงาน
  • การตัดสินใจ
  • การไปเรียนต่อ
  • การสร้างความผูกพันกับใครสักคน
  • การไปพบแพทย์
  • การพูดต่อหน้าชุมชน
          ระดับที่ 2 : เป็นเรื่องสภาพจิตใจที่สะท้อนความรู้สึกเรื่องตัวตน และความสามารถในการจัดการสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา ความกลัวในระดับนี้อยู่ลึกกว่าระดับที่ 1 และมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้าน
ตัวอย่าง ความกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น
  • การถูกปฏิเสธ
  • ความล้มเหลว
  • ความสำเร็จ
ตัวอย่าง ความกลัวเมื่อต้องทำบางอย่าง เช่น
  • การไม่ได้รับการยอมรับ
  • การถูกหลอก
  • การอับจนหนทาง
  • การเสื่อมเสียภาพลักษณ์
          ระดับที่ 3 : เป็นความกลัวระดับลึกที่สุด แต่ล้วนเป็นที่มาของความกลัวอื่น ๆ ทั้งปวง นั่นคือ ความกลัวว่าเราจะไม่สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องเจอในชีวิตได้
ตัวอย่างเช่น 
  • เราจะไม่สามารถจัดการกับการถูกปฏิเสธได้แน่ ๆ 
  • เราจะไม่สามารถรับมือกับความแก่ชราได้แน่ ๆ
  • เราจะไม่สามารถจัดการกับการสูญเสียคนรักได้แน่ ๆ
  • เราจะไม่มีวันรับมือกับความล้มเหลวได้
  • หรือเราจะไม่สามารถออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความสำเร็จได้

2. สัจธรรมของความกลัว 5 ข้อ

  1. ถ้าชีวิตเราจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความกลัวจะไม่มีทางหายไปเลย เมื่อเราออกไปใช้ชีวิตข้างนอก เราจะได้พบเจอกับความกลัวหน้าใหม่เสมอ
  2. หนทางเดียวที่เราจะรับมือกับความกลัวได้ คือการออกไปเผชิญหน้ากับมัน ออกไปต่อสู้กับความเป็นจริง และลงมือทำ
  3. ถ้าอยากรับมือกับความกลัวได้ดีขึ้น เราต้องลงมือทำบ่อย ๆ จนค่อย ๆ เพิ่มความมั่นใจภายในใจ และเกิดความรู้สึกว่าตัวเองดีพอ
  4. เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับความกลัว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเก่งและเข้มแข็งสักเพียงไหน
  5. จงยอมรับความกลัว เพราะมันจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวได้ราบรื่น กับชีวิตที่มีความกลัว แต่พยายามเก็บซ่อนมันไว้ภายในตลอดเวลา เพราะถ้าเราไม่ยอมสู้ความกลัวเลย เราจะไม่มีทางเชื่อในความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้เลย

3. วิธีเริ่มต้นในการขจัดความกลัว คือการเปลี่ยนความรู้สึกต่อความกลัว

  • จากผู้ทุกข์ทรมาน - ที่อับจนหนทาง สลดหดหู่ และไม่ลงมือทำอะไรเลย 
  • ไปเป็นผู้มีอำนาจ - มีทางเลือก มีพลัง และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง 
          โดยอาจใช้การคิดบวกต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ แม้จะแย่เพียงไหน การคิดว่าตัวเองคือผู้ส่งมอบความรักให้คนอื่นได้ การคิดว่าตัวเองคู่ควรกับสิ่งดี ๆ ที่ชีวิตมอบให้และการลงมือทำเรื่องใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม และอาจเสี่ยงบ้างเพื่อให้ตัวเองได้เติบโต และเป็นการค่อย ๆ สะสมความมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

4. เทคนิคเรียกความมั่นใจและเพิ่มอำนาจในการควบคุมชีวิตตัวเอง

          ต้องเริ่มจากการเลิกโทษปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เลิกโทษว่าตัวเองคุมอะไรไม่ได้เลย และเลิกโทษว่าตัวเองคือผู้ถูกกระทำ แต่ให้ลองมองหาข้อดีของสภาพที่ตัวเองเผชิญอยู่ คิดถึงสิ่งที่ตัวเองอยากได้ให้ชัดเจนและลองคิดใหม่ว่าตัวเองมีทางเลือกอันหลากหลาย ทั้งในแง่ความรู้สึกและการกระทำจนสามารถพาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้ได้

5. มองผู้คนในชีวิตให้เหมือนการฝึกฝน

          การจะเพิ่มความมั่นใจ เผชิญความกลัว และค่อย ๆ เติบโตนั้นเราต้องค่อย ๆ ลงมือทำในสิ่งที่อาจแตกต่างออกไปจากสิ่งที่ทำอยู่ ทำให้คนรอบตัวเราหลายคนไม่เข้าใจ และอาจพยายามฉุดรั้งเราไม่ให้เติบโตได้
          การฝึกรับมือกับคนเหล่านี้จึงเป็นบททดสอบอย่างหนึ่งที่เราต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือพยายามเลือกสรรคำพูดที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย “มีแต่ได้กับได้” นั่นคือการพูดให้คนอื่นมั่นใจว่าตัวเราเองทำได้ และจะส่งผลดีต่อทั้งเราและคนรอบตัว และจงหลีกเลี่ยงคำพูดชวนทะเลาะ ที่เหมือนจะมองแต่ตัวเราเพียงอย่างเดียวหรือยอมให้คนอื่นมาฉุดรั้งไม่ให้เราได้เดินไปข้างหน้า

6. คิดว่าการตัดสินใจของตัวเอง “ยังไงก็ไม่พลาด”

          คนส่วนใหญ่ชอบเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองและมองว่าการเลือกเส้นทางที่ตัวเองไม่ได้เลือก (ทางเลือก B) น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าทางเลือก A ที่ตัวเองเลือก
          แต่ความจริงแล้ว การจะตัดสินว่าทางเลือกไหนดีกว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยากและไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับชีวิตเราเลย
          ถ้าเราลองมองหาสิ่งดี ๆ ในทางเลือกที่เราเลือก เราอาจรู้สึกขอบคุณตัวเองที่เลือกทางเลือกนี้มากขึ้นก็ได้ นอกจากนี้เรายังไม่มีทางรู้เลยว่าชีวิตเราถ้าเลือกอีกทางหนึ่งจะลงเอยยังไง ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรต้องเสียใจ ถ้าได้ตัดสินใจเลือกไปแล้ว

7. ทริคในการยอมรับทางเลือกที่ตัวเองตัดสินใจไป

ก่อนตัดสินใจ
  • ลบภาพความคิดลบ ๆ และเติมตัวเองด้วยความคิดบวก อย่าไปคิดว่าตัวเองจะต้องเจอกับทางเลือกที่แย่
  • เตรียมข้อมูล คุยกับคนไว้เยอะ ๆ เพิ่มโอกาสให้เราตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้น
  • จัดลำดับความสำคัญ คิดให้ดี ๆ ว่าเราต้องการอะไร จะได้เลือกได้ถูก
  • เชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเอง
  • ยิ้มร่าเริงเข้าไว้ พร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อตัดสินใจเลือกไปแล้ว
หลังตัดสินใจ
  • สลัดภาพที่ตัวเองคาดหวังทิ้งไป และอยู่กับความเป็นจริง
  • แสดงความรับผิดชอบ ว่าเราคือคนที่ตัดสินใจเอง ลงมือทำเอง เลิกโทษสิ่งแวดล้อมรอบตัว
  • เดินหน้าปรับปรุงแก้ไข ให้ทางเลือกที่เราเลือกดีขึ้นเรื่อย ๆ

8. คิดอยู่เสมอว่าชีวิตมีหลายด้าน

          และเราสามารถสร้างคุณค่าพื้นฐานในชีวิตเราให้ตอบโจทย์ชีวิตหลาย ๆ ด้านได้โดยถ้าเราต้องสูญเสียด้านใดด้านหนึ่งไป เช่นเลิกรากับแฟนเราก็ยังมีชีวิตด้านอื่น ๆ ที่เราสามารถสร้างคุณค่าได้ เช่น หน้าที่การงาน การเติบโตของตัวเอง และการสร้างคุณประโยชน์ให้สังคม

9. น้อบรับสิ่งที่จักรวาลมอบให้ด้วย “จิตใจที่ยินดี”

          อย่าพยายามรับด้วยใจที่ขัดขืนเพราะใจที่ยินดีจะสร้างพลังในการต่อสู้กับความกลัวได้มากกว่า มันจะทำให้ร่างกายเราผ่อนคลาย จนเราสามารถค่อย ๆ คิดพิจารณาวิธีในการแก้ปัญหาได้

10. ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

          นอกจากจะช่วยลดความคาดหวัง และความผิดหวังแล้วยังทำให้ความกลัวในใจเราลดน้อยลงอีก ดังนั้นจงทำตัวเป็นผู้ให้ที่รายล้อมไปด้วยคนรักในแบบที่เราอยากให้คนอื่นทำกับเรา

รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน

          เป็นหนังสือพัฒนาตัวเองกึ่ง life coach แต่อ่านแล้วก็ได้รู้จักความกลัว และการเผชิญหน้ากับมันมากขึ้นเหมือนสิ่งที่เคยเป็นประสบการณ์มา ถูกนำมากลั่นกรองเป็นทฤษฎีที่ถูกต่อยอดออกมาเป็นคำแนะนำแบบเป็นขั้นเป็นตอน
          เนื้อหามีความยืด ผู้เขียนใส่น้ำมาพอสมควร แต่ถ้าใครชอบอ่านแล้วให้ลื่นไหล มีการใส่น้ำลงไปหน่อย ให้ไม่เบื่อ ก็เข้าทาง ใครอยากได้แต่เนื้อหาเน้น ๆ ก็อ่านข้าม ๆ ได้ส่วนหลัง ๆ เนื้อหาอาจมีความซ้ำกับ howto เล่มอื่นบ้างก็ลองเลือกอ่านเฉพาะตรงที่ชอบพอครับ
          พิกัดการสั่งซื้อ : https://shope.ee/407oCzxoS4
  • ผู้เขียน : Susan Jeffers 
  • ผู้แปล : วุฒินันท์ ชุมภู
  • จำนวนหน้า : 256 หน้า
  • สำนักพิมพ์  : บี มีเดีย, สนพ.
  • เดือนปีที่พิมพ์ : 4/2022
  • ชื่อเรื่องต้นฉบับ : Feel the Fear and Do It Anyway : Dynamic Techniques For Turning Fear, Indecision, and Anger Into Pow
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ หลังอ่าน
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 วิธีเปลี่ยนความกลัวที่มีอยู่ในใจ จากหนังสือ Feel the Fear and Do It Anyway อัปเดตล่าสุด 16 มกราคม 2566 เวลา 14:26:59 4,441 อ่าน
TOP