PM2.5 กับการตั้งครรภ์ ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพแม่และลูก

ใกล้มิตรชิดหมอ

ใกล้มิตรชิดหมอ เพจให้ความรู้คู่สุขภาพกายและจิต เสมือนมีหมอเป็นมิตรอยู่ข้างบ้าน

          PM2.5 กับการตั้งครรภ์
PM2.5

          ปัญหามลภาวะเป็นพิษในปัจจุบันดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะคะ 
          วันนี้จะชวนมาดูว่า PM2.5 ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมถึงทำให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์และลูกน้อยในท้องอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้เฝ้าระวังและดูแลตัวเองได้ค่ะ
          จากการรวบรวมผลการศึกษา 25 งานที่สนใจศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง PM2.5 และผลของการตั้งครรภ์ พบว่า มารดาที่สัมผัสกับค่า PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตลอดการตั้งครรภ์ สัมพันธ์กับ
  • การคลอดทารกน้ำหนักตัวน้อย (OR=1.05; 95 % CI, 1.02-1.07), โดยน้ำหนักที่ลดลงประมาณ 14.58 กรัม  
  • คลอดก่อนกำหนด (OR = 1.10; 95 % CI, 1.03-1.18) และ
  • ทารกน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ (OR = 1.15; 95 % CI, 1.10-1.20) 
          อย่างไรก็ตามจากรายงานนี้พบว่า PM2.5 ไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดทารกตายคลอด (stillbirth) เพิ่มขึ้น
          ซึ่งสอดคล้องกับรายงานที่รวบรวมผลการศึกษา 81 การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งรายงานผลในทิศทางเดียวกัน คือ ทุก 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรของ PM2.5 ที่แม่ได้รับไม่ว่าจะตลอดการตั้งครรภ์ หรือได้รับเพียงไตรมาสที่ 2 และ 3 (หลังอายุครรภ์ 14 สัปดาห์) เพิ่มโอกาสคลอดก่อนกำหนดถึงร้อยละ 2.7-9.3 และเพิ่มโอกาสคลอดก่อนระหว่าง 28-32 สัปดาห์ถึงร้อยละ 10.5-19.3 เมื่อหากคุณแม่สัมผัส PM2.5 ตลอดการตั้งครรภ์ หรือช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2
          นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงทำให้ทารกน้ำหนักตัวน้อย ได้ประมาณ ร้อยละ 8.3 
          ที่แตกต่างกัน คือ การศึกษานี้พบว่า แม่ที่สัมผัส PM2.5 ในช่วงท้องเพิ่มทารกตายคลอดได้ถึงร้อยละ 10.1 ค่ะ
          สำหรับกลไกที่ PM2.5 ทำให้เกิดปัญหาต่อการตั้งครรภ์ดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่าน่าจะเกิดจากกระบวนการ oxidative stress ซึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างอนุมูลอิสระ (free radicals) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidative systems) ทำให้เกิดการทำลายสารพันธุกรรมในระดับดีเอ็นเอ ร่วมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อของมารดาและทารกทำให้เกิดผลดังกล่าว นอกจากนี้ PM2.5 ยังเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์เพศชายอีกด้วย ทำให้เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน 
          แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลว่า PM2.5 จะทำให้เกิดความพิการของทารก หรือผลต่อสุขภาพในระยะยาว แต่คุณแม่ท้องก็ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี PM2.5 สูง เพราะไม่เพียงแค่เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณแม่ไม่ต่างจากคนที่ไม่ท้องเลยนะคะ 
          คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หากอากาศแย่มาก และไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็อาจจะต้องใช้หน้ากากที่ช่วยกรองฝุ่น อย่างไรก็ตามในคนท้องการใช้หน้ากากนาน ๆ ก็อาจจะทำให้รู้สึกหายใจไม่สบายได้ก็อาจจะต้องวางแผนการเดินทางกันดี ๆ นะคะ ส่วนอากาศภายในบ้าน สามารถช่วยได้ด้วยเครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องกรองอากาศ ที่กลายเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรือในพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 สูง 
          ในตอนนี้เราอาจจะยังเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทันทีทันใดไม่ได้ แต่ก็ควรช่วยกันลดและเลิกพฤติกรรมเพิ่มมลภาวะทางอากาศ เพื่อวันหนึ่งเราจะได้มีอากาศดี ๆ ไว้หายใจกันนะคะ 
          หมอเมษ์
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ ใกล้มิตรชิดหมอ
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
PM2.5 กับการตั้งครรภ์ ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพแม่และลูก อัปเดตล่าสุด 19 มิถุนายน 2566 เวลา 17:48:36 10,080 อ่าน
TOP