Bana Hills 3 วัน 2 คืน สัมผัสเมืองฝรั่งเศสในเวียดนาม ที่ไม่ควรพลาด

          Ep.4 BaNa Hills 3 วัน 2 คืน

          Ep. นี้ อันดับแรกต้องขอออกตัวก่อนว่า...ต้องขออภัยในความรูปเยอะนะคะ คือ สถานที่สวยมากจริงๆ อยากให้ทู๊กคนได้อิ่มตาอิ่มใจไปพร้อมกับเราเสมือนมาเที่ยวด้วยกันแบบนั้นเลยค่ะ

Bana Hills | บานาฮิลล์เมืองฝรั่งเศส ในเวียดนาม ที่ไม่ควรพลาด!!

ทริปตะลุยเวียดนามกลาง (8 วัน 7 คืน)

ดานัง-ฮอยอัน-บานาฮิลล์-ดานัง

          วันนี้เราจะพาทู๊กคนเดินทางไปเที่ยวยุโรปกันค่ะ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางบอกเลยว่า...ไม่นานแป๊บเดียวเอง ตอนที่เราออกเดินทางจากฮอยอันมุ่งหน้าสู่ Bana Hills ในวันนี้ท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ เพราะมีฝนตกลงมาตลอดการเดินทาง

          การเดินทางใช้เวลา 1 ชั่วโมง 7 นาที กับระยะทางทั้งหมด 48 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่ Toc Tien Waterfall Station เมื่อมาถึงสังเกตอาคารจะอยู่ฝั่งขวามือ

          เราเช็กอินที่พัก Mercure Danang French Village Bana Hills จากจุดนี้เลยค่ะ สะดวกสุดๆ

          เมื่อเรา Check In เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับเอกสารมาทั้งหมดทั้งมวล หน้าตาตามรูปด้านบนค่ะ จะมีอยู่ด้วยกัน 4 อย่าง

1. แบบฟอร์มการลงทะเบียนที่พัก 
2. ใบเสร็จชำระค่าที่พัก
3. ตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้า
4. บัตรยืนยันตัวตนการเช็กอิน

          ราคาตั๋ว Cable Car  มีตั๋วผู้ใหญ่ และตั๋วเด็ก มีด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งราคาจะแตกต่างกัน คือ 

• แบบมาเช้า-เย็นกลับ กรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป แบบไปเช้าเย็นกลับ จะต้องไปขึ้นที่ Suoi Mo Station ด้านล่าง เพื่อขึ้นไปยัง BaNa Hills Station และสามารถต่อขึ้นไปยัง Morin Station ด้านบนได้ค่ะ
• แบบลูกค้าที่พักบน Bana Hills กรณีที่เป็นลูกค้าพักด้านบนโรงแรม สามารถไปขึ้นที่ Toc Tien Station ได้เลย ไม่ต้องไปหลายต่อ แถมยังได้ส่วนลดค่าตั๋วขึ้นกระเช้าด้วยค่ะ เริ่มให้บริการ รอบแรกเวลา 07.30 ถึงเวลา 21.15 น. รับรองว่าได้มุมสวย ๆ เยอะแน่นอนค่ะ 

ราคาลูกค้าทั่วไป

• ผู้ใหญ่ : 850,000 VND
• เด็ก : 700,000 VND 
• เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 1 เมตร : ฟรี

ราคาผู้ที่เข้าพักที่โรงแรม

• ผู้ใหญ่ : 550,000 VND 
• เด็ก (1m-1m4) : 450,000 VND
• เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 1 เมตร : ฟรี

• สถานที่ : Tuyến cáp treo lên Bà Nà Hills, Hoà Ninh, Hòa Vang, Đà Nẵng, เวียดนาม
• เวลา : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
• เบอร์ติดต่อ : +84 236 3791 999
• แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FwqXWjfSnLWr3NKb7

          โดยจุดขึ้นกระเช้าไฟฟ้าของแขกที่เข้าพักโรงแรม Mercure Danang French Village Bana Hills จะแยกกันโดยสิ้นเชิงกับจุดขึ้นกระเช้าไฟฟ้าของนักท่องเที่ยวแบบที่มาเช้า-กลับเย็นค่ะ ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อเดินทางต่อไปยัง Bana Hills สำหรับใครที่จะมาที่ Bana Hills วิธีการเดินทางมีเพียงอย่างเดียว คือ การนั่งกระเช้าไฟฟ้า ค่ะ ทุกคนที่มาเที่ยวบานาฮิลล์ต้องได้นั่ง Cable Car หรือกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ยอดเขาบานาฮิลล์ และจะได้ชมวิวโดยรอบแบบพาโนราม่า 360 องศา ซึ่งเป็นกระเช้าไฟฟ้าประเภท Non Stop และก็สามารถนั่งต่อไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้อีกด้วย เพราะด้วยความที่จุดท่องเที่ยวบนบานาฮิลล์อยู่กระจายกัน การจะไปอีกจุดหนึ่งบนเขาต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปเท่านั้น

          วันที่เราเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาบานาฮิลล์นั้น มีฝนตกทำให้บรรยากาศว้าวววมากๆ นี่ขนาดว่า...เราเคยมาที่นี่แล้วในปี 2562 ก็ยังตื่นเต้นสุดๆ ติดใจในความอลังการตั้งแต่การเริ่มต้นเดินทาง ด้วยการนั่งกระเช้าข้ามเขาสูง ที่มีระยะทางยาวมว๊ากกก ตลอดระยะทางก็มีวิวที่อลังมากจริงๆ เราเป็นคนไม่กลัวความสูงนะ แต่!!! แอบเสียวนิดนึงเวลากระเช้ากระตุก หรือหยุดนิ่ง

          สำหรับ Cable Car ของบานาฮิลล์ ต้องบอกว่า!!! ไม่ธรรมดาเลยค่ะ เพราะได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยกินเนสส์บุ๊ค ถึงความเป็นที่สุดในโลก เอาไว้ด้วยกัน 4 หมวด 

• ระยะทางยาวที่สุดในโลก 5,801 เมตร
• ระยะจากฐานสู่ยอดสูงที่สุดในโลก 1,368 เมตร
• สายเคเบิลยาวที่สุดในโลก 11,587 เมตร
• สายเคเบิลหนักที่สุดในโลก 141.24 ตัน

นอกจากนี้ที่ BaNa Hills Station ยังเป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกด้วยค่ะ

          พอมาถึงด้านบนจะมีจนท. มารอรับ ช่วยลากกระเป๋าและพาเราไปยังจุดเช็กอินของที่พักค่ะ แต่!!! เรามาถึงก่อนเวลา Check In เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ก่อนค่ะ แล้วออกไปเดินเที่ยวชมรอบๆ กันค่ะ

          บรรยากาศเมื่อมาถึงข้างบนก็โดน Bana Hills รับน้องซะแล้ว ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ เดิมทีเราตั้งใจมาให้ไว เพื่อที่จะได้มาเที่ยวเก็บบรรยากาศข้างบนนี้ แต่!!! วันนี้ทั้งฝนตก หมอกลงหนา และก็หนาวมาก เป็นอะไรที่สุดๆ เลยต้องรับบทผู้ประสบภัย 

          หลังจากที่เราเดินชมบรรยากาศพอหอมปากหอมคอกันพอแล้ว เราก็ตัดสินใจทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านนี้ค่ะ ร้านกังฟูนู๊ดเดิ้ล ซึ่งกลายเป็นร้านยอดฮิตของคนส่วนใหญ่ในวันนั้น เพราะด้วยอากาศที่หนาว และมีแต่หมอก เลยต้องหาอะไรอุ่นๆ ให้กับร่างกายกันค่ะ

          เมนูนี้ ประกอบด้วย เส้นบะหมี่ ผักกาดฮ่องเต้ หมูแดง กุ้ง เนื้อไก่ฉีก ต้นหอมโรย น้ำซุปมาแบบใสๆ แต่รสชาติดี กลมกล่อม บะหมี่รวมพิเศษ ราคาชามละ 150.000 VND = 214.90 บาท

          เมนูนี้ ประกอบด้วย เส้นบะหมี่ ผักกาดฮ่องเต้ หมูแดง ต้นหอมโรย น้ำซุปมาแบบใสๆ แต่รสชาติดี กลมกล่อม แบบเดียวกับถ้วยข้างบน เพียงแต่เนื้อสัตว์ที่ใส่ในแต่ละเมนูจะแตกต่างกันเท่านั้น บะหมี่ซาซิ่ว ราคาชามละ 135.000 VND = 193.41 บาท

          เครื่องปรุงที่ใช้ในการปรุงบะหมี่ ที่นี่!!! มีเพียงซอสพริก กับ ซีอิ๊วขาว

          ลืมบอกไปค่ะว่าบะหมี่ 2 ชามก็ไม่สามารถทำให้หายหนาวได้ เราเลยสั่งชาขิงร้อนมาเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายค่ะ 555

          รายการอาหารมื้อแรกที่ Bana Hills

• บะหมี่รวมพิเศษ ราคาชามละ 150.000 VND = 214.90 บาท
• บะหมี่ซาซิ่ว ราคาชามละ 135.000 VND = 193.41 บาท
• ชาขิงร้อน ราคาแก้วละ 50.000 VND = 71.63 บาท
• น้ำเปล่า ราคาขวดละ 30.000 VND = 42.98 บาท
• ค่าอาหารมื้อนี้ กับ 4 รายการ เป็นเงินทั้งหมด 365.000 VND = 522.92 บาท

          หลังจากทานมื้อเที่ยงเรียบร้อย เราก็แอบมาหลบฝนหลบหนาวกันที่ Lobby รอเวลา Check In เข้าห้องพัก เพราะช่วงบ่ายฝนยังตกไม่สะดวกที่จะไปตะลุยเที่ยวได้เลย

          และแล้วก็ได้ Check In เวลา 14.01 น. ตรงเวลามากๆ หลังจาก Check In เสร็จ พนง. จะให้คูปองอาหารเช้ามาเท่ากับจำนวนวันที่เข้าพักเลยค่ะ มื้อเช้าเริ่มเวลา 06.30-09.30

          แล้วก็หยิบแผ่นพับที่ Reception มา 1 ใบ เป็นแผ่นพับที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Mercure Danang โดยเฉพาะเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ บอกข้อมูลเวลาเปิด-ปิดของสถานที่ต่างๆ ร้านอาหาร ห้องอาหาร และแผนที่โรงแรม 

          ไปดูห้องพักของเราคืนนี้ดีกว่าค่ะ เราได้พักที่ อาคาร 8 : Hotel De Marseille

          เปิดประตูห้องพักเห็นภายในห้องพักแล้วชักเริ่มไม่แน่ใจ เพราะตามข้อมูลที่เรามี คือ เราจองห้องพักแบบ ห้องสแตนดาร์ด (Standard) ขนาด 22 ตร.ม. หน้าตาห้องไม่ใช่แบบนี้ค่ะ แต่!!! ห้องพักนี้ภายใน คือ ห้องกว้าง ห้องน้ำก็กว้างมากเช่นกัน ทำให้แน่ใจว่าห้องผิดชัวร์

          เลยสอบถามไปที่ พนง. ได้ข้อสรุปมาว่า...ห้องพักที่ลูกค้าได้ทำการจองมา คือ ห้องสแตนดาร์ด (Standard) ขนาด 22 ตร.ม. : เตียงคิงไซส์ ทางที่พักได้ Upgrade ห้องพักให้ลูกค้าเป็น ห้องซูพีเรีย (Superior) ขนาด 25 ตร.ม. : เตียงคิงไซส์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม เย้ๆๆๆๆๆๆ

          หลังจากคลายข้อสงสัยเรียบร้อยแล้ว เราก็มาชื่นชมกับห้องพักในความโชคดีครั้งนี้ เพราะได้ห้องพักที่มีหน้าต่าง สามารถเปิดออกไปชมวิวภายนอกได้อย่างสวยงามมาก แต่!!! ที่พีคสุด ก็คือ อ่างล้างหน้าค่ะ Very Special มากๆ ค่ะ เพราะอ่างล้างหน้ามีความสูงระดับเด็กอนุบาล เหมือนไว้สำหรับให้เด็กใช้ อย่างฮาเลยละทีนี้ 555 

          ซึ่งในทริปนี้ห้องพักที่เราจองมาเป็น ห้องสแตนดาร์ด (Standard) 

• มีขนาด 22 ตร.ม. พักได้ 2 คน 
• ราคาห้องพัก 1.473.009,90 VND / ห้อง / คืน 
• เป็นเงินทั้งหมด 2.946.019,80 VND / ห้อง / 2 คืน
• คิดเป็นเงินไทย ชำระผ่านบัตรเครดิต 4,407.54 บาท / ห้อง / 2 คืน (+ ชาร์จ 2.5% เรียบร้อยแล้ว)

          ในส่วนของรายละเอียดห้องพักที่ Mercure Danang French Village Bana Hills นั้นจะมีกี่แบบ กี่ประเภท เราจะมารีวิวให้อย่างละเอียดในครั้งถัดไปนะคะ รับรองว่าใครที่ได้อ่านจะเลือกห้องพักได้ตรงกับใจ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอนทีเดียวค่ะ

• สถานที่ : An Son Hoa Son Commune, Hòa Vang, Da Nang 550000 เวียดนาม
• เวลา : เช็กอิน 14.00 น. เช็กเอาต์ 10.30 น
• เบอร์ติดต่อ : +84 236 3799 888
• เว็บไซต์ : Mercure Danang French Village Bana Hills
• แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/EFeobWmLEKkUbvdX7

          เก็บของเรียบร้อย ในเมื่อฝนไม่หยุดตก เราก็พร้อมไปตะลุยฝนกันแล้วจ้า

          พอออกจากอาคารที่พัก เดินลัดเลาะตามตัวอาคารมาเจอกับที่แรก คือ สระว่ายน้ำอุ่นในร่ม ที่ตกแต่งเหมือนถ้ำ มีหินงอกหินย้อยและวิวภูเขา สวยแปลกตาดีค่ะ ที่ถัดมาเป็นฟิตเนส แต่ ณ เวลานี้ ฝนตกแบบนี้ ไม่มีคนเลยจ้า

• เวลา : เวลาเปิดทำการของฟิตเนสและสระว่ายน้ำ 06.00-21.00 น.

          รวมภาพบรรยากาศในช่วงบ่ายๆ ที่มองไม่เห็นพระอาทิตย์เลย เวลาตั้งแต่ 15.18-16.25 น. มาฝากค่ะ จะเห็นว่าฝนตกตลอด หมอกลงเต็มไปหมดสวยเกินจะอธิบายได้ เหมือนได้ไปเที่ยวยุโรปเลยเนอะ

          เดินเพลินไปหน่อย ต้องรีบหาทานมื้อเย็น เพราะที่นี่ร้านค้าส่วนใหญ่ จะปิดให้บริการเร็วมาก สุดท้ายเราก็ทานร้านเดิม "ร้านกังฟูนู๊ดเดิ้ล" และก็เมนูเดิมด้วย ร้านเค้าปิด 21.00 น.

• บะหมี่ซาซิ่ว ราคาชามละ 135.000 VND = 193.41 บาท
• ช็อกโกแลตโยเกิร์ต ราคาแก้วละ 50.000 VND = 71.63 บาท
• ค่าอาหารมื้อนี้ 2 อย่าง เป็นเงินทั้งหมด 185.000 VND = 265.04 บาท

          อิ่มแล้วก็มีแรงเดินต่อค่ะ บรรยากาศตอนกลางคืนบอกเลยว่า...สวยมากๆ ที่นี่!!! ตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศส เข้ากับบรรยากาศสุดๆ

          มาเก็บภาพบรรยากาศหมู่บ้านฝรั่งเศสช่วงเย็น-ค่ำ ในเวลาที่ผู้คนพากันกลับลงจากบานาฮิลล์เรียบร้อยแล้ว ถึงกับต้องร้อง โอ้วว้าวว!!! มันช่างต่างกันแบบสุดขั้ว แบบหน้ามือหลังมืออย่างเห็นได้ชัดเจน ถ้าไม่เชื่อลองตามไปดูค่ะ

          โบสถ์ ที่สวยงามแบบจับจิตใจมาก ยิ่งเวลาเปิดไฟมองยังไงก็สวยเวอร์ ณ ตอนนี้ที่ข้างบนเหลือแต่แขกที่เข้าพักที่โรงแรมเท่านั้น ทำให้ Bana Hills ดูสวยงามขึ้นหลายร้อยเท่า

          ณ ตอนนี้เวลา 18.45 น. ผู้คนหายไปไหนกันหมดเนี้ย??? บรรยากาศข้างบนนี้ คือ เงียบมาก หนาวมาก ชวนให้ง่วงนอน งั้นขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีแรงตะลุยตั้งแต่เช้า ราตรีสวัสดิ์จ้า คืนนี้หวังว่าเพื่อนๆ จะหลับฝันดีฝันถึงที่นี่กันนะทู๊กคน

          Morning จ้า วันที่ 2 ที่เรามาเที่ยวยุโรป อุ๊ย!! ไม่ใช่ซิ...เวียดนามเอง

          ในทริปนี้เราตัดสินใจนอน 2 คืน เพื่อจะเที่ยวให้ครบทุกมุม ซึ่งการเที่ยวบน Bana Hills นั้น เนื่องจากสถานที่เที่ยวมีเยอะหลายจุดมาก อาจทำให้เราเดินแบบงงได้ เรามีตัวช่วยที่จะพาเราไปให้ครบทุกที่เท่าที่ขาและใจเราจะไปถึง นั่นคือ

          Click! ดูทางนี้เลย http://banahills.sunworld.vn/en/

          และอีกอย่างที่เป็นตัวช่วยให้เราวางแผนการเดินเที่ยวบน Bana Hills

         รายละเอียดข้อมูลสถานที่เที่ยวชม เครื่องเล่น ร้านค้า ร้านอาหาร เวลาเปิด-ปิดแต่ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงน๊า แต่คือดีมากแม๊ ช่วยเราได้เยอะ แนะนำว่าต้องหยิบติดตัวไปทุกทีรับรองว่าไม่พลาดและไม่หลงค่ะ

         เช็กข้อมูลวางแผนการเดินเที่ยวเรียบร้อย งั้นวันนี้เราไปตะลุย Bana Hills ถ่ายรูป อัพลงเฟสบุ๊คด้วยกันค่ะ และจุดที่ห้ามพลาดต้องไปเช็กอินมีที่ไหนบ้าง?? ตามไปชิวพร้อมกันเล้ยยย

         จุดถ่ายรูปยอดฮิตของบานาฮิลล์ที่แรกที่เรามา ก็คือ สะพานมือยักษ์ Golden Bridge นั่นเอง เรียกได้ว่าสะพานสูงเหนือเมฆกันเลยทีเดียว ถ้าใครที่พักข้างบนนี้สามารถมาได้ตั้งแต่รอบแรกที่กระเช้าเปิด จะได้ภาพที่มีคนน้อยถึงไม่มีคนเลย

         สะพานนี้ได้เปิดตัวตั้งแต่กลางปี 2561 เป็นสะพานลอยฟ้าที่สวยงามมากที่สุดในโลก ถูกเนรมิตให้ตั้งอยู่ริมหน้าผา หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน สะพานแห่งนี้ก็ฮอตฮิตสุดๆ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม 

• ตั้งอยู่ที่ บานาฮิลล์ (BaNa Hills) 
• สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร 
• มีความยาว 150 เมตร  

         โดยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือ การดีไซน์ ตัวสะพานให้มีสีเหลืองทองสวยงาม พร้อมรูปปั้นมือหินขนาดยักษ์ให้เหมือนมือของยักษ์ที่มายกชูตัวสะพานเอาไว้นั่นเอง ทำให้โดนใจนักท่องเที่ยวมากๆ ถ่ายรูปออกมาก็สวยสุดๆ และยังสามารถมองเห็นวิวสวยเบื้องล่างได้อีกเรียกได้ว่า...เป็นจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียวค่ะ

         บรรยากาศยามเช้าที่ สะพานมือ มีแต่หมอกปกคลุมเต็มไปหมด จะมีบางช่วงจังหวะที่เห็นแสงพระอาทิตย์แค่แวบเดียวเท่านั้น แล้วก็กลับมาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเหมือนเดิม เราใช้เวลาเก็บภาพที่นี่กันประมาณ 30 นาที หามุมดีๆ ถ่ายรูป คือ สวยอลังการมาก มาถึงจุดนี้แล้ว ใครไม่ได้ไปถ่ายรูป คือ พลาดมากค่า

         ค่าบริการ : ฟรี (รวมอยู่ในค่ากระเช้าไฟฟ้า)

         หลังจากถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว ก็หิวขึ้นมาทันทีค่ะ งั้นเรากลับขึ้นไปทานมื้อเช้ากันเลยเนอะ

         ห้องอาหารกว้างขวาง ที่นั่งมีเยอะ อาหารก็หลากหลาย ที่สำคัญรสชาติอาหารอร่อยเกินเบอร์ อร่อยทุกเมนูเลยค่ะ กินตุนไว้เดี๋ยวจะได้มีแรงตะลอนทัวร์วันนี้ 😊 อิ่มแล้วก็ go...go

         ทายซิว่าเราจะไปที่ไหนกัน???

         เรากลับไปที่สะพานมือกันค่ะ เพื่อที่จะไปเที่ยวสวนดอกไม้แต่!!! ขอแวบไปดูผู้คนนิดนึง เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยว กลุ่มทัวร์สามารถขึ้นกระเช้ามาเที่ยวที่สะพานมือได้แล้วค่ะ โดยทุกที่ ค่าบริการ : ฟรี (รวมอยู่ในค่ากระเช้าไฟฟ้า)

         Le Jardin d’ Amour สวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศสหลากหลายสไตล์กลางหุบเขา ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด หลากหลายสีสัน สวยงามมากจน ถ่ายรูปกันเพลินสุดๆ

         สวยไปหมดทุกมุมจริงๆ นะทู๊กคน

         แอบเสียดายเราไม่สามารถไปชม โรงบ่มไวน์ Debay Wine Cellar ได้ เพราะเค้าปิดให้เข้าชม แต่!!! ร้านขายไวน์เปิดให้บริการตามปกติค่ะ Hầm rượu Debay

• สถานที่ : XXWV+MJ9, Hoà Phú, Hòa Vang, Đà Nẵng, เวียดนาม
• แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/EcwZZxCYA9Wu2qga7

         จากสถานี BaNa Hills Station เดินไปทางสวนดอกไม้ ใช้เวลาเดินไม่นานค่ะถ้าไม่หลง 555 แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากค่ะ สวย บรรยากาศดี

         หลังจากที่เราผิดหวังจากรถรางด้านล่าง เพราะมีหลายโซนปิดปรับปรุง เราเลยกลับขึ้นมาเที่ยวต่อด้านบนค่ะ

         เป็นสถานที่สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง มีจุดเด่นอยู่ที่หมวกขนาดยักษ์ แต่!!! อยู่ในช่วงปรับปรุงเลยถ่ายรูปได้เพียงบริเวณภายนอกและรอบๆ

         บริเวณโดยรอบจตุรัสสุริยุปราคา สวย เด่น มากเลยค่ะ

         ที่ต่อไปที่เราจะพาไปเที่ยว กว่าจะหาเจอปาเข้าไปนานโข ตามเรามาเลย Let's go เราจะพาไปนั่งรถรางกันค่ะ

         สถานีรถราง ชื่อ Mystery Well Station สถานีนี้อยู่ชั้นใต้ดินของ Arapang Restaurant การเดินทางด้วยรถรางใช้เวลาประมาณ 2 นาทีเองค่ะ 

         อยากให้ทุกคนได้ลองแวะไปเยี่ยมชมตัวปราสาทนี้กันค่ะ ภายในตกแต่งสวยงาม มีฉายหนัง 4D (15 นาที) อยู่ชั้น 2 แต่เราไม่ได้เข้าไปดูค่ะ เราเลือกไปที่ชั้น 3 เพื่อไปดู Flying Eyes Theatre เป็นการฉายหนังแบบเสมือนจริงสุดๆ เหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์นั้น สุดยอดมากเลยค่ะ

         มื้อเที่ยงของเรา เวลา 13.00 น. เลยขอลองชิมไก่ทอดร้านนี้ค่ะ LOTTERIA

         เมนูไก่ทอดราดซอสชีส 3 ชิ้น ราคา 128.000 VND = 183.38 บาท

         รสชาติคือดีอร่อยค่ะ ชุ่มซอสชีสมาก เมนูอื่นทางร้านก็มีนะคะเยอะมาก แต่ยังอิ่มจากมื้อเช้าอยู่ เลยทานแค่รองท้องเบาๆ เผื่อไปเที่ยวต่อจะได้ไม่จุกเนอะ

         สถานที่ถัดมาที่เราตามหากันตั้งแต่เมื่อวาน และแล้วเราก็หากันจนเจอค่ะ

         ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของยอดเขาบานาฮิลล์ บนความสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 1,500 เมตร ที่นี่เป็นวัดสไตล์จีน มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนที่งดงาม มีเจดีย์ 9 ชั้นสีขาวอันโดดเด่น ประดับประดาด้วยระฆังทั้ง 4 ด้าน และมีความโดดเด่นด้วยซุ้มประตูคล้ายกับประตูสู่สวรรค์ เมื่อมองออกไปจะเห็นท้องฟ้าและวิวทิวทัศน์ของภูเขาโดยรอบสวยงามมาก ๆ

         และที่สำคัญที่นี่!!! ยังมีพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ สูงกว่า 6 เมตร ให้ได้ไหว้ขอพรกันด้วยค่ะ

         จริงๆ แล้วจุดนี้จะอยู่โซนเดียวกับวัดค่ะ ต้องเดินขึ้นบันไดไปข้างบนหอระฆัง เหนื่อยไม่เบาเลยกว่าจะถึงจุดชมวิวที่ยอดสูงสุด แต่โชคดีที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย บนสุดจะมีระฆังใบใหญ่ ซึ่งระฆังจะตีอัตโนมัติ เสียงดังกังวานมาก

         จุดชมวิวด้านบน จะมองเห็นหมู่บ้านฝรั่งเศส ได้อย่างสวยงาม มองเห็นเจดีย์ 9 ชั้น

         เดินต่อขึ้นไปอีกนิดเราก็จะเจอกับวัดที่สวยงามมว๊ากกกๆๆๆๆๆ

         ที่นี่!!! บอกเลยว่า...ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะมีลักษณะเป็น วัดแบบนิกายเซน เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น และเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าเรียนรู้เกี่ยวกับวัดนิกายเซน ได้ทั้งเที่ยวทั้งถ่ายภาพสวยๆ

         ตอนกลับลงจากวัด...ขอแวะพักขานิดนึงค่ะ

         ร้านชาที่วิวดีที่สุดแห่งหนึ่ง ให้บริการเสิร์ฟชาคุณภาพดีของเวียดนามและจากหลากหลายแห่งทั่วโลก ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเขตโรงแรม Mercure Banahills French Village ซึ่งสามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างสวยงามอลังการ จิบชาอุ่น ๆ ไป ชมสายหมอกไป ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วค่ะ

         ชาที่เราเลือกเป็น signature ของทางร้าน คือ Longan Apple Tea ราคาแก้วละ 70.000 VND = 100.29 บาท กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติออกหวานนิดๆ ด้วยสมุนไพรและผลไม้ที่ใส่รวมๆ กันมาในแก้ว ก็ยังงงอยู่ว่าเป็นชาแอปเปิ้ลตรงไหน

         เค้าพูดกันว่า...การที่เราได้เดินขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดบนยอดเขา Bana Hills ไปจนถึงวัด Tombstone Temples เหมือนเราได้เดินขึ้นไปบนสวรรค์ ซึ่งจุดที่เราอยู่ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่สวรรค์และโลกกลมกลืนกัน

         ชีวิตคนเรามีขึ้นก็ต้องมีลง และตอนนี้เราก็ได้เดินลงมายังโลกปัจจุบันของเราแล้วค่ะ เราเลยตั้งใจจะใช้ชีวิตให้มีความสุขขณะที่เราอยู่ที่นี่ ไปค่ะเราไปสนุกกัน

         ใจสู้รึป่าว....ไหวมั้ยบอกมา 555 มาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 แต่เพิ่งเคยเล่นเป็นครั้งแรก 

         สิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาถึงบานาฮิลล์คือ Alpine Coaster เครื่องเล่นกลางแจ้งที่หน้าตาเหมือนรถไฟเหาะ เป็นเครื่องเล่นที่แอบหวาดเสียวนิดๆ เพราะผู้เล่นสามารถควบคุมความเร็วได้ด้วยตัวเอง

         ดังนั้นจะเสียวมากเสียวน้อยขึ้นอยู่กับความเร็วของเราค่ะ แต่ปลอดภัยแน่นอนเพราะเป็นรถที่วิ่งอยู่บนรางและมีเข็มขัดนิรภัย ไฮไลท์ของเครื่องเล่นนี้คือ ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวไปตามรางเราจะสามารถชมวิวของหุบเขาบานาฮิลล์ได้รอบทิศทาง อย่ามัวแต่หลับตาปี๋ ต้องชมวิวด้วยกันน๊าาา

         และที่สำคัญทางจนท. จะงดให้เราบันทึกภาพไม่ว่าจะด้วยอุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของเรา ส่วนภาพขณะที่เรากำลังเล่นนั้น ทางจนท. จะบริการถ่ายภาพไว้ให้ ถ้าเราชอบก็แค่ชำระเงินค่ารูปเท่านั้นเองค่ะ แต่รูปของเรา คือ ออกมาไม่สวยเลยสักรูป เราเลยกะว่าพรุ่งนี้เราจะมาเล่นอีกครั้งก่อน Check out

         ค่าเครื่องเล่น : ฟรี (รวมอยู่ในค่ากระเช้าไฟฟ้า+ค่าเข้าสวนสนุก)

         เครื่องเล่นนอกอาคารค่ะ เล่นกันแบบสบายไม่ต้องกลัวร้อน เพราะอากาศที่นี่คือเย็นมาก

         วันนี้ขอเป็นย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กสักวันเนอะ

         บานาฮิลล์ แฟนตาซี ปาร์ค (BaNa Hills Fantasy Park) เป็นสวนสนุกที่จัดเต็มมาก สวนแฟนตาซีแห่งนี้ มีแรงบันดาลใจมาจากนิยาย Journey To The Center of the Earth และ 20,000 Leagues Under the Sea จากนักเขียน Jules Verne ชาวฝรั่งเศส มีเครื่องเล่นให้เลือกเยอะมากบนพื้นที่ 21,000 ตร.ม. ไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องเป็นเจ้าเครื่องเล่นเครื่องนี้เลยค่ะ

         ใคร!!! ชอบความหวาดเสียว ต้องเล่นเจ้าเครื่องนี้ค่ะ Tower Drop เป็นเครื่องเล่นที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก ด้วยความสูงถึง 29 เมตร ค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปยังจุดสูงสุด แล้วก็จะทิ้งตัวลงมา อีกทั้งด้านบนของหอคอยยังเป็นโดมหลังคาแก้วที่มองเห็นวิวได้ แต่!!! จะมีใครได้ดูวิวรึป่าวน๊าาา??…เพราะเห็นแต่ละคนหลับตากรี๊ดกันสนั่นเลย

         ค่าเครื่องเล่น : ฟรี (รวมอยู่ในค่ากระเช้าไฟฟ้า+ค่าเข้าสวนสนุก)

         ส่วนตัวเราขอผ่านค่ะ ไม่ชอบหวาดเสียว กลัวจะไปเที่ยวต่อไม่ไหว 555 ขอเป็นเพียงท่านผู้ชมก็พอแล้วจ้า

         ภายในสวนสนุกแห่งนี้ มีเครื่องเล่น ของเล่น และกิจกรรมเยอะมาก เล่นทั้งวันก็ไม่หมด เช่น เกม 5D สไตล์คาวบอยให้เล่น ความสนุกจัดเต็มไว้ที่เดียวก็ว่าได้ค่ะ

         ค่าเครื่องเล่น : ฟรี (รวมอยู่ในค่ากระเช้าไฟฟ้า+ค่าเข้าสวนสนุก)

         อีกหนึ่งกิจกรรมที่ให้ได้กระทบไหล่คนดัง ระดับโลกที่ Wax Museum หรือพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของ SunWorld BaNa Hills

         ซึ่งที่นี่!!! เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของเหล่าคนดังต่างๆ จากทั่วโลก นักร้อง ศิลปิน นักกีฬา นักการเมือง ฯลฯ รูปปั้นแต่ละชิ้นเป็นงานศิลปะที่ซับซ้อนสวยงามของขี้ผึ้ง สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือชาวอิตาเลียน

         ค่าเข้าชม : คนละ 100,000 ดอง

         วันนี้ทั้งวันเราอยู่บน Bana Hills ทำกิจกรรมกันหลายอย่าง เดิมทีเราคิดว่าไม่น่าจะเที่ยวครบ ก็ไม่ครบจริงๆ ค่ะ เพราะบางที่คือปิดปรับปรุง บางที่ก็ช่วงฝนตก หมอกลงหนา ก็จะปิดเช่นกัน 

         ที่นี้ก็ได้เวลา เดินเล่นในหมู่บ้านฝรั่งเศส French Village กันดีกว่าค่ะ มาเดินชมความสวยงามอลังการของ หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสสมัยยุคกลางบนยอดเขา หมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศโดยชาวฝรั่งเศส ต่อมาได้มีการปรับปรุงให้เป็น Theme Park จนถึงทุกวันนี้ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก เรียกได้ว่าที่นี่เป็นฝรั่งเศสย่อมๆ ในเอเชียตะวันออกเลยทีเดียว ที่สำคัญมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ!!! ตามมาค่ะ

         เป็นบรรยากาศยามเย็น ที่ยังมีหมอกจางๆ ให้ได้เห็นบ้างเป็นบางส่วน

         และนี่ก็เป็นบรรยากาศตอนกลางคืน ช่วงเวลา 19.00-19.30 น. ต่างกับตอนกลางวันมากเลยค่ะ เพราะเวลาเปิดไฟแล้วสวยโรแมนติกสุดๆ วันนี้เดินมาทั้งวันขอตัวไปพักขาก่อนนะคะ เจอกันพรุ่งนี้ Good Night  ค่ะ

         อรุณสวัสดิ์จ้า เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับความสุขที่เต็มเปี่ยม กับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ 3 วัน 2 คืน ที่ Mercure Danang French Village Bana Hills ก่อนที่เราจะไปทานอาหารเช้า เราอยากจะบอกกับทู๊กคนว่า...การได้มาพักผ่อนข้างบนนี้มันช่างคุ้มค่ามากจริงๆ ถือว่าโอเคสุดๆ คุยเยอะก็หิว งั้นขอตัวไปทานอาหารเช้าก่อนค่ะ แต่วันนี้เราจะเอาเมนูทีเด็ดมาบอกกันค่ะว่ามีเมนูอะไรบ้าง

         ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า เพิ่งมาลองชิมเอาวันสุดท้ายค่ะ...ทู๊กคนเราอยากจะบอกว่าใครมาที่นี่แนะนำให้ลองชิม แก้วทางซ้ายมือ คือ นมสด แก้วทางขวามือ คือ น้ำเต้าหู้ สังเกตจากสีที่ต่างกัน คือ มันอร่อยมว๊ากกกก นมสดเข้มข้น น้ำเต้าหู้ก็หอมถั่วนัวๆ เข้มข้น แบบว่าไม่เหมือนกับบ้านเราเลย

         หลังจากทานมื้อเช้าเรียบร้อย เวลา 09.18 น. เราก็ Check Out ที่พัก แต่!!! ฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะยังมีเวลาเดินเก็บความประทับใจได้อีกแป๊บ

         มันเป็นอะไรที่สวยงามมากเลยนะทู๊กคน และก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า...ในสถานที่เดียวจะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันได้มากถึงเพียงนี้ เช้ามีแสงแดด สายมาเริ่มมีหมอก ภาพที่เราเก็บมาฝากอยู่ในช่วงเวลา 06.45-11.20 น. ก่อนที่เราจะเดินทางกลับค่ะ

         ตอนนี้เวลา 11.30 น. ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ การกลับลงไปด้านล่างนั้น...ตอนมาเรามาจากช่องทางไหน เราก็กลับช่องทางนั้น 555 ถามว่าจำได้มั้ย ใครจำไม่ได้ตามเรามาค่ะ

         เดินตามทางไปเรื่อยๆ จนเจอกระเช้าค่ะ ตอนลงด้านบนยังคงมีหมอกหนา พอมาได้สักระยะหมอกก็เริ่มจางหาย ขอนั่งชมวิวมุมสูงเก็บไว้เป็นความทรงจำของทริปนี้ เดี๋ยวไปเจอกันด้านล่างค่ะ

         ไม่กี่นาทีเราก็มาถึงยังอาคารด้านล่าง เราได้เรียกรถผ่าน App InDrive เพื่อไปส่งเราที่ดานังค่ะ

         เรียกรถจากหน้าสถานี Toc Tien Waterfall Station ไปส่งที่พัก Flexi Hotel & Apartmant ราคา 255.000 VND = 365.33 บาท

         GoodBye Bana Hills ต้องขออภัยในความรูปเยอะอีกครั้งนะคะ แล้วเจอกันที่ดานังค่ะ

• Ep.1 การเตรียมตัวก่อนเดินทางเที่ยวเวียดนาม 2023
• Ep.2 ทริปดานัง 3 วัน 2 คืน
• Ep.3 ทริปฮอยอัน 3 วัน 2 คืน

          ฝากติดตามทริปเวียดนาม ต่อใน EP. ถัดไปด้วยนะคะ

          ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกกับการใช้ชีวิต ในแบบฉบับของตัวเองนะคะ

• https://www.facebook.com/TIEWDAIKIN.KINDAITIEW