“แอปเปิ้ลและคมมีด” ความคลั่งแค้นของมนุษย์ผู้ต้องหลั่งโลหิตเป็นประจำในทุกเดือน
“เลือดคือความหวาดกลัว ความบ้าคลั่ง
ผู้หญิงที่มีเมนส์สามารถปลดปล่อยความสะพรึงกลัวให้แผ่ซ่านออกไปได้
เพราะเลือดคือชีวิต”
เพียงแค่ประโยคเปิดก่อนเข้าสู่บทที่หนึ่งในหนังสือ ก็ทำให้เราต้องเตรียมใจที่จะพลิกหน้าต่อไป เพราะนักเขียนคงไม่ประนีประนอมที่จะเล่าเรื่องแม้แต่นิดเดียว
‘แอปเปิ้ลและคมมีด’ ฉบับแปลไทยโดยสำนักพิมพ์อิสระ ‘อีกา’ หนังสือรวมเรื่องสั้นจากปลายปากกาของ อินตัน ปารามาดีตา นักเขียนชาวอินโดนีเซีย นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิง ผู้ซึ่งเคยปรากฏอยู่ในเทพนิยาย ตำนาน และเรื่องเล่าสยองขวัญมาบอกเล่าในมุมมองใหม่ ครั้งนี้พวกเธอไม่ใช่หญิงเรียบร้อยที่เคยอยู่ใต้อาณัติของผู้ปกครอง หากแต่คือผู้หญิงนอกขนบที่เต็มไปด้วยพลังความคลั่งแค้นอย่างที่ไม่เคยถูกบอกเล่าที่ไหนมาก่อน
หากสงสัยว่าพลังของอิสตรีสามารถสร้างความหวาดกลัวได้แค่ไหน ขอเชิญพลิกหน้าต่อไป
เราเจอหนังสือเล่มนี้นอนอยู่บนแผงหนังสือของสำนักพิมพ์อีกา ขณะเดินเตร็ดเตร่ในมหกรรมหนังสือระดับชาติในเดือนตุลาคม ยอมรับว่าหนังสือเล่มเล็กสีแดงสดดึงดูดเราไม่น้อย
พลิกไปปกหลังเพื่อมองหาความน่าสนใจเรื่องนี้เพิ่มเติม เพราะจำนวนเงินหลายร้อยไม่อาจเสียไปให้กับความดึงดูดใจเพียงอย่างเดียว
“13 เรื่องสั้น” “นักเขียนหญิงชาวอินโดนีเซีย” เรื่องย่อแต่ละเรื่องรุนแรงและตรงไปตรงมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาวแรกรุ่น ผู้ยังเคลือบแคลงการทำแท้ง ก๊อบปี้ไรเตอร์ซึ่งไม่คิดว่าเลือดประจำเดือนเพรียกหาปีศาจ…
เหล่านี้ก็พอทำให้เราอยากลองชิมรสชาติวรรณกรรมจากบริบทประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
อินตัน ปารามาดีตา คือนักเขียนเฟมินิสต์ชาวอินโดนีเซีย ที่เติบโตมาในเมืองหลวงอย่างจาร์กาตา สถานที่ซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกว่าเป็นบ้าน เพราะที่ผ่านมาเธอได้ใช้ชีวิตในเมืองต่างๆ หลากหลายประเทศ ปัจจุบันอินตันเป็นอาจารย์ประจำสาขาสื่อและภาพยนตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยแม็กควอรีในซิดนีย์
อินตันเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นเฟมินิสต์ครั้งแรกขณะศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซีย สาขาวรรณกรรมอังกฤษ ซึ่งทีสิสของเธอได้รับการดูแลโดยนักกิจกรรมด้านเฟมินิสต์ เมลานี บูเดียนตา ด้วย เธอถูกเลี้ยงดูจากพ่อหัวโบราณที่มีกรอบความคิดของปิตาธิปไตยและมักจัดวางผู้หญิงไว้ในฐานะมนุษย์ผู้บอบบางและต้องถูกปกป้องด้วยการรักนวลสงวนตัว และนั่นก็กลายเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์งานที่ผ่านมาของเธอ
ในเรื่อง ‘แอปเปิ้ลและคมมีด’ บอกเล่าเรื่องราวอีกด้านของเหล่าหญิงสาว พวกเธอสามารถทำอะไรและเป็นอะไรก็ได้อย่างที่เธอต้องการ เมื่ออยู่นอกขนบหญิงสาว ‘ที่ดี’
เรื่องสั้นทั้งหมดมีจุดเชื่อมโยงกันเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเป็นตัวละครของผู้หญิงนอกขนบที่ไม่มีใครได้ยินเสียงของพวกเธอ ไม่ว่าจะพื้นที่ใดหรือช่วงเวลาใดก็ตาม สิ่งที่ทำให้ดูน่าสนใจคือการที่นักเขียนเทียบล้อไปกับตำนาน เทพนิยาย และเรื่องสยองขวัญ ในอีกมุมที่น่ากลัวไม่แพ้กัน
เรื่องสั้นพูดถึงชีวิตของผู้หญิงในสังคมที่มีแนวความคิดชายเป็นใหญ่ และถูกจำกัดขึ้นอีกเมื่อต้องมาอยู่ใต้กรอบของศาสนาอีกชั้น ด้วยสำนวนภาษาที่จัดจ้าน ในประเด็นต่างๆ ที่แม้บริบทในเรื่องจะไกลตัวจากสังคมไทย แต่ก็ใกล้ตัวเมื่อเป็นเรื่องของการถูกกดทับของผู้หญิง
สิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านประเด็นต่างๆ ที่ผู้หญิงยังคงต้องพูดถึงในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ร่างกายของเธอเป็นสิ่งสกปรก ถูกทำให้กลายเป็นวัตถุทางเพศ ความยั่วยวนของหญิงสาวเป็นของต้องห้าม การทำแท้ง การต้องคอยปกปิดความต้องการทางเพศของตัวเอง ฯลฯ และถ้าหากพวกเธอหลุดจากกรอบที่ตั้งไว้นั้นก็เป็นความผิดของเธอเพียงผู้เดียว
หญิงตาบอดไร้หัวแม่โป้ง
เปิดเรื่องแรกด้วยเรื่องราวของพี่สาวในเทพนิยายซินเดอเรลลา ชุ่มโชกไปด้วยเลือดจากการดิ้นรนเพื่อเป็นที่ต้องการของเจ้าชาย และตอนจบของซินเดอเรลลาที่ไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งเหมือนที่ในนิทาน เพราะในชีวิตจริงหากได้ลงเอยแต่งงานกับใครสักคนไม่พ้นที่ผู้หญิงจะถูกคาดหวังให้ทำหน้าที่ผลิตทายาท
เลือด
ประจำเดือน สิ่งธรรมชาติของผู้หญิง แต่ต้องเรียนรู้จากครูสอนศาสนาซึ่งเป็นผู้ชายว่าเธอควรทำตัวอย่างไร และบอกว่าเลือดของเธอเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์
เสียงกรีดร้องในขวดแก้ว
ว่าด้วยเรื่องหญิงแก่ที่มีหน้าที่ทำแท้งให้กับผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาเธอในบ้านหลังเก่า หน้าที่นี้ทำให้เธอเป็นทั้งนางฟ้าและปีศาจในเวลาเดียวกัน
โฉมงามกับคนแคระทั้งเจ็ด
ตำนานโฉมงามแห่งสะพานอันจล เรื่องผีอันโด่งดังของอินโดนีเซีย ว่าด้วยเรื่องความทนทุกข์ของหญิงสาวที่ถูกพรากศักดิ์ศรีไปในคืนหนึ่งก่อนถูกทิ้งลงแม่น้ำอย่างไม่ไยดี นำมาเล่าในมุมมองใหม่ที่น่าสะอิดสะเอียนไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่บอกเล่าความทนทุกข์ของหญิงสาวที่พร้อมกลับมาแก้แค้นอย่างไม่เกรงกลัวขนบธรรมเนียมที่คอยขังพวกเธอไว้ เรียกได้ว่าเล่มนี้เต็มอิ่มสำหรับใครที่ต้องการอ่านเรื่องราวแฝงนัย การเสียดสี รวมไปถึงการเล่าเรื่องแบบเหยื่อกลับกลายเป็นผู้ล่า คั่นเรื่องราวความเบาและความหนักหน่วงไว้ได้อย่างพอดี
หากไม่แน่ใจว่าเสียงของผู้ถูกกดทับจะดังขึ้นมาได้อย่างไร ขอเชิญทุกคนมาฟังเรื่องราวของพวกเธอไปพร้อมๆ กัน
- นักเขียน : กุลธิดา สิทธิฤาชัย
- ช่างภาพ : กุลชนาฎ เสือม่วง
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่