เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หนองบงคาย หรือ ทะเลสาบเชียงแสน ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นหนองน้ำขนาดเล็ก ล้อมรอบด้วยเนินเขาเตี้ยๆ ทำหน้าที่เป็นแอ่งรับน้ำฝนตามธรรมชาติ ต่อมาทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนน้ำล้นเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวขยายขนาดเป็นทะเลสาบขนาดย่อม คือ "ทะเลสาบเชียงแสน" และได้รับการประกาศจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2528 พร้อมทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศตามอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) อันดับที่ 1101 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,711 ไร่
พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคายส่วนใหญ่เป็นหนองน้ำ พื้นที่ป่าโดยรอบหนองน้ำและบนเกาะกลางน้ำมีลักษณะเป็นแนวยาวแคบๆ สภาพป่าเสื่อมโทรม ประกอบด้วยต้นไม้ขนาดเล็กกระจายทั่วไป อยู่ในระหว่างการทดแทนของสังคมพืช ป่าธรรมชาติคงเหลือประมาณ 20 ไร่
ที่นี่เป็นสถานที่กางเต้นท์ริมน้ำที่มีวิวสวยงามมาก มีนกมากมายบินหากินตลอดทั้งวัน กลางคืนก็มองเห็นดาวสวยงาม บรรยากาศดีเยี่ยม เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอีกที่หนึ่ง และยังเป็นแหล่งดูนกสำคัญของไทย โดยเฉพาะนกเป็ดน้ำ นกเป็ดผี และเคยเป็นจุดที่พบนกกระเรียนไทยอีกด้วยค่ะ มีสะพานเดินชมวิวกลางน้ำที่บรรยากาศดีมาก
นอกจากนี้ยังมีบ้านพัก 2 หลัง ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 40 คน พร้อมลานกางเต็นท์ แต่!!! ต้องนำเต๊นท์มาเอง มีห้องอาบน้ำ ห้องน้ำไว้ให้บริการ โดยมีค่าบริการสำหรับการเข้าไปใช้พื้นที่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย คือ
ค่าบริการรายบุคคล
- กรณีคนไทย : เด็ก คนละ 20 บาท / ผู้ใหญ่ คนละ 30 บาท
- กรณีต่างชาติ : เด็ก คนละ 200 บาท / ผู้ใหญ่ คนละ 400 บาท
ค่าบริการยานพาหนะ
- รถจักรยาน คันละ 30 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 60 บาท
- รถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาท
- รถยนต์ 10 ล้อ คันละ 200 บาท
- ค่าใช้สถานที่กางเต้นท์ คนละ 30 บาท
และที่สำคัญที่นี่!!! มีเรื่องเล่า ตำนานทะเลสาบเชียงแสน ว่า...เจ้าเมืองเชียงแสนได้เลี้ยงเป็ดและห่านไว้ในหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง แต่มีปลาไหลเผือกตัวหนึ่งออกมากินเป็ดและห่านทุกวัน จนเจ้าเมืองทนไม่ได้ จึงขอฝ้ายบ้านละ 1 ปี๊บเพื่อมาพันหลังเป็ดและห่านทุกตัวให้เป็นสายเบ็ด เมื่อปลาไหลออกมากินเป็ดอีกจึงติดเบ็ด ชาวบ้านจึงช่วยกันจับขึ้นมาที่บ้านแม่ฮะ แล้วใส่เกวียนมายังบ้านแม่ลัวเพื่อทำเป็นอาหารแจกจ่ายไปทั่วเมือง
วันนั้นเองลูกชายของพระอินทร์ได้มาเที่ยวบ้านแม่ม่ายคนหนึ่งและได้ถามว่าเมืองนี้มีกลิ่นอะไรหอมไปทั่ว แม่ม่ายจึงเล่าให้ฟัง ลูกชายพระอินทร์จึงถามแม่ม่ายว่าได้กินปลาไหลเผือกกับเขาด้วยไหม แม่ม่ายตอบว่าชาวเมืองไม่ได้แบ่งให้ ลูกชายพระอินทร์บอกว่าดีแล้วและสั่งว่าคืนนี้ถ้าได้ยินเสียงอะไรห้ามออกนอกเรือนเด็ดขาด พอตกกลางคืนก็มีเสียงดังกึกก้อง แม่ม่ายนึกถึงคำเตือนที่ได้ยินมา จึงปิดประตูบ้านเงียบ พอตอนเช้าก็ไม่เห็นเมืองเสียแล้ว มีแต่น้ำเวิ้งว้างไปทั่ว กลายเป็นทะเลสาบใหญ่โต เหลือแต่บ้านที่แม่ม่ายอยู่ซึ่งเหมือนเป็นเกาะ จึงเรียกว่า เกาะแม่ม่าย
การเดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติของทะเลสาบเชียงแสน จากสถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ไปจนถึงทางแยกอำเภอเชียงแสน ระยะทาง 33 กิโลเมตร จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางสู่ทางหลวงหมายเลข 1016 (สายแม่จัน-เชียงแสน) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 27 บ้านกู่เต้า แล้วใช้เส้นทาง รพช. บ้านกู่เต้า-ดอยงาม ต่อไปจนถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย อีก 2 กิโลเมตร รวมระยะทางจากจังหวัดเชียงรายถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย ประมาณ 62 กิโลเมตร
ใครที่อยากจะมาสัมผัสกับธรรมชาติเชิงนิเวศวิทยา ที่มีทั้งน้ำ ทั้งป่า ทั้งภูเขา มีนกนานาชนิด ลองแวะมาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หนองบงคาย หรือ ทะเลสาบเชียงแสน กันได้นะคะ
- พิกัด : ตำบล โยนก อำเภอ เชียงแสน เชียงราย 57150
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/HyEAWm5wzUhsooFD9
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
