ลองจินตนาการดูว่า… เมื่อคุณต้องอธิบายรสชาติของรูทเบียร์ให้คนที่ไม่เคยลองชิมมาก่อน คุณคิดว่าในวันนั้นคุณจะพูดอธิบายอย่างไร? แน่นอนว่าคงไม่ง่ายนัก ในวันนี้เรามาดูกันว่าต้นกำเนิดของ รูทเบียร์ มีความเป็นมาอย่างไร และมีอะไรอยู่ในเครื่องดื่มนี้กันแน่?

ก่อนที่รูทเบียร์ตัวแรกจะถูกผลิตขึ้น รูตที ยารักษาโรคของชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาเหนือได้นำ ราก เปลือกไม้ ผลเบอร์รี่และดอกไม้ เครื่องดื่มสมุนไพรบางชนิดใช้แซสซาฟราส วินเทอร์กรีน และซาร์ซาพาริลลา พืชในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง ต้มเป็นยาเพื่อรักษาและเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ ต่อสู้กับการแพ้ และอื่น ๆ
สำหรับชนพื้นเมือง เครื่องดื่มที่มีรากเป็นส่วนประกอบไม่ได้มีไว้สำหรับการบริโภคเพื่อดื่มระหว่างวัน เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้มีรสชาติที่ดีนัก และพืชบางชนิดก็มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายเมื่อใช้มากเกินไป ตัวอย่างเช่น แซสซาฟราสมีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ แต่หากใส่มากเกินไปก็อาจทำให้ตับถูกทำลายได้ ชาวอาณานิคมยุโรปมาที่อเมริกาและได้เรียนรู้ถึงประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้ พวกเขาจึงเริ่มทำเครื่องดื่มที่มีรากเป็นส่วนประกอบตามสูตรของตัวเอง
ซึ่งรูทเบียร์ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยบังเอิญเมื่อเภสัชกรผู้สร้างสรรค์คนหนึ่งตัดสินใจใช้ผลเบอร์รี่ สมุนไพร และรากต่าง ๆ เพื่อสร้างยามหัศจรรย์ในปี 1870 สูตรแรกที่เขาใช้ประกอบด้วย ซาร์ซาพาริลลา ฮ็อพ จูนิเปอร์ วินเทอร์กรีน สไปนาร์ ชะเอม วานิลลา และ เปลือกไม้เบิร์ช
ในตอนนั้นเครื่องดื่มดั้งเดิมนี้มีรสขมและหวานมีฤทธิ์ในการรักษา แต่ยาตัวนี้กลับไม่ได้รับการตอบรับดีนัก ส่วนรูทเบียร์อย่างที่เรารู้จักในทุกวันนี้ ปรากฏขึ้นในวัฒนธรรมอเมริกันช่วงศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ Charles Elmer Hires ได้ชิมเครื่องดื่มแสนอร่อยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในช่วงฮันนีมูน Hires จึงขอร้องภรรยาเจ้าของโรงแรมให้เปิดเผยสูตรเครื่องดื่มตัวนี้แก่เขา
เมื่อเขากลับจากฮันนีมูน เขาก็นำสูตรนี้ไปให้อาจารย์ประจำวิทยาลัย 2 คนช่วยปรับสูตรเพื่อผลิตเครื่องดื่มเชิงพาณิชย์ การขายเครื่องดื่มชาสมุนไพรแบบผงจึงเกิดขึ้น Hires เริ่มทำการตลาด “ชาสมุนไพรแบบผง” อย่างกระตือรือร้นให้กับคนงานเหมืองท้องถิ่น หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ก็แนะนำให้เขาเลิกเรียกมันว่า ชาผง ให้เรียกว่า รูทเบียร์ แทนเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชาย และความนิยมในเชิงพาณิชย์ก็เกิดขึ้น
ในปี 1879 บริษัท Hires Root Beer Co. ได้สูญเสียสิทธิบัตรสำหรับคำว่า "รูทเบียร์" ไป อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมแพ้และประสบความสำเร็จในการทำโฆษณาและขายเครื่องดื่มนี้อีกครั้ง Hires ขายรูทเบียร์ได้มากกว่า 115,000 แก้วในปีแรก และกลายเป็นเศรษฐีในเวลาเพียงไม่กี่ปี
ในปี 1893 ระหว่าง Temperance Movement Hires โฆษณารูทเบียร์ของเขาว่าเป็นเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับคนไม่ดื่มเหล้า แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์รูทเบียร์ แต่เขาเป็นชายคนแรกที่เขียนสูตรขึ้นอย่างเป็นทางการและสร้างแบรนด์เครื่องดื่มจากยาโบราณที่สืบทอดกันมา
ความขัดแย้งที่มักเกิดกับ Hires คือเขาขายผลิตภัณฑ์นี้เป็นยาหรือเปล่า ทำให้องค์การอาหารและยาสั่งห้ามการใช้รากของ sassafras ในปี 1960 เนื่องจากเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น รูทเบียร์ สูตรใหม่ของ Hires จึงมีรสซาซาฟราเทียมซึ่งไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ
หลังจากนั้นผู้ผลิตหลายรายก็เริ่มปฏิบัติตามแนวคิดของ Hires และเริ่มขายสารสกัดจากรูทเบียร์ ในรูปแบบน้ำอัดลม ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา แบรนด์แรกคือ Barq's ซึ่งเริ่มต้นด้วยการผลิตรูทเบียร์ในปี 1898
พวกเขาหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อ 'รูทเบียร์' มานานหลายทศวรรษ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางกฎหมายกับบริษัท Hires นอกจากนี้เครื่องดื่มของพวกเขายังค่อนข้างแตกต่างจากรูทเบียร์อื่น ๆ เพราะพวกเขาใช้ซาร์ซาพาริลลาและคาเฟอีนเพื่อทำเครื่องดื่ม รวมทั้งลดระดับน้ำตาลและเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ
A&W รูทเบียร์ เป็นแบรนด์ของ Roy Allen ซึ่งเขาเริ่มผลิตเครื่องดื่มครั้งแรกในปี 1919 หลังจากให้เกียรติทหารผ่านศึกระหว่างขบวนพาเหรดด้วยรูทเบียร์ที่เขาผลิต กับหุ้นส่วนของเขา Frank Wright ซึ่งในภายหลังเขาได้ก่อตั้งบริษัทและเปิดร้านรูทเบียร์ถาวรแห่งแรกในเมือง Lodi และ Sacramento หลังจากจ่ายเงินให้หุ้นส่วนของเขาในปี 1924 อัลเลน ก็ได้ก่อตั้งเครือข่ายร้านอาหารแฟรนไชส์แห่งแรกของอเมริกาขึ้น
ในปี 1927 จอห์นและอลิซ แมริออท มาที่วอชิงตันและเปิดร้านอาหาร พวกเขาซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์จาก A&W และเปลี่ยนชื่อเป็น Hot Shoppe ปัจจุบันเป็นเครือโรงแรมในเครือแมริออททั่วโลก
รูทเบียร์เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในอเมริกาเหนือมาช้านาน น่าเสียดายที่เมื่อโค้กและเป๊ปซี่เข้ามา รูทเบียร์ก็เริ่มสูญเสียตลาดไป ปัจจุบัน รูทเบียร์มีสัดส่วนประมาณ 3% ของตลาดน้ำอัดลม และความนิยมก็เริ่มจางหายไปในหลายประเทศทั่วโลก
“ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบเสมอไป”
ที่มา :
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
- Facebook : https://www.facebook.com/fromthisstar
- Blockdit : https://www.blockdit.com/fromthisstar
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCnJ-nawjrUuhDDiLLrOHQAw
- Instagram : https://www.instagram.com/fromthisstar/
- TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดี ๆ ได้ใน Comments นี้เลย
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่