"วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney)" เชื่อว่าหลายคนรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี
ภาพจาก : Marko Aliaksandr / Shutterstock.com
เขาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักร "ดิสนีย์ (Disney)" ซึ่งปัจจุบันคือยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก โดยเฉพาะแอนิเมชั่นหรือการ์ตูน อาณาจักรดิสนีย์นั้นไม่เป็นสองรองใคร
และหนึ่งในเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับดิสนีย์ ก็คือข่าวลือที่ว่าหลังจากดิสนีย์เสียชีวิต ได้มีการเก็บศพของดิสนีย์เพื่อรอวันที่เทคโนโลยีก้าวหน้า จะได้ปลุกชีพดิสนีย์ขึ้นมาอีกครั้ง
เรื่องราวเป็นอย่างไร ลองไปดูกันครับ
วันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1966 (พ.ศ.2509) ดิสนีย์ได้เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งปอด หากแต่การผ่าตัด ก็ทำให้แพทย์ทราบว่ามะเร็งได้ลุกลามและกระจายไปทั่วร่างของดิสนีย์แล้ว และดูเหมือนว่าแพทย์จะไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรักษาตามอาการ
ดิสนีย์อดทนเรื่อยมาจนเสียชีวิตในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ.1966 (พ.ศ.2509) ด้วยวัย 65 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด
ถึงแม้ว่าดิสนีย์จะจากไปแล้ว แต่ความยิ่งใหญ่ของดิสนีย์ยังคงอยู่ อาณาจักรของดิสนีย์ยังคงเติบโตต่อไป และขยายใหญ่จนเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงจนถึงปัจจุบัน
สำหรับเรื่องราวตำนานการเก็บร่างของดิสนีย์นั้น เริ่มต้นในต้นปีค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) หลังจากที่ดิสนีย์เสียชีวิตเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยได้มีสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ได้อ้างว่านักข่าวของตนได้แอบเข้าไปในโรงพยาบาลและเห็นร่างของดิสนีย์ถูกเก็บรักษาไว้ในถังรักษาความเย็นซึ่งเย็นจัด
ภาพจาก : เว็บไซต์ Disney
ภายหลัง สำนักข่าวแห่งนั้นก็ยอมรับว่านี่เป็นเพียงข่าวที่กุขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องเล่าเรื่องการเก็บรักษาร่างของดิสนีย์ก็ยังคงอยู่ต่อไป มีการบอกเล่าต่อๆ มาเรื่อยๆ
ในปีค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ได้มีนิตยสารจากอเมริกาและฝรั่งเศส ได้กล่าวว่าร่างของดิสนีย์นั้นถูกเก็บไว้ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่แคลิฟอร์เนียเพื่อรอในอนาคต หากเทคโนโลยีก้าวหน้า อาจจะสามารถคืนชีพดิสนีย์ได้อีกครั้ง
นอกจากนั้น ย้อนกลับไปในปีค.ศ.1964 (พ.ศ.2507) ก็ได้มีหนังสือที่เขียนถึงแนวคิดความเป็นไปได้ในการแช่แข็งศพเพื่อรอวันที่จะฟื้นคืนศพนั้นกลับมามีชีวิต
แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องการเก็บรักษาศพของดิสนีย์นั้นไม่ใช่เรื่องจริง แม้แต่ลูกสาวของดิสนีย์ก็เคยออกมาเผยว่าดิสนีย์ไม่เคยได้ยินเรื่องการเก็บศพด้วยความเย็น และก็ไม่เคยขอให้แช่แข็งร่างของตนอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ตำนานเรื่องร่างของดิสนีย์ก็ยังคงเป็นที่เลื่องลือต่อไป แม้แต่ "ไมเคิล ไอส์เนอร์ (Michael Eisner)" อดีตผู้บริหารของดิสนีย์ ก็เชื่อในเรื่องเล่านี้
นี่ก็เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งของยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงผู้นี้
References :
ต้นฉบับ :
ขอบคุณภาพจาก : เว็บไซต์ Disney
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
