ชวนเที่ยวน้ำตกถ้ำโสดา น้ำตกถ้ำขนาดใหญ่แห่งเดียวในร้อยเอ็ด กับวัดผาน้ำทิพย์เทพฯ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล อารามคู่บ้านคู่เมือง

          น้ำตกถ้ำโสดา หนึ่งเดียวในอีสาน กับวัดผาน้ำทิพย์เทพฯ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล งดงามดุจทิพยวิมาน คู่เมือง ร้อยเอ็ด

          ผมก็เดินทางจากมหาสารคามไป น้ำตกถ้ำโสดา จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นน้ำตกถ้ำขนาดใหญ่ แห่งเดียวในอีสาน ที่นี่มีเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นับว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งเป็นทางผ่านเป็นน้ำตก เหนื่อยมากๆๆๆๆ แต่ชื่นใจ ได้ทัศนาจนฉ่ำใจแล้ว ก็เดินทางต่อไป วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม เมืองร้อยเอ็ด งดงามวิจิตรตระการตา 

          ผมเดินขึ้นไปถึงข้างบนยอดมหาเจดีย์ แม่เจ้า!!!! วันนี้รวมๆ เดิน 1 หมื่นก้าว แบบมีขึ้นลงเขา 2-3 จุดอะ เห้อๆๆ ระบม ผมเก็บความฉ่ำใจได้ตามเป้าหมายก็เดินทางเข้า จ.ยโสธร น่วมเลยครับบบบ  

          น้ำตกถ้ำโสดา อยู่ใน ตำบลภูเขาทอง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ มีบริเวณของหินทรายวางสลับซับซ้อนกัน รวมทั้งมีผาหินขนาดใหญ่ บริเวณของน้ำตกถ้ำโสดา จะมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ความสวยของ น้ำตกถ้ำโสดา สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นน้ำตกถ้ำขนาดใหญ่ สูง 50 เมตร ส่วนชื่อของ น้ำตกถ้ำโสดา นั้น มีที่มาจากเรื่องที่เล่าต่อกันมาว่า มีสองสามีภรรยา ชื่อว่า นายโส และ นางดา ทุกวันๆ ทั้งสองคนจะออกไปหาอาหารป่าบริเวณภูเขียว มีอยู่วันหนึ่งทั้งสองอยากที่จะนำเงินและทองไปใส่ในพระธาตุพนม ระหว่างการเดินทางผ่านป่าไปเจอถ้ำแห่งหนึ่ง เลยใช้เป็นที่พักแรม ต่อมาเลยใช้เป็นที่พักระหว่างออกไปหาอาหารป่าด้วย เวลาเหนื่อยล้าจึงกลับมาพักที่ถ้ำนี้ทุกวัน จนชาวบ้านเรียกบริเวณนี้กันว่า ถ้ำโสดา

          น้ำตกนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า สามารถเดินชมได้ทั้งจากด้านหน้าและด้านในเลย เพราะด้านในจะมีบริเวณชะง่อนหินส่วนหนึ่งเว้าเข้าไปคล้ายกับถ้ำหลังม่านน้ำตก ภายในจะมีพระพุทธรูปศากยมุนีโคดม ประดิษฐานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปกราบขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกัน ส่วนบริเวณด้านล่างนั้น ยังเล่นน้ำตกกันได้

          น้ำตกจะไหลลง อ่างเก็บน้ำห้วยพุงใหญ่ จากบริเวณถ้ำน้ำตก เดินลงไปบริเวณด้านล่าง สัก 300 เมตรกว่า จะเจอกับ “เจดีย์หิน” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่กล่าวว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง แต่เดินขึ้นเหนื่อยมากๆๆๆ ผมว่ารวมๆ แล้ว 700 กว่าขั้นน่าจะได้นะครับ ขึ้นมาจะมาโผล่ที่จุดทางเข้าถ้ำ ใกล้ที่ลานจอดรถ ผมเหนื่อยมากๆๆ ต้องล้างหน้าคลายความอ่อนล้า นั่งหายใจลึกๆๆ แล้วมองไปไกลๆ เจอเจดีย์ขนาดใหญ่ สวยงามโดดเด่นมาก โห....พระมหาเจดีย์ชัยมงคล นี้ งดงามๆๆ ต้องไปต่อหล่ะ 

          ว่าแล้วก็คลานไป เห้อ!! หมดแรง ก่อนจะไปต้องบอกก่อนว่า หากเป็นผู้สูงอายุ จะมาเที่ยวก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เหมาะที่จะอยู่แถวๆ ถ้ำน้ำตก ไม่เหมาะจะเดินลงไปที่ “เจดีย์หิน” ด้านล่างนะครับ 

          ผมขับรถออกจาก น้ำตกถ้ำโสดา มาก็ประมาณ 20 กว่านาที ถนนหนทางดีมาก จากถนนใหญ่เข้ามาที่วัดถนนดีมากเลย สองข้างทางเพียบพร้อมไปด้วยร้านอาหารพื้นเมือง ส้มตำไก่ย่าง ปลาเผา เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่และกลางๆ ไม่น้อยเลยครับ ผมขับมาไม่นานก็มาถึงลานจอดรถ 

          ผมจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ มีร้านค้าขายของกินของที่ระลึกจำนวนมาก เดินไปที่ทางเข้าวัด ทางวัดจะมีรถรางคอยให้บริการเข้าไปด้านในของวัด ในส่วนของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

          จากข้อมูลทางวัด พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด มีลักษณะ เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสมกันระหว่างพระปฐมเจดีย์ และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปากร เป็นสีขาวตกแต่งลวดลาย ตระการตาด้วยสีทอง เหลือง อร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำ เป็น 109 เมตร ใช้ทองคำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองค์พระมหาเจดีย์เหมือนอยู่บนทิพยวิมานแดนสวรรค์ สวยงดงามมากๆ เลยครับ 

          บริเวณด้านนอกอาคารพระมหาเจดีย์ชัยมงคล สวยงามมาก จัดเป็นอุทยานกลุ่มพระเจดีย์ล้อมรอบองค์พระมหาเจดีย์ชัยมงคล 

• ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
• ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลาย ไทยวิจิตรพิสดาร
• ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
• ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรีเคยบำเพ็ญธรรมมา
• ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

          ผมมาแล้วหายเหนื่อยเลยครับ กะว่าจะเดินทัศนาสักสองสามชั้นก็พอ เพราะเหนื่อยล้ามากๆ มากราบพระ นั่งพักชมความงดงาม วิจิตรตระการตาเหมือนมาทิพยวิมานจริงๆ เดินไปเดินมา ขึ้นไปชั้น 5 ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ เป็นบุญตามากๆ เลยครับ

          ตะวันคล้อยมากแล้ว ยามอาทิตย์จะอัสดง ช่างงดงามมาก 

          ทั้งสองแห่ง ผมทำบุญไปตามสมควร ก็ขอแบ่งบุญให้ทุกๆ ท่านนะครับ แบ่งบุญเน้อ นอกจากเห็นเป็นบุญตาผมแล้ว ก็เลยพาทุกท่านไปทัวร์ทิพย์กับผมด้วยกันนะครับ หากหมดแรงตรงไหน จะได้ช่วยหิ้วปีกผมด้วยครับบบบบ 

          ได้เวลาแล้ว ตะวันจะลับลา ผมก็ต้องเดินทางต่อ ค่ำคืนนี้คงขับไปนอนที่เมืองยโสธร  

          ไม่กินหล่ะมื้อเย็น เพื่อสุขภาพ ฮ่าๆๆ ดื่มน้ำอมฤตแทนครับ อดนึกถึงเพลงสาริกาไร้รังไม่ได้