รู้จัก เจงกิสข่าน ในมุมมองอีกด้าน นอกจากความโหดเหี้ยม

ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา

เพจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์น่ารู้ต่างๆ ทั่วโลก เพราะประวัติศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

          อีกด้านของ "เจงกิสข่าน (Genghis Khan)"
เจงกิสข่าน

          เมื่อเอ่ยนาม "เจงกิสข่าน (Genghis Khan)" หลายคนน่าจะรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี
          ภาพลักษณ์ของเจงกิสข่าน คือผู้นำที่โหดเหี้ยม เป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคนมหาศาล
          หากแต่อีกด้านของเจงกิสข่านนั้น เมื่อพิจารณาจากบันทึกและหลักฐานต่างๆ ก็ทำให้เห็นอีกด้านของวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำของเจงกิสข่าน
          ลองมาดูเรื่องราวนี้กันครับ
          จากบันทึกทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ทำให้เห็นมุมหนึ่งของการปกครองและความมั่นคงในอาณาจักรของเจงกิสข่าน
          นักประวัติศาสตร์ชาวเปอร์เซียรายหนึ่งได้เขียนยกย่องนโยบายต่างๆ ของเจงกิสข่าน ให้ข้อมูลว่าเจงกิสข่านนั้นส่งเสริมการค้า รวมทั้งยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม แสดงให้เห็นว่าเจงกิสข่านนั้นเป็นผู้ที่ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและศาสนา มีการออกกฎที่อนุญาตให้ผู้ที่นับถือศาสนาต่างกันอยู่ร่วมกันได้ ผู้คนมีเสรีภาพในการประกอบพิธีกรรมตามศาสนาตามความเชื่อของตน
          และเมื่อมาพูดถึงกระบวนการยุติธรรม เจงกิสข่านก็สร้างคุณูปการต่อระบบยุติธรรมเช่นกัน
          เจงกิสข่านนั้นให้ความสำคัญกับระบบยุติธรรมอย่างมาก มีการออกกฎหมายที่พิจารณาอย่างดีเพื่อให้เกิดการตัดสินอย่างเป็นธรรมที่สุด โดยกฎหมายในอาณาจักรมองโกลนั้นจะเน้นความเท่าเทียมสำหรับประชาชนทุกคน ส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง
          อีกหนึ่งเรื่องราวสำคัญที่มักจะเป็นที่กล่าวถึง ก็คือจำนวนคนที่เสียชีวิตเพราะเจงกิสข่าน โดยว่ากันว่าเจงกิสข่านนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 1 ใน 5 ของประชากรโลก
          หากแต่จากการศึกษาของนักประวัติศาสตร์ยุคใหม่ พบว่าจำนวนประชากรในอาณาจักรมองโกลในสมัยการปกครองของเจงกิสข่านมีประมาณ 100 ล้านคน และถึงแม้ว่าเจงกิสข่านจะมีส่วนที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตจริงๆ หากแต่จำนวนมากดังที่กล่าวมานั้นก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีจำนวนมากขนาดนั้น
          อีกข้อที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเจงกิสข่านต้องถูกมองใหม่ก็คือเรื่อง "การศึกษา"
          จากสื่อต่างๆ นั้น เจงกิสข่านคือผู้นำที่ป่าเถื่อน โหดร้าย ดูเหมือนน่าจะเป็นคนที่ไม่มีการศึกษาหรือให้ความสำคัญกับการศึกษานัก หากแต่จากการศึกษาประวัติของเจงกิสข่าน ผู้คนรอบๆ ตัวเขานั้นมีทั้งที่ปรึกษาที่ทรงปัญญา บัณฑิต นักปรัชญา เรียกได้ว่ารอบๆ ตัวของเขานั้นคือสังคมแห่งผู้มีปัญญา
          นอกจากนั้น เจงกิสข่านยังมักจะสนทนากับนักบวชลัทธิเต๋าผู้ทรงปัญญาหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงการใฝ่รู้ทางด้านปรัชญาและมุมมองต่างๆ
          และเจงกิสข่านนั้นยังส่งเสริมด้านการศึกษา มักจะส่งเสริมให้มีการประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรมต่างๆ มากมาย
          ส่วนทางด้านครอบครัวและการสืบทอดอำนาจนั้น ถึงแม้ว่าเจงกิสข่านจะมีภรรยาหลายคน แต่จากบันทึกประวัติศาสตร์นั้น ผู้ที่เจงกิสข่านยกย่องให้เป็นภรรยาจริงๆ และอุทิศตนให้ ก็มีเพียงแค่ "บอร์เต (Borte)" เพียงผู้เดียว
          จากหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเจงกิสข่านในยุคใหม่ ทำให้เห็นถึงการสืบทอดอำนาจในรูปแบบของเจงกิสข่าน
          เจงกิสข่านให้ความสำคัญกับครอบครัว และการสืบทอดอำนาจก็จะเป็นผ่านทางสายเลือดอย่างแท้จริง ไม่ใช่ผ่านบุตรบุญธรรมหรือคนนอก
          อาจจะเห็นได้ว่านอกจากความโหดเหี้ยม เจงกิสข่านเองก็อาจจะถือว่าเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ผู้หนึ่ง

References :

Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จัก เจงกิสข่าน ในมุมมองอีกด้าน นอกจากความโหดเหี้ยม อัปเดตล่าสุด 20 กันยายน 2566 เวลา 13:38:59 16,201 อ่าน
TOP