พอมีเวลาได้อยู่เงียบๆ ก็รู้เลยว่า “เรามีปีศาจตัวหนึ่ง หรืออาจจะหลายตัวอยู่เป็นเพื่อนกับเราเสมอ”
บางทีนะ ปีศาจตัวนั้นก็มาในรูปแบบของความ “ใจดี” และมักจะทำให้เราไม่รู้สึกผิดกับตัวเราเอง
(1) ความรัก :
บางทีเราเองก็อยาก “มูฟออน” นะ แต่... ทุกครั้งที่พยายาม กลับมีอีกความรู้สึก “ฉุดรั้ง” ให้จมอยู่กับเรื่องเดิมๆ จริงๆ แล้ว “ความผิดหวัง” หรือ “เสียใจ” ซ้ำๆ ในเรื่องความรัก ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะปิดกั้นให้เราก้าวต่อไปไม่ได้เลย ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้เรา “เข้มแข็ง” ขึ้น และพร้อมจะเรียนรู้กับความหมายของคำว่า “รักตัวเอง” ให้มากขึ้นด้วย
(2) ครอบครัว :
บางครั้งครอบครัวอาจจะไม่ใช่เซฟโซนที่ดีเสมอไป คำพูดที่เหมือนจะเป็นห่วง แต่..กลับทำร้ายกันก็มีไม่น้อย ตัวเราต่างหากที่ต้องพยายามดูแลตัวเองให้ดี และต้องตีความให้ชัดเจน การน้อยใจของแต่ละคนเป็นปกติ พ่อแม่ไม่น้อยที่เหนื่อยล้าจากการทำงานอย่างหนัก ก็หวังให้เด็กๆ ได้มีอนาคตที่ดีกว่าพวกเขา พอมองอีกมุมหนึ่ง เราอาจจะเข้าใจกันมากขึ้น
(3) มิตรภาพ :
หลายคนเสพติดดราม่า และหลายครั้งเรื่องที่ทำงานก็เลี่ยงการนินทาลับหลังได้ยาก แต่.. ถ้าเราหลงหรือเผลอเข้าไปร่วมแล้ว ก็จะทำให้มองหน้าเพื่อนที่ถูกนินทาไม่ติด บางทีเราเองก็ต้องเลือกตัดสิ่งแย่ๆ ออกไป ไม่จำเป็นต้องเป็นที่รักของใคร ด้วยการเห็นด้วยหรือร่วมกลุ่มนินทาคนอื่น และอีกครั้งที่การเป็นตัวเองในมุมที่เราโอเคที่สุด และไม่เดือดร้อนใคร น่าจะเป็นทางออกของมิตรภาพที่ยืนยาว
(4) การเรียน :
อุปสรรคสำคัญของการเรียน คือ “การด้อยคุณค่าของตัวเอง” ด้วยข้อความต่างๆ ทั้งจบมาก็ตกงาน หรือได้งานที่ไม่ได้เลือก เพราะเรียนไม่เก่ง แต่... ลองคิดดีๆ การทำงานนั้นเป็นเรื่องใหม่ของ “เด็กจบใหม่ทุกคน” จริงๆ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับ
- การปรับตัว
- ความพร้อมในการเรียนรู้ มากกว่า “ความเก่ง” เพียงอย่างเดียว
(5) การทำงาน :
ทำงานไปสักระยะ สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ การติดอยู่กับ comfort zone เบื่องาน อยากย้าย แต่.. ไม่กล้าพอ เพราะกลัวว่าไป แล้วจะแย่กว่าเดิม ชีวิตคือ การเปลี่ยนแปลง ต่อให้ไม่เปลี่ยนที่ทำงาน หน้าที่หรือภาระงานก็เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา บางทีนะ เด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาและเรียนรู้ได้เร็วกว่า อาจจะวิ่งแซงเราก็ได้ comfort zone ที่ว่าแน่นอน อาจจะทำให้เราลำบากก็ได้นะ
(6) การพัฒนา :
ที่ฉุดรั้งเราอีกอย่างเลยก็คือ “ความขี้เกียจ” หากอยากเก่งขึ้น ต้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้นด้วย แต่.. ความขี้เกียจ หรือความคิดว่า “พัฒนาไป ก็ไม่ได้ดีขึ้น” ภาพแบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน เราไม่ได้เดินถอยหลังนะ แค่คนอื่นเดินแซงเราไปเอง ลองคิดให้ดีเราอยากเก่งขึ้น เพราะอะไร ไม่ใช่เพื่ออะไรวันที่เราเรียนรู้ และพัฒนาไปในหลากหลายด้าน อาจจะทำให้เรารู้ว่า “เราชอบงานประเภทไหน” และทำให้เราตัดสินใจมุ่งหน้า หรือก้าวไปได้เหมาะกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
(7) รักตัวเอง :
ที่เราไม่รักตัวเอง จริงๆ ก็แค่รู้สึกเหนื่อยล้า บางทีก็ขี้เกียจด้วยแหละ ความมีวินัยเป็นเรื่องยาก ต้องฝึกฝนสม่ำเสมอ สุขภาพที่ดีจะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย
(8) ธุรกิจ :
การลงทุน ใครก็มักคิดว่า “ง่าย” มีเงินทุนเยอะๆ ไม่ต้องเก่งก็ทำได้ แต่... เอาเข้าจริงนะ คิดแบบนี้คือ รอล้มละลายเลย ต่อให้มีเงินทุน ขาดความรู้ที่ถูกต้อง ก็ไม่มีทางโอเคหรอกทุกทางออก มีปัญหารออยู่เสมอดีที่สุดคือ เตรียมคู่มือวิธีแก้ไขให้พร้อม ก็เท่านั้นเอง
(9) เงิน :
มีแล้วใช้หมด ก็เท่ากับไม่มี ความอยากให้ระงับด้วยการคิดเพิ่มอีกชั้น การวางแผนทางการเงินที่ดี อาจจะไม่ใช่การออมเพียงอย่างเดียว การลงทุนกับความรู้ก่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่ออนาคตที่มั่นคง และมั่งคั่ง อดทนกับช่วงแรกให้มากที่สุดก่อน
(10) สังคม :
เราแคร์คนอื่นมากไปรึเปล่า เราละทิ้งตัวตนของเราอยู่มั๊ย คิดให้ดีว่า “เราใช้ชีวิตเพื่อใคร” ยิ่งเราออกห่างจากตัวตนของเรา ก็เท่ากับเราใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น แต่.. ในที่สุด เราเองก็มีทางเดินของเรา เพราะงั้นวันนี้ก็น่าจะเริ่มต้นใช้ชีวิตในแบบของเราบ้างนะ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่