แอบคิดตามอยู่เหมือนกัน... จริงๆ แล้วทั้งหมดอยู่ที่เทคนิคการพูดหรือมีอย่างอื่นที่ทำให้แต่ละคนมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ทั้งๆ ที่อ่านเทคนิคและวิธีการพูดเพื่อโน้มน้าวคนอื่นมามากมาย แต่... กลายเป็นว่าไม่เคยได้รับผลดีเท่าที่เป็นเลย
ศาสตร์มืดแห่งการชักใยคน มีมุมมองที่แตกต่างเพราะหนังสือเล่มนี้เริ่มต้นจากให้เราเข้าใจว่า
“การสื่อสารไม่ใช่เรื่องของภาษา แต่เป็นเรื่องของจิตวิทยา”
ดังนั้นองค์ประกอบ 3 อย่างที่จะทำให้เราสามารถพูดให้ “เกราะป้องกันใจของคนอื่น” เปิดออก ต้องเริ่มต้นที่
(1) ข้อมูลที่เห็นได้
(2) ข้อมูลที่ได้จากการฟัง และ
(3) ข้อมูลที่เป็นคำพูด
เอาจริงนะ... เราเองก็มักจะตัดสินจากสิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรก ราวกับว่า “อย่างอื่นเป็นเพียงองค์ประกอบเสริมเท่านั้น” แต่ถึงเวลาจริง เรากลับเน้นที่คำพูดมากกว่าอย่างอื่น
งั้นมาเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิมกัน
หากเป็นการพบกันครั้งแรกให้เริ่มต้นด้วยเรื่องทั่วไป อย่าเพิ่งรีบร้อนคิดว่า “คู่สนทนา” จะอยากคุยเรื่องจริงจังก่อน บางทีเราก็แค่ต้องการเปิดประตู เพื่อให้การพูดคุยมีแนวโน้มที่ดี
เมื่อเจอกันในครั้งถัดไป เราเองต้องคง “ความสัมพันธ์” ไม่ต่างจากที่ขยับมาจากครั้งก่อน ไม่งั้นความสัมพันธ์ที่สร้างไว้ครั้งแรกก็สูญเปล่า
ถัดมา หากเราเป็นคนขี้ลืม ทั้งคนและวันสำคัญ พยายามใช้เครื่องมือที่มีให้เป็นประโยชน์ จดโน๊ตไว้ เพื่อย้ำเตือนตัวเองให้ดูเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด
ขณะเดียวกัน ถ้าต้องการให้ความไว้วางใจเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ “การมีส่วนร่วม... ในเรื่องราวนั้นๆ” เช่น หากคู่สนทนารู้สึกดีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เราก็สามารถตอบเสริมได้ว่า “รู้สึกดีเช่นกัน” ไม่จำเป็นต้องแสดงว่า “เรารู้เยอะกว่า..” ในบางบริบท
เมื่อเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้ อีกสิ่งที่สำคัญก็คือ “ตำแหน่งและวิธีการนั่ง” การนั่งตรงข้ามไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะเหมือนจะเผชิญหน้ากันเกินไป ส่วนการนั่งชิดกันก็ดูจะไม่มีระยะห่าง ดังนั้นที่ดีก็คือ “นั่งเยื้องกันเล็กน้อย”
จริงๆ มีเทคนิคในเล่มอีกมาก... ทั้งวิธีการพูด หรือการขยับความสัมพันธ์
แต่มีส่วนที่รู้สึกว่า “ใช่” กว่าที่คิด ก็คือ
คนเรามีความมุ่งมั่นแตกต่างกัน หากต้องการเป็นกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จ ต้องกำหนดภาพในหัวที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ
คนที่เงินเดือนน้อยไม่ใช่ว่าเขาทุ่มเทน้อยกว่า เพียงแต่เรายังติดอยู่กับกับดักวงจรที่ขยับออกจากตรงนี้ไม่ได้ และความเหนื่อยก็ทำให้เราหยุดคิดถึงเรื่องอื่นเร็วกว่าปกติ ลองเพิ่มเวลาสำหรับการคิดหาช่องทางที่จะไปได้ไกลขึ้นอีกสักนิด เราจะรู้ว่าเรามีศักยภาพที่ไปได้ถึงจุดนั้นจริงๆ
ถ้างั้นเกราะป้องกันใจแรกที่ควรจะทลายก็คือ “เกราะป้องกันใจของตัวเอง” ที่ทำงานทุกครั้งเมื่อมีสัญญาณเตือนภัยให้เราระมัดระวังต่อความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น
เปิดใจ เพื่อพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ และเราจะได้เจอกับอีกด้านที่เราไม่ได้คิดมุมนี้มาก่อน
ศาสตร์มืดแห่งการชักใยคน มีมุมมองที่แตกต่างเพราะหนังสือเล่มนี้เริ่มต้นจากให้เราเข้าใจว่า
“การสื่อสารไม่ใช่เรื่องของภาษา แต่เป็นเรื่องของจิตวิทยา”
หนังสือ
(1) https://s.shopee.co.th/40MokymcUo
(2) https://s.lazada.co.th/s.pNkRG?cc
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่