อันปัง... จากขนมปังญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกติดใจ สู่การเป็นฮีโร่อันปังแมน

ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา

เพจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์น่ารู้ต่างๆ ทั่วโลก เพราะประวัติศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

          “อันปัง (Anpan)” ขนมปังญี่ปุ่นที่กลายเป็นฮีโร่
อันปัง ขนมปังญี่ปุ่น

          หลายคนที่เคยเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น หรือชื่นชอบวัฒนธรรมและอาหารญี่ปุ่น น่าจะต้องรู้จัก “อันปัง (Anpan)”
          อันปัง คือขนมปังสอดไส้ถั่วแดงกวนรสหวาน นิยมโรยหน้าด้วยงาขาวหรืองาดำ มักจะมีวางขายตามร้านขายขนมปังและร้านขนมทั่วประเทศญี่ปุ่น

          อันปังคือขนมที่เป็นการผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว และมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมาก

          เรื่องราวเป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
          สำหรับร้านขนมปังที่สร้างอันปังขึ้นมา ก็คือร้าน “คิมุรายะ (Kimuraya)” ซึ่งสร้างอันปังในปีค.ศ.1874 (พ.ศ.2417) โดยในปัจจุบัน ร้านสาขาหลักของคิมุรายะอยู่ในย่านกินซ่า กรุงโตเกียว และยังคงขายอันปังในราคาชิ้นละ 200 เยน หรือแค่ประมาณ 50 บาทเท่านั้น และยังคงขายดีเคียงคู่กับขนมปังประเภทอื่นๆ
          สำหรับประวัติศาสตร์ของอันปังนั้น ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัย “การฟื้นฟูเมจิ (Meiji Restoration)” ซึ่งดำเนินไปตั้งแต่ปีค.ศ.1868-1889 (พ.ศ.2411-2432) ในช่วงเวลาที่ชาวญี่ปุ่นยังไม่ได้รับรู้และไม่ได้ยอมรับอาหารตะวันตกมากนัก
          แต่ก่อนอื่น คงต้องขอย้อนไปเล่าเรื่องราวของขนมปังในญี่ปุ่นซักเล็กน้อย
          ขนมปังนั้นถูกนำเข้ามาสู่แผ่นดินญี่ปุ่นเมื่อปีค.ศ.1543 (พ.ศ.2086) โดยพวกโปรตุเกสนำเข้ามาสู่ญี่ปุ่น ซึ่งขนมปังนั้น ในภาษาญี่ปุ่นคือ “ปัง (Pan)” ก็แปลงมาจาก ”เปา (pão)“ ที่แปลว่าขนมปังในภาษาโปรตุเกส
          ในช่วงแรก ขนมปังยังไม่ได้แพร่หลายในหมู่คนญี่ปุ่นเนื่องจากชาวต่างชาตินั้นถูกจำกัดให้อยู่ในบริเวณแถบนางาซากิ ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในอีกกว่า 300 ปีต่อมา เมื่อญี่ปุ่นลงนามในสนธิสัญญาทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1858 (พ.ศ.2401) และทำให้การปิดประเทศของญี่ปุ่นที่ผ่านมากว่า 220 ปีต้องสิ้นสุดลง
          จากนั้น ก็มีการอบขนมปังกันอย่างแพร่หลายในโยโกฮาม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
          แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นที่ชอบข้าวที่ชุ่มๆ และนุ่ม ขนมปังนั้นแห้งและแข็งกระด้างเกินไป ขนมปังจึงยังไม่เป็นที่นิยมนัก อีกทั้งเนยก็มีกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย ร้าน “โยโกฮาม่า เบเกอรี (Yokohama Bakery)” ซึ่งเป็นร้านขนมปังชื่อดังในโยโกฮาม่า ได้นำฮอปส์ ซึ่งเป็นดอกของต้นฮอป พืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่งในพืชดอกวงศ์กัญชา นำมาใช้ในการหมัก
          ดังนั้น สิ่งที่ได้ก็คือของกินที่หลอมรวมระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัว
          “ยาสุเบ คิมูระ (Yasubei Kimura)” เจ้าของร้านคิมุรายะ และบุตรชาย “เอซาบุโร คิมูระ (Eizaburo Kimura)” ได้คิดวิธีการพัฒนาด้วยการเปลี่ยนจากฮอปส์ เปลี่ยนเป็นเหล้าสาเกในการหมัก ทำให้ขนมปังมีรสชาติความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังมีการผสม “อังโกะ (Anko)” หรือถั่วแดงกวนเข้าไปอีก
          และแล้วอันปังก็ได้ถือกำเนิด
          แต่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ชั้นยอด ก็คือโปรโมชั่นและการตลาดที่สุดยอด ซึ่งอันปังก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
          “ยามาโอกะ เทสชู (Yamaoka Tesshu)” ซามูไรระดับสูงผู้หนึ่งซึ่งรู้จักกับสองพ่อลูกคิมูระ เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบอันปังเป็นอย่างมาก และคิดว่าสมควรถวายอันปังให้องค์จักรพรรดิได้ลองเสวย
          เทสชูได้ส่งอันปังซึ่งตกแต่งด้วยดอกซากุระดองไปถวาย “จักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji)” ซึ่งจักรพรรดิเมจิก็ทรงโปรดอันปังเช่นกัน และมีรับสั่งให้สองพ่อลูกคิมูระส่งอันปังมาถวายเรื่อยๆ
          จากเหตุการณ์นี้ อันปังก็โด่งดังและแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น
          หลังจากความสำเร็จของอันปัง ขนมปังอื่นๆ ก็ตามออกมา ทั้งขนมปังไส้ครีม ขนมปังแยม ขนมปังเมล่อน รวมทั้งขนมปังไส้อาหารคาวอย่างขนมปังไส้แกงกะหรี่กับขนมปังไส้ยากิโซบะ
          ในทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าขนมปังแบบตะวันตกจะแพร่หลายในญี่ปุ่น แต่อันปังและขนมปังแบบญี่ปุ่นชนิดอื่นๆ ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
          จะเห็นได้ว่าอันปังได้กลายเป็นขนมปังที่โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก แต่อันปังกลายเป็นฮีโร่ได้อย่างไร?
          คำตอบคือ “อันปังแมน (Anpanman)”
          อันปังแมน คือการตูนญี่ปุ่นฝีมือการรังสรรค์ของ “ทาคาชิ ยานาเสะ (Takashi Yanase)” นักวาดการ์ตูนและกวีชาวญี่ปุ่น และอันปังแมนก็ได้รับความนิยมไปทั่ว
          อันปังแมนคือฮีโร่ที่มักจะมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเวลาหิวโหย ให้คนที่หิวนั้นกินศีรษะของอันปังแมนเพื่อประทังความหิว ซึ่งคุณลุงที่ทำขนมปังก็จะนำศีรษะใหม่มาใส่ให้อันปังแมนอยู่เรื่อยๆ
           อันปังแมนปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนเมื่อปีค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) และออกอากาศในรูปแบบอนิเมะทางโทรทัศน์ตั้งแต่ปีค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) และโด่งดังเคียงคู่การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆ
          ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ อันปังแมนยังมีสาส์นบางอย่างที่สะท้อนมายังทุกคน แม้กระทั่งปัจจุบัน
          ทาคาชิ ยานาเสะได้เข้าร่วมกับกองทัพในช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (Second Sino-Japanese War) และได้สูญเสียน้องชายในสงคราม
          หลังจากสงครามจบลง ยานาเสะเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับสงคราม โฆษณาปลุกใจต่างๆ ในช่วงสงครามที่ยานาเสะเคยอินไปด้วย เริ่มจะทำให้เขารู้สึกเอ๊ะและตั้งคำถาม และคำถามสำคัญก็คือ
          “อะไรคือความยุติธรรมที่แท้จริง?”
          ในการ์ตูนและภาพยนตร์ฮีโร่ทั้งหลาย มักจะจบลงด้วยการที่ฮีโร่จัดการโค่นเหล่าร้ายหรือสัตว์ประหลาดลงได้ หากแต่สำหรับยานาเสะนั้น เขามีมุมมองที่ต่างออกไป โดยเขาได้เคยแสดงความเห็นว่า
          “สัตว์ประหลาดเหล่านี้จะต้องมีเรื่องราวของตนเอง อะไรคือสิ่งที่ถูกก็อาจจะต่างออกไปขึ้นอยู่กับว่าคุณมองจากด้านไหน ความยุติธรรมที่แท้จริงนั้นไม่ใช่การทำลายฝ่ายตรงข้าม หากแต่คือการแบ่งปันชิ้นขนมปังให้คนที่กำลังหิวโหย และกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยเหลือคนที่กำลังจะจมน้ำ ถึงแม้ว่าความช่วยเหลือนั้นจะทำให้เราต้องเจ็บตัวหรือลำบากไปด้วยก็ตาม”
          ด้วยแนวคิดนี้ จะเห็นได้ว่าอันปังแมนไม่เคยทำลายศัตรูเลย เพียงแค่เข้าไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำผิด หากแต่ไม่ได้ทำลายหรือตัดสินใคร
          ส่วนสาเหตุที่ยานาเสะเลือกให้ตัวเอกเป็นอันปัง นั่นก็เพราะตัวยานาเสะเองก็ชอบอันปังเป็นอย่างมาก และคิดว่าอันปังคือส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก
          และความโด่งดังของอันปังก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่ชาวญี่ปุ่นหรือเอเชียเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงตะวันตก ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็น่าจะมาจากสื่ออนิเมะและมังงะ
          ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขนมปังญี่ปุ่นก็เริ่มจะมีที่ยืนในหมู่ชาวอังกฤษ โดยร้าน “แฮปปี สกาย เบเกอรี (Happy Sky Bakery)” ซึ่งเป็นร้านขนมปังสไตล์ญี่ปุ่นในลอนดอนที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้านเบเกอรีที่ดีที่สุดในลอนดอน ก็ได้ให้ข้อมูลว่ามีลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่นเพียง 10-20% เท่านั้น อีก 80-90% นั้นไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น
          นี่ก็เป็นเรื่องราวการเดินทางของอันปัง ขนมปังญี่ปุ่นที่กลายเป็นเหมือนสมบัติชาติของชาวญี่ปุ่น
          โดยส่วนตัว ผมเฉยๆ กับรสชาติของอันปัง แต่เมื่อเขียนบทความนี้เสร็จ ตัวผมชักเริ่มอยากกินอันปังขึ้นมาแล้วสิ แล้วคุณล่ะครับ ชอบอันปังหรือไม่?
          สั่งซื้อหนังสือ “ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง 5,000 ปีของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง โกหก ปลอมแปลง” ได้ตามลิ้งค์นี้นะครับ

References:

Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่
เรื่องอื่นๆของ ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา
Advertisements
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อันปัง... จากขนมปังญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกติดใจ สู่การเป็นฮีโร่อันปังแมน อัปเดตล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:00:19
TOP